กาญจนบุรี - นายอำเภอเมืองกาญจน์ ร่วมทหาร จนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ และผู้น้ำท้องถิ่น ฝ่าความมืดไล่จับรถบรรทุกไม้ไผ่ของกลางกว่า 1 พันลำกลางดึก ฐานทำลายพฤษชาติอื่นใดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เผยเตรียมส่งให้นายทุนสมุทรสาคร เพื่อนำไปวางขวางกั้นคลื่นน้ำทะเลกระแทกเซาะฝั่ง โดยได้ค่าจ้างจากนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า เที่ยวละ 500 บาท
เมื่อเวลา 19.30 น. เมื่อคืนวันที่ 16 ส.ค.58 ที่ผ่านมา นายศรัทธา คชพลายุกต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ได้เดินทางไปพบปะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 11 ต.วังด้ง อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจาก นางวนิดา พุฒซ้อน กำนันตำบลวังด้ง และนายเกรียงศักดิ์ เฉลิมธนกิจโกศล เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ว่า มีการลักลอบขนไม้ไผ่ลำ และไม้ไผ่ลวกขึ้นรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6310 กาญจนบุรี กำลังออกจากพื้นที่หมู่ 6 ต.วังด้ง
นายศรัทธา จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ แต่กว่าจะเดินทางไปถึงต้องใช้เวลานานเกือบ 20 นาที เนื่องจากไม่ชินเส้นทาง อีกทั้งท้องฟ้ามืดเนื่องจากเป็นช่วงเวลากลางคืน เมื่อไปถึงก็ไม่พบรถบรรทุกคันดังกล่าวแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังช่วยกันออกเดินตามหาตามซอกซอยของหมู่บ้าน แต่ไม่พบ โดยมีชาวบ้านจำนวนหนึ่งจับกลุ่มนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้น นายศรัทธา จึงเดินทางกลับบ้านพักที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ตระเวนอยู่ในพื้นที่เพื่อคอยสังเกต และหากพบให้รีบแจ้งทันที
จนกระทั่งเวลา 21.00 น. นายศรัทธา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า พบรถบรรทุกคันดังกล่าวหลบอยู่ในซอกที่มืดข้างคอกวัวที่มีชาวบ้านนั่งเล่นอยู่ และได้ขนไม้ไผ่ทั้งหมดลงจากรถบรรทุกกองเอาไว้ข้างคอกวัว คนขับเร่งเครื่องมุ่งหน้าไปทางตำบลลาดหญ้า นายศรัทธา จึงรีบเดินทางในหมู่บ้านพบแสงไฟหน้าวิ่งมาด้วยความเร็วสูง นายศรัทธา จึงกะพริบไฟสูงต่ำ พร้อมไฟฉายส่งสัญญาณให้คนขับรถจอด
เมื่อคนขับเห็นหน้าจึงรู้ว่าเป็นนายอำเภอเมืองกาญจนบุรี จึงรีบจอดรถแล้วลงมาทักทาย พร้อมกับแนะนำตัว ทราบชื่อคือ นายวงศธร แจ่มกระจ่าง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 2 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ส่วนรถยนต์บรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-6310 กาญจนบุรี ตรงตามที่สายแจ้งมา ระหว่างนั้น ร.ท.รตินนท์ เสนาณรงค์ หน.ชป.พท.ร.9 พัน 1 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พร้อมกำลัง และนายสุวัฒนา ม่วงหวาน ปลัดอำเภอเมืองกาญจนบุรี เดินทางมาถึงพอดี
จึงให้ นายวงศธร ขับรถย้อนกลับไปยังจุดที่ขนไม้ไผ่ลง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารนั่งประกบไปด้วย 3 นาย เมื่อไปถึงปรากฏว่า มีชาวบ้านทั้งหญิง และชายเกือบ 50 คน มาเจรจาพูดคุยกับนายศรัทธา ไม้ไผ่เป็นของชาวบ้านทุกคน หากจะจับก็ขอให้จับชาวบ้านทุกคน
พร้อมกับบอกว่า ชาวบ้านไม่มีที่ดินทำกินจะให้ทำอย่างไร เพราะหนี้สินในครัวเรือนก็มีทุกคน หากไม่ต้องการให้ชาวบ้านตัดไผ่ขาย นายอำเภอจะต้องจัดสรรที่ดินทำกินให้แก่ชาวบ้าน ซึ่งนายศรัทธา ก็ได้อธิบายให้แก่ชาวบ้านได้รับฟังจนเข้าใจว่า อำเภอไม่มีอำนาจจัดสรรที่ดิน ส่วนการเดินทางมาตรวจสอบเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้ไผ่ เนื่องจากตนได้รับแจ้งหากไม่มาปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับแจ้ง ตนก็จะโดนข้อหาละเว้น ซึ่งชาวบ้านต่างก็เข้าใจในตัวของนายอำเภอ
สำหรับของกลาง ประกอบด้วย ไม้ไผ่ลำ จำนวน 800 ลำ ไม้ไผ่ลวก จำนวน 100 มัด มัดละ 10 ลำ เจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายออกนอกพื้นที่พร้อมนำตัว นายวงศธร แจ่มกระจ่าง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลาดหญ้า โดยกล่าวหาว่า กระทำผิดตามมาตรา 54 ฐานทำลายพฤกษชาติอื่นใดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 70 ฐานรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้นซึ่งไม้และของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มา โดยการกระทำผิดต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการการกระทำผิดนั้น
ระหว่างที่นายศรัทธา คชพลายุกต์ เดินทางกลับ พบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ลาดหญ้า ไล่ติดตามจับกุมรถยนต์กระบะบรรทุกไม้ไผ่ลวกมาเต็มคันรถ จึงลงไปสอบถามร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อคนขับคือ นายอภินันท์ คงธาร โดยมี นางสุธน ภรรยานั่งมาด้วย จากการสอบถามทราบว่า ทั้ง 2 กำลังขนไม้ไผ่ลวกไปส่งให้แก่นายทุนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำไปวางขวางกั้นคลื่นน้ำทะเลกระแทกเซาะฝั่ง โดยได้ค่าจ้างจากนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ตำบลลาดหญ้า เที่ยวละ 500 บาท ให้นำไปส่ง
