แล้งเริ่มคุกคามเมืองตำน้ำกิน! แหล่งน้ำเหือดแห้งดินแตกระแหง ปภ.ประสานเร่งรับมือ

บุรีรัมย์ - ภัยแล้งเริ่มคุกคามบุรีรัมย์เมืองตำน้ำกิน ส่งผลแหล่งน้ำลำคลองธรรมชาติเหือดแห้งจนเห็นดินแตกระแหงแม้เพิ่งต้นฤดูแล้ง วัชพืชเหี่ยวแห้งกระทบวัวควายเริ่มขาดแคลนอาหาร ขณะ ปภ.ประสานท้องถิ่นชุมชนทุกหมู่บ้านเร่งสำรวจแหล่งน้ำที่มีสภาพตื้นเขิน และระบบประปา บาดาลชำรุดใช้การไม่ได้ เพื่อเตรียมพร้อมรับวิกฤตภัยแล้ง

วันนี้ (2 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มคุกคามหลายพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ส่งผลให้แหล่งน้ำลำคลองธรรมชาติมีสภาพเหือดแห้งจนเห็นดินแตกระแหง อีกทั้งหญ้าและวัชพืชที่เป็นอาหารสัตว์เหี่ยวแห้งยืนต้นตาย กระทบโค-กระบือของเกษตรกรที่เลี้ยงไว้เริ่มขาดแคลนอาหารแม้เพิ่งเข้าสู่ต้นฤดูแล้งก็ตาม

ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดฯ ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เร่งออกสำรวจแหล่งน้ำหรือสระกลางหมู่บ้านที่มีสภาพตื้นเขิน รวมถึงระบบประปา บาดาลในหมู่บ้าน ตำบลที่ชำรุดใช้การไม่ได้ แล้วรายงานมายังทางจังหวัดเพื่อจะได้วางแผนเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตภัยแล้งดังกล่าวด้วย เนื่องจาก จ.บุรีรัมย์เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากเป็นประจำทุกปี จนได้รับฉายา “บุรีรัมย์ตำน้ำกิน”

จากข้อมูลเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา จ.บุรีรัมย์ถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ง 6 อำเภอ จากทั้งจังหวัดมี 23 อำเภอ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 22 ตำบล 86 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อนกว่า 7,000 ครัวเรือน ซึ่งหลายภาคส่วนได้ร่วมกันออกแจกจ่ายน้ำช่วยผู้ประสบภัยไปกว่า 16 ล้านลิตร และใช้งบประมาณในการเป่าล้างบ่อบาดาลไปกว่า 1.7 ล้านบาท

นายพรเชษฐ์ แสงทอง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ถึงแม้ช่วงนี้ยังไม่เข้าสู่ฤดูแล้งเต็มตัว แต่หลายพื้นที่เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยแล้งบ้างแล้ว ดังนั้นจึงได้ประสานขอความร่วมมือไปยังท้องถิ่นและชุมชนให้ช่วยออกสำรวจสระน้ำกลางหมู่บ้าน และระบบประปา บาดาล หากพื้นที่ไหนใช้การไม่ได้ก็จะเสนอของบประมาณมาดำเนินการเป่าล้าง ซ่อมสร้างให้ใช้การได้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่จะมาเยือนด้วย