สระแก้ว- เกิดเหตุรถพ่วง 22 ล้อ ประสานงากับรถกระบะ ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาซากรถ 3 ราย และหญิงท้องแก่ไปตายโรงพยาบาล 1 คน ส่วนคนขับรถพ่วงถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตห้อยโตงเตงคารถพ่วง
วันนี้ (6 ก.พ.) ร.ต.ท.อภิวัฒน์ สู่สุข พนักงานสอบสวนปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.วัฒนานคร ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 สระแก้ว ว่า เกิดเหตุรถพ่วง 22 ล้อ ชนประสานงากับรถกระบะ มีผู้เสียชีวิต และติดอยู่ในซากรถจำนวนหลายคน และรถพ่วงแก๊สเอ็นจีวีรั่วออกมาตลอดเวลา จึงรีบแจ้งไปยังกู้ภัยสว่างวัฒนานคร นำกำลังและเครื่องตัดถ่างรีบเข้าไปช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุอยู่บนถนนสายวัฒนา-แซร์ออ จุดเกิดเหตุอยู่หน้าโรงพยาบาลจิตตเวชวัฒนานคร
หลังเดินทางเข้าไปถึงพบรถติดยาวเหยียด และที่เกิดเหตุพบรถกะบะยี่ห้อฟอร์ด ตอนครึ่ง สีดำหมายเลขทะเบียน บธ 2573 ปราจีนบุรี สภาพถูกชนแหลกไม่มีชิ้นดี ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 4 ศพ แต่ศพผู้หญิงท้องแก่กู้ภัยจึงรีบนำตัวออกมาพร้อมเด็กผู้ชายอายุประมาณ 8 ขวบ นำส่งโรงพยาบาลวัฒนานคร
แต่หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลปรากฏว่า เด็กในท้องได้สิ้นใจไปพร้อมแม่แล้ว ส่วนเด็กชายอายุ 8 ปี อาการหนักมาก แพทย์ได้ช่วยเหลือเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว
ด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างวัฒนานคร ได้นำเครื่องตัดถ่างช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายในรถกระบะ จำนวน 3 ศพ ออกมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากถูกฝูงมดแดงรุมกัดอย่างหนัก
เจ้าหน้าที่ได้ค้นหลักฐานภายในตัวพบว่า ศพแรกเป็นชายชื่อ นายอาคม วินิชาชิวะ อยู่บ้านเลขที่ 455 ม.5 ต. ท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ศพที่ 2 เป็นผู้หญิงชื่อ น.ส.สุนีย์ เนวาเพียร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 304 ม.19 ต. ทุ่งมหาเจริญ อ. สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา และเป็นศพเด็กหญิงไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 10 ปี
ส่วนรถพ่วง 22 ล้อทะเบียน หน้ารถ 72-0482 และทะเบียนพ่วงท้าย 70-0450 ตราด สภาพหน้ารถพังยับเยินเช่นเดียวกัน สภาพรถพลิกตะแคงอยู่ข้างถนนที่หัวรถพุ่งชนติดอยู่กับต้นไม้ เทกระจาดกระสอบน้ำตาลทรายตกเกลื่อน กู้ภัยได้ช่วยกันงัดเอาร่างคนขับที่ถูกอัดก๊อบปี้ติดห้อยโตงเตงอยู่ที่หน้ารถห้องคนขับ
หลังกู้ภัยช่วยกันงัดร่างออกมาได้แล้ว ตรวจสอบภายในกระเป๋าสตางค์พบบัตรประชาชนระบุชื่อ นายอาคเนย์ รัตนวาร อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7/1 ม.4 ต.ชำราก อ.เมือง จ.ตราด สภาพศพถูกอัดก๊อบปี้เสียชีวิตติดคาซากรถพ่วง
จากการสันนิษฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่า รถทั้ง 2 คัน ประสานงากันอย่างจัง หลังชนกันแล้วรถพ่วงยังลากเอารถกระบะครูดมาตามถนนอีกร่วม 200 เมตร แล้วรถพ่วงพุ่งลงข้างทาง รถกระบะจึงหลุดออก สภาพรถกระบะจึงแหลกแทบไม่มีชิ้นดี เป็นเหตุให้ผู้โดยสารในรถกระบะเสียชีวิตถึง 4 ราย เด็กในท้องอีก 1 ราย มีเด็กในรถกระบะรอดตาย 1 ราย แต่อาการก็สาหัสเป็นตายเท่ากัน
ส่วนรถพ่วงมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นคนขับ และมาเพียงคนเดียว จึงยังไม่ทราบว่า นายอาคเนย์ บรรทุกน้ำตาลทรายมาจากไหน และจะนำไปส่งที่ใด
ชาวบ้านบอกว่าถนนสายนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นทุกวัน เนื่องจากเป็นถนนเส้นหลักที่จะเดินทางไปอีสาน แต่เนื่องจากถนนแคบ มีเพียง 2 เลนเท่านั้น จึงเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ
