บุรีรัมย์ - ยังไม่จบ! พ่อเยาวชนวัย 14 ปีที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยลอตเตอรี่เจ้าปัญหา 12 ล้านที่ตำรวจแถลงปิดคดีไปเมื่อวานนี้ หอบหลักฐานเข้าแจ้งความเอาผิด “ปื๊ด” หนุ่มบุรีรัมย์ที่แจ้งความลอตเตอรี่ 12 ล้านหายและกล่าวหาเด็กเป็นคนขโมยไป ฐานแจ้งความเท็จ-หมิ่นประมาท ขณะเด็กเปิดใจครั้งแรกหลังถูกตราหน้าเป็นหัวขโมยไม่กล้าออกจากบ้าน
วันนี้ (13 ธ.ค.) กรณีพิพาทลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่มีการแจ้งความว่าลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 12 ล้านบาทหาย ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 เดือน และเมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ตำรวจได้มีการแถลงปิดคดีไปเรียบร้อยแล้ว โดยการนำหลักฐานผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ ดีเอ็นเอ บนลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวมาแถลงต่อหน้าคู่กรณีทั้งสองฝ่าย โดยผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์พบเป็นลายนิ้วมือของสองสามีภรรยาชาว จ.ร้อยเอ็ด ที่เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลตัวจริง และทางหนุ่มบุรีรัมย์ที่เข้าแจ้งความว่าลอตเตอรี่หายก็ยอมรับผลตรวจ พร้อมทั้งได้กล่าวขอโทษและยกมือไหว้สองสามีภรรยา ซึ่งทั้งสองฝ่ายไม่ติดใจเอาเรื่องเอาความซึ่งกันและกัน เหมือนว่าเรื่องราวจะจบลงด้วยดีแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ จ่าสิบเอก จำลอง เป้าชุมแสง พ่อของเด็กชายวัย 14 ปี ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ 12 ล้านบาทมาจากบ้านของนายพันธุ์ศักดิ์ เสือชุมแสง หนุ่มที่แจ้งความว่าลอตเตอรี่หาย พร้อม นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม และ ด.ช.เอ (นามสมมติ) ที่ถูกกล่าวหาได้นำหลักฐาน สำเนาบันทึกประจำวันการแจ้งความ ข้อความที่สนทนาและถูกต่อว่าผ่านเฟซบุ๊ก และเอกสารที่เกี่ยวข้อง เข้าแจ้งความที่ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เพื่อให้เอาผิดนายพันธุ์ศักดิ์ ฐานแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาท ซึ่งเบื้องต้นทางตำรวจได้รับลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการขั้นตอน
จ่าสิบเอก จำลองกล่าวว่า ที่มาแจ้งความในวันนี้เพราะต้องการเอาผิดนายพันธุ์ศักดิ์ ฐานแจ้งความเท็จ และหมิ่นประมาท โดยเชื่อว่าลอตเตอรี่ไม่ได้หายจริงแต่กลับไปแจ้งว่าหาย ส่วนเรื่องการขอโทษเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะการที่ลูกชายถูกกล่าวหาทำให้เสื่อมเสียทั้งตัวลูกชายและครอบครัว ทำให้กระทบการใช้ชีวิตไปไหนมาไหนถูกตราหน้าว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ แม้จะเป็นญาติกันก็ตาม
ด้าน นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า ที่พาพ่อและเด็กมาแจ้งความในครั้งนี้เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม หลังถูกกล่าวหาว่าขโมยลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัล 12 ล้านบาท ทำให้ผู้ที่ถูกกล่าวหาได้รับความเสียหาย กระทบต่อการใช้ชีวิต และอยากให้กรณีดังกล่าวเป็นกรณีตัวอย่าง หากมีคนมาแจ้งความว่าลอตเตอรี่หาย แต่สุดท้ายเมื่อพิสูจน์แล้วไม่ได้หายหรือไม่ได้ถูกรางวัลจริง แต่กลับสรุปว่าเป็นการเข้าใจผิดและไม่ถูกแจ้งความใดๆ
ขณะที่ ด.ช.เอ วัย 14 ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย เปิดใจครั้งแรกว่า หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยลอตเตอรี่ก็ตกเป็นจำเลยสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นหัวขโมย ไม่กล้าออกจากบ้าน ทำให้กระทบต่อการใช้ชีวิต ทั้งที่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้ขโมยลอตเตอรี่ตามที่ถูกกล่าวหา อยากจะขอความเห็นใจจากสังคมให้ความเป็นธรรมแก่ตนเองและครอบครัวด้วย
