พระนครศรีอยุธยา - กรมการขนส่งทางบก เตรียมออกกฎเข้มต่อผู้ประกอบการขนส่งโดยสาร กู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว หลังเกิดเหตุรถตู้นำนักท่องเที่ยวชนท้ายรถพ่วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย
วันนี้ (10 พ.ย.) ที่สถานีตำรวจภูธรบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าคดีรถตู้นำนักท่องเที่ยวชนท้ายรถพ่วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย พร้อมชี้แจงการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางบก ขณะนี้คดีดังกล่าวยังอยู่ในกระบวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ล่าสุด ผู้ประกอบการขนส่ง บริษัท อาร์.แอล. เซอร์วิส จำกัด ได้มอบหมายให้ นายมานิต ศรีทอง ทนายความเป็นผู้แทนเข้าร่วมชี้แจงรายละเอียด และแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตแล้ว
นายกมล บูรณพงศ์ กล่าวว่า แม้ขณะนี้ผลทางคดีจะยังไม่ได้ข้อสรุปแน่ชัด แต่เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุร้ายแรง จึงได้สั่งถอนรถตู้คันเกิดเหตุออกจากบัญชีประกอบการขนส่ง และให้บริษัทนำรถทั้งหมดในบัญชีกว่า 80 คัน เข้ารับการตรวจมาตรฐาน และให้พนักงานขับรถของบริษัทเข้ารับการอบรมด้านความปลอดภัยในการขับรถ เพื่อกู้ภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ซึ่งหลังจากนี้ กรมการขนส่งทางบก จะออกมาตรการเข้มในเรื่องความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน โดยจะเข้มงวดในการออกใบขับขี่ให้แก่ผู้ขับรถโดยสาร และในอนาคตจะกำหนดเส้นทางวิ่งของรถบรรทุกขนาดใหญ่ให้แยกออกจากรถทั่วไป รวมทั้งออกข้อบังคับให้ผู้ประกอบการขนส่งมีผู้จัดการดูแลด้านความปลอดภัยอีกด้วย
“ในอนาคตอันใกล้เราจะมีการกำหนดให้ผู้ประกอบการขนส่งจะต้องมีผู้จัดการดูแลในด้านความปลอดภัย หมายความว่า ในการประกอบการด้านการขนส่งจะต้องมีบุคลากรเข้ามาดูแลในเรื่องของตัวรถ พนักงานขับรถ ควบคุมความเร็ว และระยะเวลาการทำงาน ตรงนี้ก็เป็นเงื่อนไขหนึ่งที่ในกลุ่มสหภาพยุโรป และประเทศที่พัฒนาแล้วได้นำมาใช้ ซึ่งมาตรการนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่กรมฯ กำลังเร่งรัดให้มีหลักเกณฑ์ในส่วนนี้ขึ้นมา”
สำหรับการช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต รถตู้คันที่ก่อเหตุได้ทำประกันภัยไว้ เบื้องต้น มีประกันภัย พ.ร.บ.คุ้มครองกรณีเสียชีวิตรายละ 3 แสนบาท นอกจากนี้ ยังมีประกันภัยภาคสมัครใจ โดยจะจ่ายกรณีมีผู้เสียชีวิตอีกรายละ 1 แสนบาท รวมเบื้องต้นรายละ 4 แสนบาท ซึ่งในสองส่วนนี้จะสามารถจ่ายได้ทันที ส่วนการช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้นจะต้องรอผลการพิจารณาคดีอีกครั้ง
