ปราจีนบุรี - แม่เด็กสาวที่ป่วยทางสมองเข้าแจ้งความ สงสัยลูกสาวถูกหลวงตาหลอกล่วงละเมิดทางเพศเพื่อแลกกับเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเบื้องต้น
วันนี้ (14 ธ.ค.) จากกรณีที่มีคลิปเหตุการณ์ที่ชาวบ้านแอบถ่ายขณะที่ผู้หญิงคนหนึ่งพยายามบังคับให้ลูกสาวที่นั่งร้องไห้ ให้ลุกขึ้นกลับบ้าน ทำให้ลูกสาวร้องไห้ตลอดเวลา หลังคลิปเผยแพร่มีคนมาแสดงความเห็นจำนวนมาก
เบื้องต้น ทราบว่าเหตุการณ์เกิดที่บ้านต้น ม.2 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าของคลิประบุว่า หญิงทั้ง 2 คน ในคลิปเป็นแม่ลูกกัน โดยแม่ได้ทำร้ายลูกสาวซึ่งสติไม่สมประกอบ ก่อนหน้านี้ ลูกสาวมีอาการปกติ เป็นเด็กเรียนดี กระทั่งเรียนจบ ม.3 ถูกแม่ทำร้ายจนสติไม่ดี ที่ผ่านมา ได้แจ้งให้จ้าหน้าที่ได้เข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ยังมีการทำร้ายลูกบ่อยครั้ง จนตนเองทนไม่ไหวต้องถ่ายคลิปเอาไว้ และเชื่อว่าหากเด็กสาวได้รับการรักษาอย่างดีจะหายเป็นปกติได้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือเพราะสงสารเด็ก
ซึ่งหลังจากที่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด นางรัชฎภรณ์ แหวนเพ็ชร วิชาชีพนักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ พบกับ นางประคอง (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี บ้านเลขที่ 51 หมู่ 8 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม มารดา น.ส.อร (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นคนพิการ และป่วยจิตเวช ซึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ต.วีรพล สิทธิพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สงสัยว่าบุตรสาวจะถูกหลวงตาในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอประจันตคาม ล่วงละเมิดทางเพศ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี
จากนั้น พ.ต.ต.วีระพล จึงได้ทำบันทึกส่งตัว น.ส.อร เพื่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลประจันตคาม โดยมีสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรี เป็นผู้พาไป เพื่อพนักงานสอบสวนจะได้รวบรวมพยานหลักฐานจากผลการพิสูจน์ของแพทย์ รวมทั้งจะมีการสอบสวน น.ส.อร อีกครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ทางเจ้าตัวยังให้การไม่รู้เรื่อง ต้องให้แพทย์ทำการรักษาทางจิตก่อน
จากการสอบถาม นางประคอง แม่ของเด็กสาว กล่าวว่า ตอนเช้ามาเอากับข้าวที่วัดพร้อมกับลูกสาว หลวงตาก็ให้เงินลูกสาว 100 บาท ต่อมา ก็เห็นลูกผิดปกติ คือ ลูกอยากมาที่วัดคนเดียว และมาทำไมบ่อยๆ โดยไม่ให้แม่ไปด้วย แม่จึงได้แอบตามไปดูได้ยินเสียงหลวงตาบอกว่า ถอดๆๆ แต่เด็กบอกว่าไม่ถอดถ้าไม่ได้ 2-3 ร้อย ก็ไม่ถอด แล้วหลวงตาถามว่า แม่ตามมาไหมแล้วก็สอดสายตามองหาแม่ ตนจึงคิดว่าหลวงตาอาจมีอะไรกับลูกของตน เพราะลูกสาวหนีมาบ่อย ผิดสังเกตที่ว่าทำไมไม่ให้แม่ และน้องมาด้วย เมื่อวันที่ 11 ได้เงินมา 200 และบอกว่าเก็บได้ จึงเข้าแจ้งความ
“ลูกสาวก็ป่วยเกี่ยวกับจิตเวชนาน 2 ปีกว่าแล้ว ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมศึกษา 4 ตามคลิปที่มีคนโพสต์ถึงการทำร้ายลูก และตบตีลูกบ่อยๆ ตนเองยอมรับว่าทำลูกจริง ทำผิดจริง เพราะลูกไม่ยอมกลับ ตนบังคับลูกไม่ไหวคนเดียว บางครั้งลูกก็อยู่กลางถนน บางครั้งก็เดินไปเรื่อยเปื่อย จนบางทีหน่วยกู้ภัยต้องมาส่งที่บ้านเพราะเขาจำได้ ส่วนพ่อก็ทำงาน เป็นโรคตับ แต่ก็ต้องไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว บางครั้งเกิดอาการเครียดจะเป็นโรคประสาทไปอีกคน ซึ่งตนพยายามที่จะสอบถามความจริงจากลูก แต่ลูกไม่ยอมบอก จึงเกิดความโมโหที่ทำลงไป” นางประคอง กล่าว
ด้าน นางรัชฎภรณ์ แหวนเพร็ช วิชาชีพนักงานสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ กล่าวว่า ทราบข่าวจากสื่อโซเชียลในส่วนของ พม.จ.ปราจีนบุรี ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในกรณีนี้เรายังไม่สามารถฟันธงได้ว่า ใครเป็นผู้กระทำ หรือกระทำจริงหรือเปล่า ต้องประสานกับฝ่ายปกครอง และสำนักพุทธศาสนาให้มาหารือร่วมกันในกรณีที่เรายังไม่สามารถตั้งข้อหาได้ ถ้าจะถามว่าถูกอนาจารไหม น้องเขายังมีอาการทางสมองอยู่ ก็ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าน้องให้การได้ระดับหนึ่ง ซึ่งตำรวจก็ยังไม่ฟันธงว่าถูกข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่ ก็ต้องนำเด็กไปตรวจร่างกายให้ทางแพทย์ดูอาการทางจิตด้วย
และหากอาการทางจิตดีขึ้นก็อาจให้การได้ชัดเจนมากขึ้น หลังจากนั้น จะนำน้องไปคุ้มครองสวัสดิภาพไว้ก่อนที่บ้านพักเด็ก และทางเราก็ได้วางแผนระยะยาวว่า จะประเมินสภาพครอบครัวแล้วอาจจะไม่สามารถเลี้ยงดูน้องได้อย่างปลอดภัยเหมือนเดิม ก็ต้องนำน้องไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยของรัฐต่อไป
