นครสวรรค์ - ชาวเน็ตรุมถล่มพฤติกรรมรถรับ-ส่งพนักงานโรงงานแถบลพบุรีทำเกิดอุบัติเหตุประจำ ล่าสุดจักรยานยนต์หญิงชาวปากน้ำโพถูกชน-ทับดับพร้อมลูกสาววัย 12 ขวบคาชุดนักเรียน แต่คดีไม่คืบ จนพ่อต้องออกมาขอสื่อช่วยตามคดี บอกยากจน ต้องยืมเงินทำศพลูก-เมีย กลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายดำรง แผ่วไธสง อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149/9 ม.2 ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ครอบครัวตนได้ไปเช่าบ้านเพื่อทำงานโรงงานในจังหวัดลพบุรี กระทั่ง 29 มิ.ย. 60 เวลาประมาณ 06.27 น. ระหว่างนางนวรัตน์ แผ่วไธสง ภรรยา ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กฏ 2268 พระนครศรีอยุธยา เพื่อพา ด.ญ.สุกฤตยา แผ่วไธสง อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ป.6 นั่งซ้อนท้ายไปส่งโรงเรียนวัดใหม่จำปาทอง ถนนพหลโยธิน 1 ขาเข้า กม.146 ม.1 ต.นิคมสร้างตนเอง อ.เมืองลพบุรี
แต่ก่อนถึงโรงเรียนเพียงประมาณ 100 เมตรได้ถูกรถบัสรับ-ส่งพนักงาน หมายเลขทะเบียน 30-0487 ลพบุรี พุ่งชนรถจักรยานยนต์ และทับร่างนางนวรัตน์ กับลูกสาว เสียชีวิตคาที่ทันที ซึ่งขณะนั้น ร.ต.อ.เอกวิทย์ ทองทุ่ม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี เป็นเจ้าของคดีดังกล่าว
นายดำรงบอกว่า ต่อมาตนได้นำศพภรรยา และลูกกลับมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนาที่วัดดงจังหัน ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นบ้านเกิด เป็นเวลา 3 วัน ระหว่างที่จัดงานศพได้มีตัวแทนเจ้าของรถบัสนำเงินสดมาช่วยงานศพ จำนวน 2 หมื่นบาท พร้อมพวงหรีด 1 พวง
นายดำรงบอกว่า ตนกลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมาย จึงได้ขอร้องสื่อ เพราะตนเองคนจน ทุกวันนี้ก็อาศัยอยู่บ้านกระท่อมไม้มุงหญ้าคาแฝกเก่าๆ กับญาติที่ ต.เนินขี้เหล็ก อ.ลาดยาว ตอนจัดงานศพลูก-ภรรยา เงินทำศพก็ไม่มี ต้องยืมเงินคนอื่นมาถึง 3 หมื่นบาท
“หลังจากเผาศพลูก-ภรรยาแล้วยังไม่มีใครติดต่อเรื่องคดีเลย ทุกอย่างเงียบหมด ผมจึงวิตกกังวลกลัวไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากฝ่ายรถบัสไม่ติดต่อมา ฝ่ายตำรวจก็ยังเงียบ จึงขอวิงวอนร้องผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าทางคดีอีกทาง ตอนนี้ผมเหลือแต่ภาพถ่ายลูก และภรรยา เสื้อผ้า-กระเป๋าหนังสือของลูกเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุดังกล่าวคนในสังคมออนไลน์ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงพฤติกรรมการขับรถรับ-ส่งพนักงาน โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ในจังหวัดลพบุรี ที่มักจะขับรถเร็ว-เบียดแซงรถราชาวบ้านเพื่อรับ-ส่งคนงานให้ทันตามกำหนดเวลา จนมักจะเกิดอุบัติเหตุเจ็บ-ตายขึ้นประจำ กระทั่งเกิดเหตุกับลูก-ภรรยานายดำรง ชาวนครสวรรค์ ดังกล่าว
