กาฬสินธุ์ - ได้ตัวแล้ว ลูกจ้างแสบเชิดเงินขายข้าวเปลือกกว่า 7 แสนบาท หลังตำรวจ สภ.กมลาไสยตามรวบได้ที่อำเภอชุมแพ ทั้งเตรียมก่อเหตุซ้ำกับนายจ้างรายใหม่อีก พบประวัติสุดแสบเคยก่อเหตุเชิดเงินนายจ้างมาหลายพื้นที่
จากกรณี นายอินทร์ ภูกองสังข์ อายุ 71 ปี เจ้าของลานรับซื้อข้าวเปลือกพ่ออินทร์รุ่งเรือง เลขที่ 400 หมู่ที่ 2 ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กมลาไสย ให้จับกุมตัวนายเกรียงไกร หรือเบนซ์ เขียวสา อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 195 หมู่ที่ 10 ต"นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นลูกจ้างและทำหน้าที่ขับรถบรรทุก หลังจากให้ไปส่งข้าวเปลือกที่โรงสีใน จ.ร้อยเอ็ด แต่กลับนำรถบรรทุกมาจอดทิ้งไว้ และเชิดเงินค่าขายข้าวจำนวน 665,610 บาทหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมาตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันนี้ (7 ธ.ค. ) พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ , พ.อ.มานพ ไขขุนทด รอง ผอ.กอ.รมน.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.กาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการติดตามจับกุมตัวนายเกรียงไกร หรือเบนซ์ เขียวสา อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับในคดียักยอกทรัพย์ หลังก่อเหตุเชิดเงินค่าขายข้าวของนายอินทร์ ภูกองสังข์ อายุ 71 ปี เจ้าของลานรับซื้อข้าวเปลือกพ่ออินทร์รุ่งเรือง จำนวน 665,610 บาท และหลบหนีไปกบดานที่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลไสยตามไปจับตัวได้ ขณะกำลังเตรียมที่จะไปสมัครงานเป็นลูกจ้างขับรถบรรทุกให้กับบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง พร้อมของกลางเงินสด 93,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์ 150 ซีซี 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และทีวีอีก 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังมีของกลางเงินสดจำนวน 99,000 บาท แหวนทองน้ำหนัก 3.8 กรัม 1 วง ซึ่งยึดได้จาก น.ส.รักษ์มณี ไพรลึก แฟนสาวของนายเกรียงไกร ที่ก่อนหน้านี้ถูกแจ้งข้อหารับของโจร
นายเกรียงไกร เขียวสา รับสารภาพว่า ตนเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 1 ครั้ง ในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยทำทีไปสมัครเข้าทำงาน ซึ่งนอกจากจะขับรถบรรทุกแล้วจะยอมทำทุกอย่าง ทั้งล้างรถ กวาดบ้าน กวาดถนน ซื้ออาหาร เพื่อให้นายจ้างไว้วางใจ จากนั้นหากนายจ้างให้ไปส่งของและรับเงินมาด้วยก็จะนำเงินหลบหนีไป โดยเงินที่ได้ไปจะนำไปซื้อข้าวของเครื่องใช้และเที่ยวเตร่
ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากคำให้การของผู้ต้องหาตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่าเคยก่อเหตุมาเพียงครั้งเดียว เนื่องจากการตรวจสอบประวัตินายเกรียงไกร เขียวสา ผู้ต้องหารายนี้ถือว่ามีประวัติโชกโชน และก่อคดีที่กระทำความผิดต่อนายจ้างในหลายท้องที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ก่อเหตุคดียักยอกทรัพย์พื้นที่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุคดียักยอกทรัพย์และยาเสพติดในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และมีคดีเกี่ยวกับยาเสพติดอีก 1 คดีในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีเจ้าทุกข์แจ้งความไว้จำนวนมาก
ล่าสุดเข้ามาก่อเหตุเชิดเงินนายจ้างเจ้าของลานรับซื้อข้าวในพื้นที่ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ จนกระทั่งถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว ลักษณะพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการเดินสายตระเวนก่อเหตุ โดยอาศัยความไว้เนื้อเชื่อใจของนายจ้างเข้ามาสมัครงาน ก่อนที่จะหักหลังและนำเงินจำนวนมากหลบหนีไป จึงอยากฝากเตือนผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ รวมทั้งโรงสี และลานรับซื้อข้าวเปลือกก่อนจะตัดสินใจรับบุคคลเข้ามาทำงานนั้นควรตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดด้วย
ขณะที่นายอินทร์ รุ่งเรือง เจ้าของลานรับซื้อข้าวเปลือกพ่ออินทร์รุ่งเรือง ผู้เสียหาย กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นความผิดพลาดเกิดจากการไว้วางใจ เพราะเห็นว่าเป็นคนดี จึงรับสมัครเข้ามาทำงานด้วย เป็นบทเรียนสำคัญว่าต่อไปคงจะดูหน้าตาอย่างเดียวไม่ได้ จะต้องเช็กประวัติ และตรวจสอบประวัติอย่างละเอียดก่อนรับเข้าทำงาน และจะไม่ให้คนงานถือเงินจำนวนมากแบบนี้อีก ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว
