xs
xsm
sm
md
lg

“หลินฮุ่ย” ยังดื้อไม่ยอมให้อัลตร้าซาวด์-ฮอร์โมนพุ่งซ้ำเตรียมลุ้นน้อง"หลินปิง"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “หลินฮุ่ย” ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนดีดพุ่งชี้ต้องรอลุ้นต่ออีกประมาณ 20 วัน ขณะที่พฤติกรรมล่าสุดพบนอนนานกินน้อย เผยมีแผนรองรับกรณี “หลินฮุ่ย” ออกลูกในส่วนจัดแสดง

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งถึงความความคืบหน้าการติดตามการตั้งท้องของ “หลินฮุ่ย” แม่หมีแพนด้าหลังจากที่ได้รับการผสมเทียมตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 ก.พ.60 ที่ผ่านมาว่า วันนี้นับเป็นวันที่ 107 หลังจากที่ได้รับการผสมเทียมแล้ว แต่ยังไม่สามารถทำการอัลตร้าซาวด์ตรวจมดลูกเพื่อติดตามหาการตั้งท้องว่ามีความเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรบ้าง จากที่มีแผนที่จะทำตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.60 แล้ว เพราะ “หลินฮุ่ย” ไม่ยอมให้ความร่วมมือ

อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อวันที่ 18 พ.ค.60 พบว่าระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่ควบคุมการตั้งท้องของ “หลินฮุ่ย” ได้เพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ระดับสูงสุด 939 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริตินิน จากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 พ.ค.60 เคยขึ้นสูงวัดได้ 527 นาโนกรัมต่อมิลลิกรัมคริตินิน ก่อนที่จะเริ่มลดลง จนคิดว่าเป็นระดับสูงสุดแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่เป็นเช่นนั้น เพราะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นมากอีกครั้ง ก่อนที่ในช่วง 2-3 วันนี้จะเริ่มค่อยๆ ลดลง

ทั้งนี้จากลักษณะดังกล่าวเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าขณะนี้การตั้งท้องยังคงดำเนินอยู่ หากระดับฮอร์โมนลดลงจนถึงศูนย์เมื่อใดจะหมายถึงการสิ้นสุดลงของการตั้งท้อง ซึ่งตามข้อมูลสถิติจะมีระยะเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 วัน นับจากวันที่ระดับฮอร์โมนขึ้นสูงสุด จะทราบผลว่าการตั้งท้องสิ้นสุดลงอย่างไร

โดยเวลานี้เจ้าหน้าที่โครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้า ได้เฝ้าจับตาและดูแล “หลินฮุ่ย” อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยความหวังว่าการตั้งท้องครั้งนี้ของ “หลินฮุ่ย” จะสิ้นสุดลงพร้อมกับการได้ลูกหมีแพนด้าตัวใหม่ที่เกิดในประเทศไทย

สำหรับสุขภาพและพฤติกรรมการแสดงออกต่างๆ ของ “หลินฮุ่ย” นั้น ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ “หลินฮุ่ย” สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ดี ใช้เวลาในการนอนหลับพักผ่อนนานถึงวันละประมาณ 20 ชั่วโมง จากปกติที่จะนอนเฉลี่ยวันละ 12-13 ชั่วโมง ส่วนการกินอาหารล่าสุดลดลงเหลือเพียงประมาณวันละ 3-5 กิโลกรัม เท่านั้น จากปกติที่กินเฉลี่ยวันละ 10-12 กิโลกรัม ก่อนที่จะเพิ่มเป็นวันละประมาณ 20 กิโลกรัมในช่วงแรกหลังได้รับการผสมเทียมและลดลง

นอกจากนี้พบว่า “หลินฮุ่ย” มีการแสดงพฤติกรรมทำรังอย่างชัดเจนด้วย โดยมีการหักกิ่งไผ่และลากกระสอบบรรจุใบไผ่นำไปวางกองทำเป็นรังไว้ที่บริเวณมุมของส่วนจัดแสดง ซึ่งเป็นจุดเดียวกับเคยทำรังไว้เมื่อการผสมพันธุ์ครั้งที่แล้ว โดย “หลินฮุ่ย” จะขลุกตัวอยู่ที่จุดดังกล่าวเกือบตลอดเวลาและแสดงพฤติกรรมดื้อรั้นไม่ยอมกลับเข้าคอกกักด้วย

ทั้งนี้จากพฤติกรรมดังกล่าวได้สั่งการให้ทางทีมงานโครงการวิจัยและจัดแสดงหมีแพนด้าในประเทศไทย เตรียมความพร้อมแผนรองรับในกรณีที่ “หลินฮุ่ย” ไม่ยอมกลับเข้าคอกกักและออกลูกในส่วนจัดแสดงไว้แล้ว รวมทั้งเตรียมพร้อมอุปกรณ์ทุกอย่างในการดูแลลูกหมีแพนด้า ซึ่งทางทีมงานได้มีการเตรียมการไว้อย่างสมบูรณ์แล้ว พร้อมทำงานได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง.








กำลังโหลดความคิดเห็น