จันทบุรี - หญิงชราวัย 80 ปี แบกภาระเลี้ยงดูหลานป่วยติดเตียงนานกว่า 2 ปี เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลูกชายวัยทำงานมาล้มป่วยต้องผ่าตัดลำไส้ทิ้งถึง 6 ครั้ง หญิงชราก้มหน้าดูแลทั้งลูกและหลานที่ช่วยตัวเองไม่ได้ด้วยเบี้ยยังชีพเดือนละ 700 บาท วอนสังคมให้การช่วยเหลือ
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เทศบาลตำบลวันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี เพื่อพบกับคุณยายประมวล สมุททัย อายุ 80 ปี หลังทราบเรื่องจาก พันจ่าตรีเมธา พรตเจริญ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวันยาว ว่า มีหญิงชราวัย 80 ปี มีโรคความดันสูง ไม่มีอาชีพ ต้องแบกรับภาระดูแลหลานชาย คือ นายกิตติศักดิ์ สินสมุทรอายุ 20 ปี ที่ป่วยติดเตียงมานานกว่า 2 ปี เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลูกชาย นายสินสมุทร สมุทัย วัย 48 ปี บิดาของ นายกิตติศักดิ์ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง ช่วยดูแลครอบครัว มาล้มป่วยจนทำงานไม่ได้เพิ่มอีก 1 คน
ทำให้คุณยายต้องแบกรับภาระดูแลทั้งลูก และหลานที่พิการ และเจ็บป่วยด้วยเบี้ยยังชีพเพียงเดือนละ 700 บาท มานานกว่า 2 เดือนแล้ว ส่วนมารดาของนายกิตติศักดิ์ แยกทางกันกับพ่อตั้งแต่ นายกิติศักดิ์ มีอายุเพียง 2 ขวบ
ที่ใต้ต้นไทรในพื้นที่เทศบาล พบ คุณยายประมวล สมุททัย หญิงชรานั่งหลังงองุ้ม รอเบี้ยยังชีพ ด้วยอาการที่อิดโรย หายใจแรง และเหม่อลอย หลังจากสอบถามคุณยาย ทราบว่า คุณยาย เดินเท้ามาจากบ้านเพื่อมารับเบี้ยยังชีพซึ่งทางรัฐบาลมอบให้เดือนละ จำนวน 700 บาท เบี้ยคนพิการของหลานชายอีก 800 บาท เป็นเงิน 1,500 บาท เป็นประจำทุกเดือน
ทุกๆครั้งหญิงชราต้องรีบมา รีบกลับ เพราะลูกกับหลานพิการนอนรออยู่ที่บ้าน พอรับเงินเป็นที่เรียบร้อย คุณยายเดินเท้ากลับบ้านด้วยอาการที่เร่งรีบ แต่ด้วยวัยกว่า 80 ปี ทำให้คุณยายต้องเดินไป พักไป ดวงตาที่มีน้ำตาเอ่อล้นอยู่ตลอดเวลา หญิงชราเดินเข้าไปโรงเรียนเด็กเล็ก ของเทศบาล แล้วเดินกลับออกมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม หญิงชรากลับออกมาพร้อมด้วยถุงกับข้าว จำนวน 3 ถุง
จากการสอบถามทราบว่า ทางโรงเรียนให้คุณยาย มารับอาหารได้ทุกวัน ซึ่งสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้หญิงชราได้เป็นอย่างดี ลำบากก็แต่วันเสาร์ วันอาทิตย์ และช่วงปิดเทอม ยายต้อง หาอาหารเอง ทั้งลูกทั้งหลาน ทุกวันยายประมวล ต้องเดินเท้าลัดป่า ข้ามคลองเพื่อมาขอแบ่งปันอาหาร ที่ทางโรงเรียนมอบให้
ในวันนี้มีคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลวันยาว นำโดย นายศุภวัฒน์ บุญลาภ พันจ่าตรีเมธา พรตเจริญ รองนายก สมาชิกสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล ต.วันยาว อ.ขลุง จ.จันทบุรี ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อสอบถามถึงความเป็นอยู่ของ คุณยายประมวล ภายในบ้านเช่าเลขที่ 36 หมู่ ต.วันยาว ซึ่งเป็นบ้านเช่า คุณยายต้องแบกรับภาระจ่ายค่าเช่าบ้านอีกเดือนละ 1,200 บาท
