ยายซึมเศร้า ยังทำใจไม่ได้อยากเห็นหน้าหลานสาวฝาแฝดถูกกระชากไปจากอก (ชมคลิป)

ศรีสะเกษ - ยายซึมเศร้า ยังทำใจไม่ได้อยากเห็นหน้าหลานสาวฝาแฝดถูกพ่อที่ลูกไม่เคยรู้จักกระชากไปจากอก ยันขอให้นายกฯ ประยุทธ์ช่วยเหลือ ขณะพัฒนาสังคมฯ จ.ศรีสะเกษเข้าเยี่ยมให้กำลังใจและแนะนำแนวทางแก้ปัญหา พร้อมจะอำนวยความสะดวกนำยายไปพบหน้าหลานสาวสองคนที่นนทบุรี แต่ต้องมีการเจรจาพูดคุยกันระหว่างญาติทั้งสองฝ่ายเสียก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ภาพทางโลกโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับเหตุการณ์พ่อและยายกับป้าพากันยื้อแย่งเด็กหญิงฝาแฝด คือ น้องใบบัว และน้องใบตอง อายุ 7 ขวบ ซึ่งยายและป้า คือ นางเสาร์ พวงท้าว อายุ 66 ปี และนางปุณณภัทร พวงท้าว อายุ 43 ปี เลี้ยงมาตั้งแต่เกิด และต่อมาพ่อของเด็กได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจและทนายความมารับเด็กไป ท่ามกลางเสียงร้องไห้คร่ำครวญของเด็กฝาแฝดที่ไม่ต้องการจากยายและป้าไปอยู่กับพ่อเพราะไม่ทราบมาก่อนว่าคนที่เป็นพ่อเป็นใครมาจากไหน ต่อมายายได้วอนขอให้นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นธรรมและให้ความช่วยเหลือด้วย โดยล่าสุดพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ ได้เร่งประสานงานกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี เพื่อให้ไปเยี่ยมเด็กฝาแฝด และตรวจสภาพความเป็นอยู่ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (24 เม.ย.) ที่บ้านเลขที่ 27 หมู่ 1 บ้านหนองโปร่ง ต.โคกหล่าม อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายสุพล บริสุทธิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมและให้กำลังใจ นางเสาร์ พวงท้าว และนางปุณณภัทร พวงท้าว ซึ่งพบว่านางเสาร์ยังคงมีอาการเศร้าซึม แววตาเหม่อลอย โดยนางเสาร์ได้นำเอารูปภาพของหลานสาวทั้งสองคน กระปุกออมสิน และตุ๊กตาหมี รวมทั้งเสื้อผ้าของหลานสาวทั้งสองคนมาดูด้วยความรักและคิดถึงอย่างมาก โดยมีบรรดาญาติพี่น้องพากันมาให้กำลังใจยายและป้าเป็นจำนวนมาก และได้ปลอบใจยายว่า หลานไปอยู่กับพ่ออาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันก็ได้

นายสุพล บริสุทธิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจยายและป้าของเด็กฝาแฝด พร้อมทั้งแนะนำวิธีการและแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่งวิธีการที่ดีที่สุดคือ ทำความเข้าใจกันระหว่างพ่อเด็กกับยายและป้า โดยตนได้แจ้งให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี ไปทำความเข้าใจกับพ่อของเด็กเพื่อให้สามารถเจรจากันได้

ทั้งนี้ ตนและคณะพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่ยายและป้าไปเยี่ยมหลานสาวทั้งสองคน แต่ว่าต้องมีการพูดคุยเจรจาตกลงกันทั้งสองฝ่ายให้ได้เสียก่อน เพราะตนเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต้องการให้มีความรักความเข้าใจกันเพื่อให้เด็กสบายใจไม่ต้องให้มีการนำเอากฎหมายมาใช้บังคับในเรื่องนี้ เนื่องจากทุกคนต้องยึดเอาตัวเด็กเป็นหลักเชื่อว่าจะสามารถเจรจาพูดคุยกันได้ด้วยดี ซึ่งล่าสุดจากการที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.นนทบุรี ได้ไปตรวจสอบที่บ้านพ่อของเด็กฝาแฝดแล้ว ปรากฏว่าเด็กทั้งสองคนกับพ่อไม่อยู่บ้าน ทราบจากคนข้างบ้านว่าพ่อเด็กพาเด็กฝาแฝดไปทำงานด้วย ซึ่งจะได้มีการติดตามในเรื่องนี้ต่อไป

นางเสาร์ พวงท้าว กล่าวว่า จนกระทั่งบัดนี้ตนยังทำใจไม่ได้ที่หลานสาวฝาแฝดต้องจากตนไปอยู่กับพ่อ เพราะว่าเสื้อผ้าของกินของใช้ยังอยู่ที่นี่ ไม่รู้ว่าหลานสาวจะไปอยู่อย่างไร ซึ่งหากเลือกได้ตนขอให้หลานสาวทั้งสองคนกลับมาอยู่ด้วยกันกับตน เนื่องจากตนรักหลานทั้งสองคนมาก จึงขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาให้การช่วยเหลือด้วย

ทางด้าน นางปุณณภัทร พวงท้าว กล่าวว่า ขณะนี้ตนทำใจได้บ้างแล้ว เพราะคาดว่าหลานสาวทั้งสองคนจะไปอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้ แต่ที่ตนห่วงเพราะว่าหลานสาวเป็นคนไม่ค่อยชอบพูด อยากกินอะไรจะไม่บอกใคร แต่เป็นเด็กสุภาพเรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามหากมีสิทธิ์เลือกได้ตนขอให้หลานสาวทั้งสองคนกลับมาอยู่ที่บ้านกับตน เพราะตนและญาติพี่น้องทุกคนสามารถที่จะเลี้ยงดูหลานทั้งสองได้เป็นอย่างดี