นักบินพารามอเตอร์พลาด หญ้าพันสายร่มร่วงดับกลางท้องนา

ฉะเชิงเทรา - นักบินพารามอเตอร์พลาดท่า หลังขึ้นบินนานกว่า 1 ชม. ก่อนลงมาพัก ขณะขึ้นบินใหม่อีกครั้งเกิดความผิดพลาดมีเศษหญ้าพันติดสายโยงของปีกร่มบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้าด้วย ทำให้ตัวปีกของร่มพันกันจนม้วนควงสว่านดิ่งลงมาเป็นเกลียวสู่พื้นดิน ดับอนาถกลางท้องทุ่งนาที่แปดริ้ว

ค่ำวานนี้ (17 ก.พ.) ร.ต.อ.สุพจน์ บุญสวน รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุร่มบินตกที่บริเวณกลางท้องทุ่งนา ในพื้นที่ ม.5 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส จำนวน 1 ราย จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยกำลังฝ่ายสืบสวน และสายตรวจประจำตำบล

ที่เกิดเหตุพบอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา กำลังให้การช่วยเหลือผู้ที่ตกลงมาจากท้องฟ้า แต่ได้เสียชีวิตลงไปในที่เกิดเหตุในเวลาต่อมาเพียงไม่นาน โดยตามร่างกายพบว่ามีกระดูกหักจำนวนหลายแห่ง ทั้งลำคอ แขน ขา ตลอดจนซี่โครง ท่ามกลางความมืดที่เริ่มเข้ามาปกคลุมพื้นที่ ก่อนที่จะเคลื่อนย้ายศพส่งไปให้แพทย์ร่วมกันชันสูตรยังที่ รพ.บางน้ำเปรี้ยว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมา คือ นายกิตติพัฒน์ ไพศาลศรีสมสุข อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/241 ซ.ลาดปลาเค้า 78 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ

จากการสอบสวน นายซากิริน บุญมาเลิศ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 ม.4 ต.หมอนทอง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนในกลุ่มของนักเล่นกีฬาร่มบิน หรือพารามอเตอร์ ที่มาร่วมบินด้วยกันในวันนี้ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุในวันนี้ผู้เสียชีวิตพร้อมเพื่อนๆ ได้นำร่มบินมาขึ้นบินตามปกติ ซึ่งมักจะมาขึ้นบินกันในพื้นที่บริเวณนี้อยู่เป็นประจำ ในช่วงเวลา 16.00 น. หลังจากขึ้นบินไปได้ประมาณ 1 ชม. ผู้ตายจึงได้ร่อนลงมาพัก ก่อนที่จะขึ้นบินใหม่อีกครั้งในเวลาประมาณ 17.30 น.

โดยในขณะที่ผู้ตายกำลังจะขึ้นบินรอบใหม่นั้น ตนได้สังเกตเห็นว่ามีเศษหญ้าพันติดอยู่กับสายของปีกร่มทางด้านขวา จึงได้พยายามร้องเรียกบอกแล้วแต่ว่าไม่ทัน โดยผู้ตายได้บินขึ้นไปเสียก่อน โดยบินขึ้นไปสูงจากพื้นดินได้ประมาณ 100 เมตร ก่อนที่ผู้ตายจะดึงสายปีกร่มเพื่อบังคับการบิน แต่เมื่อดึงสายปีกทางขวาที่มีเศษหญ้าพันอยู่นั้นจึงทำให้ปีกร่มม้วนไม่กินลม ตัวร่มจึงเกิดการเซถลาม้วนควงสว่าน และทำให้ผู้ตายตกใจไปดึงคันเร่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้นอีก จึงทำให้ตัวร่มหมุนพันร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว และตกลงมาเสียชีวิตดังกล่าว

สำหรับผู้ตายได้เข้ามาเล่นกีฬาร่มบินมาได้ประมาณ 3-4 ปีแล้ว และมักจะพากันเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาขึ้นบินอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ด้วยกันอยู่เป็นประจำ โดยในวันนี้มาด้วยกัน 4 คัน รวมทั้งตนด้วย แต่ขึ้นบินแค่เพียง 3 คัน โดยคันของตนนั้นไม่ได้ขึ้นบิน โดยผู้ตายเป็นคนบอกเตือนแก่ตนว่าไม่ต้องขึ้นบินในวันนี้ เพราะเครื่องยนต์ของตนมีปัญหาขัดข้องมาถึง 2 ครั้งแล้ว เกรงว่าจะเกิดอันตราย แต่เขากลับมาประสบอุบัติเหตุเสียเอง