ภายในบ้านซึ่งมีข้าวของจัดวางค่อนข้างเป็นระเบียบเรียบร้อย คุณยายประมวล พาเราเดินเข้าไปดูหลานที่นอนป่วยติดเตียงมานานกว่า 2 ปีแล้ว โดยในช่วงแรกๆ จะมีเพื่อนๆ แวะเวียนมาเยี่ยมบ้าง แต่ตอนหลังไม่มีมาเลย คุณยายเล่าให้ฟังว่า หลานชายประสบอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม ได้รับบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่อายุ 18 ปี ขณะนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ขลุง นานกว่า 2 ปีแล้ว ที่หลานชายต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง พูดไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย ตนจำเป็นต้องมัดมือหลานไว้ ไม่เช่นนั้นเขาจะดึงสายต่างๆ ออกหมด ช่วงแรก ยังมีนายสินสมุทร สมุททัย บิดาของหลานชายคอยช่วยกันดูแล
หลานชายจะกินอาหารทางสายยาง เป็นอาหารเหลว ถุงละ 720 บาท เขาจะกินเดือนละ 2 ถุง รวมเป็นเงิน 1,440 บาท มีค่าผ้าอนามัย (แพมเพอร์ส) สำหรับผู้ป่วย เพิ่มเข้ามาอีกเพื่อป้องกันหลานชายขับถ่ายเลอะเทอะ โดยจะมีเพื่อนบ้าน และหลานสาวนำความช่วยเหลือ นำนมกล่องที่โรงเรียนแจกมาให้บ้างเป็นบางครั้ง
มาช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายคือ นายสินสมุทร ซึ่งมีอาชีพรับซื้อของเก่า เกิดล้มป่วยมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง คุณหมอบอกว่าพังผืดเกาะผนังลำไส้ ต้องผ่าตัดทิ้ง หลังผ่าตัดครั้งแรก ก็ยังพอทำงานได้บ้าง แต่มาตอนหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดอีก รวมทั้งสิ้น 6 ครั้งเนื่องจากลำไส้อักเสบอย่างรุนแรง ปัจจุบัน เป็นผู้ป่วยอยู่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี โดยการเดินทางไปหาหมอแต่ละครั้งจะมีค่าเช่ารถเพิ่มมาอีกครั้งละ 300 บาท
ปัจจุบัน ลูกชายพูดไม่ได้ ทำงานไม่ได้ ไม่มีรายได้ ทำให้คุณยายประมวล ต้องแบกรับภาระดูแลทั้งลูก ทั้งหลานที่พิการ ทั้งต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก อีกทั้งคุณยาย มีรายได้จากเบี้ยยังชีพ 700 บาท และเบี้ยคนพิการของหลานชายเพียงเดือนละ 800 บาท รวมเป็น 1500 ซึ่งไม่เพียงพออย่างแน่นอน บางวันหญิงชราต้องกินข้าวกับส้มโอ คลุกน้ำตายอ้อย เพื่อประทังชีวิต ไม่รู้จะอยู่ได้นานอีกสักแค่ไหน สิ้นหญิงชราแล้วลูกหลานใครจะดูแล แล้วแต่เวรแต่กรรม หญิงชราวิงวอนให้ตนเองสิ้นลมเป็นคนสุดท้าย เพื่อจะได้ดูแลเขาทั้งสองจนหมดลมหายใจ
โดยล่าสุด ทางเทศบาลได้นำความช่วยเหลือไปแล้วเป็นบางส่วนในระยะสั้น และเสนอชื่อให้เข้ารับถุงยังชีพจากกาชาดจ.จันทบุรี แล้วระยะยาว คุณยายจะอยู่อย่างไร ทั้งนี้ หากใครต้องการช่วยเหลือคุณยาย สามารถโอนเงินสมทบทุนได้ที่หมายเลขบัญชี 2050184514 ธ.กรุงไทย นางประมวล สมุททัย
