มอญเปิดเมือง..ดึงทุนทัวร์ไทยบูมท่องเที่ยวเมาะละแหม่ง-ตำนานรัก “เจ้าน้อยศุขเกษม-มะเมียะ”

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รัฐมอญเปิดเมืองจัดเทศกาลท่องเที่ยว ดึงทุนทัวร์ไทยทั้งเหนือ-ใต้-อีสาน สำรวจเส้นทางท่องเที่ยวผ่านด่านฯแม่สอด-เมียวดี บูม “เมาะละแหม่ง” แผ่นดินในตำนานรัก “เจ้าน้อยศุขเกษม-มะเมียะ” ที่เคยสาบานรักกันที่ “เจดีย์ไจ๊ตะหลั่น”

หอการค้า-สภาอุตสาหกรรมรัฐมอญ พม่า ได้เปิด “เทศกาลท่องเที่ยวรัฐมอญ” หรือ “Mon State Tours Festival” ขึ้น โดยเชิญตัวแทนหอการค้าจังหวัดตาก และคณะผู้ประกอบการบริษัทท่องเที่ยวจากไทย ทั้งเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย ร้อยเอ็ด พิจิตร พิษณุโลก ระนอง กระบี่ ชุมพร เข้าสำรวจแหล่งท่องเที่ยวผ่านด่านถาวรแม่สอด-เมียวดี ส่วนของ EWEC (East-West Economic Corridor) ระหว่าง 23-25 ก.ย.ที่ผ่านมา เพื่อผลักดันรูตการท่องเที่ยวไทย-เมาะละแหม่ง ร่วมกันในอนาคต

โดยมี Dr. Aye Zan มุขมนตรีแห่งรัฐมอญ (Chief Minister of Mon State) และคณะรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ, สภาหอการค้าและอุตสาหกรรมรัฐมอญ (Mon State Chamber of Commerce and Industry) สมาคมโรงแรมแห่งรัฐมอญ (Mon State Hotelier Association) และส่วนงานราชการต่างๆ ของรัฐมอญที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ร่วมต้อนรับ

ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐมอญได้นำคณะบริษัททัวร์ไทยเข้าเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และมีศักยภาพที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เริ่มจากการเข้าเยี่ยมชมและสักการะ “เจดีย์ไจ๊ตะหลั่น” (Kyaik Than Lan Pagoda) เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์สีทององค์ใหญ่บนเนินเขา เป็นดั่งสัญลักษณ์ของเมืองเมาะละแหม่งแห่งนี้ และเป็นเจดีย์ที่ “เจ้าน้อยศุขเกษม” เจ้าน้อยแห่งเมืองเชียงใหม่ในอดีต และ “มะเมียะ” สาวน้อยชาวบ้านพบปะตกหลุมรัก และได้มาสาบานรักกัน

และจากการที่เมาะละแหม่งตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษและได้รับอิทธิพลและอารยธรรมแบบอังกฤษมา ทำให้ทุกวันนี้เมาะละแหม่งเป็นเมืองที่ยังคงมีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลให้ได้สัมผัส ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยว ปั่นจักรยาน หรือเช่ารถท่องเที่ยวผ่านอาคารบ้านเรือน โบสถ์คริสต์ศาสนา สถานที่ราชการ โรงเรียนต่างๆ และวัดวาอาราม เจดีย์แบบพม่าอันสวยงามได้ทั่วเมือง

โดยเฉพาะ “โบสถ์เซนต์แพททริค” (St. Patrick's Church) โบสถ์เก่าแก่ที่ทุกวันนี้ยังใช้ประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ ด้านหน้ามีรูปปั้นพระเยซูตรึงไม้กางเขน ตัวโบสถ์มีหอนาฬิกาสูงใหญ่ตั้งเด่นเป็นสง่า ด้านข้างเป็นที่ตั้งของโรงเรียนเซนต์แพททริค อดีตโรงเรียนกินนอนที่ “เจ้าน้อยศุขเกษม” ถูกส่งตัวมาเรียนวิชาการป่าไม้ ซึ่งทุกวันนี้โรงเรียนแห่งนี้ก็ยังเปิดสอนอยู่ แต่เป็นโรงเรียนสอนวิชาชีพ หรือสารพัดช่างแทน สภาพอาคารแม้จะดูเก่าแก่ไปตามกาลเวลาแต่ก็แฝงไว้ด้วยมนต์เสน่ห์

ส่วนที่ “เมืองมุดง” ปลายทางรถไฟสายมรณะ ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และอยู่ใกล้กับจังหวัดกาญจนบุรีของไทย ก็มีพระนอนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ วัดป่าวินเส่งตอว์ยะ (Win Sein Taw Ya), เจดีย์กลางน้ำไจ๊คะมี ซึ่งเป็นเจดีย์ที่สร้างยื่นออกไปในมหาสมุทรอินเดีย และพิพิธภัณฑ์ตัสบูเซยัส

และเมื่อเดินทางต่อไปที่เมืองไจ๊โทว์ ก็จะสามารถเดินทางขึ้นไปสักการะ “พระธาตุอินทร์แขวน” พระธาตุประจำปีเกิดปีจอ หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพม่าด้วย