ด้าน ร.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า สาเหตุของอุบัติเหตุร่มบินตกในครั้งนี้มาจากมีเศษหญ้าติดขึ้นไปพันกับสายของร่ม จึงทำให้ร่มเสียการทรงตัว และม้วนห่อรวมกันเป็นเกลียว ก่อนที่จะหมุนควงสว่านตกลงมาสู่พื้นดินเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โดยที่มีเพื่อนที่มาด้วยกันได้พยายามที่จะร้องตะโกนบอกแล้ว แต่ผู้ตายไม่ได้ยิน จึงทำให้เกิดอุบัติดังกล่าวขึ้นในครั้งนี้

พบผู้เสียชีวิตจากร่มบินตก เป็นผู้ได้รับสัมปทานการค้าในพื้นที่รถไฟผู้ใจบุญ ชอบช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อชาวบ้านผู้ยากไร้ในพื้นที่ จนทำให้ผู้คนในหมู่บ้านรักใคร่ และต่างพากันเดินทางมารุมล้อมมุงดูผู้เสียชีวิตจนเต็มแน่นหน้าโรงพยาบาลถึงเกือบครึ่งหมู่บ้าน

เวลา 20.30 น. ที่บริเวณ รพ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา บรรยากาศหลังจากที่ชาวบ้านในพื้นต่างทราบข่าวถึงการเสียชีวิตของ นายกิตติพัฒน์ ไพศาลศรีสมสุข อายุ 46 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 9/241 ซ.ลาดปลาเค้า 78 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ จึงต่างได้พากันทยอยวนเวียนกันเข้ามารุมล้อมมุงดูยังที่บริเวณหน้าห้องเก็บศพของทางโรงพยาบาลกันอย่างเนืองแน่น

โดยมีชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า สาเหตุที่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างให้ความสนใจ และเดินทางมาดูผู้เสียชีวิตด้วยความห่วงใยนั้น เนื่องจากตลอดระยะเวลาช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ที่นายกิตติพัฒน์ ได้เข้ามาในพื้นที่นั้น ได้เคยช่วยเหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อชาวบ้านเอาไว้อย่างมากมาย เพราะเขาเป็นคนใจดี มีน้ำใจ เช่น กรณีที่เขาได้ช่วยเหลือเด็กกำพร้ารายหนึ่ง วัย 3 ขวบ ที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ซึ่งตนได้ช่วยเหลือนำมาเลี้ยงไว้ด้วยการจ่ายเป็นเงินเดือนค่าเลี้ยงดูให้ถึงเดือนละ 1 พันบาท ทั้งที่ไม่ใช่ญาติ

นอกจากนี้ เขายังมีนิสัยเอื้อเฟื้อที่ชอบแบ่งบันช่วยเหลือต่อชาวบ้านทุกคนที่ได้มารู้จักกับเขา จึงทำให้ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านรักใคร่เขาทั้งหมด จึงได้รีบพากันมาดูถึงยังที่โรงพยาบาล หลังจากที่ทราบข่าวว่าเขาเสียได้ชีวิตลง ชาวบ้านรายดังกล่าวเผย

ด้าน นายนิยม พลเสนีย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/2 ม.3 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย ญาติห่างๆ ของ นายกิตติพัฒน์ กล่าวว่า นายกิตติพัฒน์ ผู้เสียชีวิตรายนี้เป็นเจ้าของบริษัทเอ็นพีลิตี้ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในสถานีรถไฟหัวลำโพง (กรุงเทพฯ) โดยเป็นบริษัทที่เขาทำร่วมกันกับคนในครอบครัวของเขา ซึ่งเป็นบริษัทผู้ได้รับสัมปทานพื้นที่การค้าของการรถไฟแห่งประเทศไทยทุกสายทั่วประเทศ

ซึ่งตนก็ได้ไปเปิดร้านทำการค้าอยู่ในพื้นที่ของรถไฟด้วยเช่นกัน อยู่ที่ จ.หนองคาย แต่ในวันนี้ใกล้วันหยุดจึงได้เดินทางมาไหว้พระยังที่วัดโสธรวรารามวรวิหาร ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก็ได้มาพบว่าเขามาประสบอุบัติเหตุพอดี โดยปกติแล้วผู้ตายนั้นมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ แต่โดยกำเนิด ก่อนที่จะได้ภรรยาเป็นชาวมุสลิมใน จ.นนทบุรี จึงได้มาเข้านับถือศษสนาิอิสลาม จากเดิมซึ่งเป็นคนไทยพุทธ

สำหรับการเล่นร่มบิน หรือพารามอเตอร์นั้น ทราบว่า ภรรยาของเขา คือ น.ส.มีนา ได้เคยขอร้องบอกให้เลิกเล่นหลายครั้งแล้ว เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย เนื่องจากเป็นกีฬาที่มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งบุตรชายที่มีด้วยกัน 1 คน กับภรรยาก็ยังเล็ก เพียงวัยแค่ 2 ขวบเท่านั้น แต่สุดท้ายก็มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตลงในที่สุดจนได้