xs
xsm
sm
md
lg

แปดริ้วเกิดอุบัติเหตุหมู่รายวัน ล่าสุด 12 ล้อชนกระบะเจ็บ 6

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - แปดริ้วเกิดอุบัติเหตุหมู่รายวัน ล่าสุด รถบรรทุก 10 ล้อเสริมเพลา (12 ล้อ) พุ่งชนประสานงากับรถกระบะ 4 ประตู เจ็บ 6 ขณะคนขับรถบรรทุกพยายามหลบหนีแต่ไปไม่รอด หลังถูกชาวบ้านช่วยกันติดตามถ่ายภาพแผ่นป้ายทะเบียนหลังเอาไว้ได้ จึงต้องยอมหยุดจอดรถในที่สุด

วันนี้ (11 เม.ย.) เมื่อเวลา 16.15 น. ร.ต.อ.อาทิตย์ ชิณวงศ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุก 10 ล้อ พุ่งชนกับรถยนต์กระบะ 4 ประตู ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุจำนวนหลายราย บริเวณคอสะพานข้ามคลองขุนพิทักษ์ บนถนนทางหลวงชนบทสาย 3001 ฉะเชิงเทรา-อ่อนนุช (สายลาดกระบัง) พื้นที่ ม.1 ต.เทพราช อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้าน พร้อมด้วยอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา กำลังช่วยกันปฐมพยาบาลผู้ได้รับบาดเจ็บที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านนำออกมาจากภายในตัวรถ นอนเรียงรายกันอยู่เต็มพื้นถนน โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน และเด็กชายวัย 7 ขวบ 1 คน ส่วนเด็กชายวัย 2 ขวบ ที่ร่วมเดินทางมาในรถคันเดียวกันไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ขณะที่ในที่เกิดเหตุพบเพียงรถยนต์กระบะ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน งค 4521 ชลบุรี จอดอยู่บนเลนด้านซ้ายฝั่งขาเข้าเมืองฉะเชิงเทรา ในสภาพถูกพุ่งชนเข้าที่บริเวณด้านหน้าอย่างจังจนทำให้ตัวรถหมุนกลับหลังหัน ด้านหน้ายุบเข้าไปจนเกือบถึงที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารแถวหน้าด้านซ้าย กระจกบานหน้าแตกพังเสียหายยับเยิน บริเวณโดยรอบพบชิ้นส่วนปลิวกระจัดกระจายไกลกว่า 30 เมตร และยังมีคานเหล็กรองรับกันชนด้านหน้าของรถบรรทุกตกอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วยหนึ่งชิ้น แต่ไม่พบรถคู่กรณี

สอบถาม นางกุสุมา ยุ้นพัน อายุ 53 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 55 ม.14 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวริมทาง กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุไม่เห็นเหตุการณ์ แต่ได้ยินเสียงรถพุ่งชนกันอย่างแรงจึงได้รีบออกมาดู พบว่า มีรถยนต์กระบะที่กำลังขับมาในช่องทางขาเข้าเมืองจากทางฝั่งลาดกระบัง ถูกรถยนต์บรรทุก 12 ล้อ (10 ล้อเสริมเพลา) พุ่งเข้ามาชนจนตัวรถบรรทุกพุ่งเลยเข้ามาหาตนหน้าร้านก๋วยเตี๋ยว และยังได้เฉี่ยวชนเข้ากับป้ายด้านหน้าร้านจนล้มลง แต่โชคดีที่ตัวรถยังไม่ได้พุ่งเข้ามาจนถึงยังภายในร้าน

ก่อนที่คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุจะรีบขับรถหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ตนจึงได้ให้บุตรชายรีบขับรถ จยย.ติดตามไปเพื่อใช้โทรศัพท์ถ่ายภาพหมายเลขทะเบียนท้ายรถ คือ หมายเลขทะเบียน 83-3074 ชลบุรี เอาไว้ได้ จึงทำให้คนขับรถบรรทุกต้องยอมจอดหยุดรถเลยห่างออกไปจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ส่วนตน และชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพากันเข้าไปให้ความช่วยเหลือคนเจ็บที่ติดอยู่ภายในรถ จำนวน 7 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน และเด็กชาย 2 คน ออกมาจากตัวรถ เนื่องจากเห็นว่าคนเจ็บนั้นมีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก พร้อมกับได้รีบโทรศัพท์แจ้งไปยังหมายเลขสายด่วนฉุกเฉิน 1669 จนมีรถกู้ชีพจาก รพ.บ้านโพธิ์ และหน่วยกู้ภัยฯ พร้อมตำรวจเดินทางมายังในที่เกิดเหตุ นางกุสุมา กล่าว

ขณะเดียวกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สภ.แสนภูดาษ ซึ่งเดินทางมาถึงยังจุดเกิดเหตุเป็นชุดแรก และได้รีบติดตามเข้าไปทำการควบคุมตัว นายอ้วน ป้องภัย อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.3 ต.ผักไหม อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ คนขับรถบรรทุก 12 ล้อไว้ได้ นายอ้วน ยังกล่าวอ้างว่า สาเหตุที่มาหยุดรถเอาไว้ไกลจากจุดเกิดเหตุถึง 300 เมตรนั้น เนื่องจากรถมันไหลมาเองหลังเกิดเหตุไม่ได้ตั้งใจ ขณะที่ชาวบ้านที่พยายามช่วยกันติดตามไปจนทัน กล่าวว่า หลังไล่ตามรถนายอ้วน มาจนทันแล้ว นายอ้วน ยังมีการย้อนถามกลับมายังชาวบ้านด้วยว่า มีคนตายไหมอีกด้วย

ด้าน ร.ต.ท.สนามชัย หร่ายเจริญ รองสารวัตรจราจร สภ.แสนภูดาษ ซึ่งเดินทางมาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในที่เกิดเหตุ กล่าวว่า จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถบรรทุกได้ขับขึ้นสะพานข้ามมาจากทางฝั่งขาออกฉะเชิงเทราด้วยความเร็ว ก่อนที่ตัวรถจะเหวี่ยงเสยกับคอสะพานสูงจนลอยทั้งคัน จึงทำให้เสียหลักพุ่งเข้ามายังในเลนด้านขวา ซึ่งมีรถยนต์กระบะ 4 ประตูขับสวนทางมาพอดี จึงทำให้เกิดการพุ่งชนกันขึ้นอย่างแรง และยังพบร่องรอยของการชนว่าอยู่ในเลนช่องทางขาเข้าอย่างชัดเจนว่ารถบรรทุก 12 ล้อนั้นพุ่งเข้ามาผิดช่องทาง ร.ต.ท.สนามชัย กล่าว

หลังตรวจที่เกิดเหตุ ร.ต.อ.อาทิตย์ ได้ทำการควบคุมตัว นายอ้วน ป้องภัย คนขับรถบรรทุก 12 ล้อ ไปทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่บริเวณจุดตรวจให้บริการประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่บริเวณทางสามแยกสัญญาณไฟคลองประเวศ ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 2 กม.เศษ แต่ไม่พบว่า นายอ้วน นั้นมีการดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแต่อย่างใด ก่อนที่จะนำตัวกลับไปสอบสวนยังที่ สภ.แสนภูดาษ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น