xs
xsm
sm
md
lg

ส่องสนามช้างชนช้างภาคเหนือถิ่น ทรท./กอ.รมน.โพลไม่พลิก!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้สมัครพรรคเพื่อแผ่นดินเชียงราย ที่มีพี่น้องชนเผ่าสนับสนุน
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ...รายงาน

17 จังหวัดภาคเหนือ ส่วนหนึ่งเคยเป็นพื้นที่แดงเดือดในวันลงประชามติรัฐธรรมนูญ 50 มาแล้ว ในการเลือกตั้ง 23 ธ.ค.50 ต้องจับตาว่า จะเป็นเขตแดงเดือดสำหรับพรรคตรงข้ามไทยรักไทย ในคราบพลังประชาชน (พปช.) หรือไม่

โดยเฉพาะสนามที่ถือว่าขึ้นชั้น ช้างชนช้าง อย่างเชียงใหม่ เชียงราย แพร่ พิจิตร สุโขทัย ฯลฯ ที่ตัวยืนอยู่ในสถานะ “แพ้ไม่ได้” เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเบื้องต้น แม้แต่ กอ.รมน.โพล เองก็บ่งชี้ว่า พื้นที่นี้กิน พปช.ยาก

เชียงใหม่-พปช.ครองเก้าอี้แทน ทรท.

เชียงใหม่ บ้านเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ต้องระเห็จไปอยู่ลอนดอน มี 11 เก้าอี้ ส.ส. 4 เขต แม้โค้งแรกก่อนเปิดหน้ารับสมัคร คอการเมืองมองกันว่า ทรท.ในคราบ พปช.จะเสียเก้าอี้ไม่น้อยกว่า 5-6 ที่

ล่าสุดทั้งมือการข่าวของรัฐ – คอการเมือง มองตรงกันว่า โค้งนี้ พปช.ครองแชมป์ให้ ทรท.เช่นเดิม เพราะผลจาก ซีดี.แม้ว ที่ทุ่มแจกก่อนกฎหมายเลือกตั้งบังคับใช้ร่วม 2 เดือนในแทบทุกหลังคาเรือน จนทำให้ชาวบ้าน ชาวช่องพูดกันหนาหูขึ้นว่า

“เอาต้นกล้วยมาลงก่อจะก๋า...เอาหมามาลงก่อจะเลือก” ที่โดยนัย หมายถึงเลือก พปช. และสายตรงจากลอนดอน ที่ว่ากันว่า กลางเดือนพฤศจิกายน 50 ที่ผ่านมา มีมาถึงกำนัน – ผู้ใหญ่บ้าน – ผู้นำองค์กรท้องถิ่น หลายคน นัดหมายให้ไปประชุมร่วมกันที่ “บ้านเจ๊” ในวันเสาร์ที่ 17 พ.ย.50

รวมถึงการถ่ายโอนหัวคะแนนจากอดีต ส.ส.ทรท.ไปให้ผู้สมัครของ พปช.ตามการแบ่งเขตใหม่ ด้วยการหมุนเวียนกันเข้าห้องที่สันกำแพงมาต่อเนื่อง

ซึ่งเขต 1 อ.เมือง สันกำแพง สารภี หางดง ตัวยืนยังเป็น 2 ใน 3 ผู้สมัครจาก พปช.คือ “ชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ -กฤษฎาภรณ์ เสียมภักดี” ที่เสียงดีวัน ดีคืนอย่างเห็นได้ชัด
ส่วน ดร.ปึ้ง-สุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล ที่แม้ภาพภายนอกเป็นหัวหน้าทีม พปช.เขต 1 เชียงใหม่ แต่ 23 ธ.ค.50 ยังต้องดูกระแสพรรคอีกครั้ง

ตัวเบียดที่น่าจับตาคือ ประพันธ์ บูรณุปกรณ์ / บุศบา ยอดบางเตย และอุดม สุวิทย์ศักดานนท์ มีสิทธิ์แทรกได้

เขต 2 พร้าว แม่ออน ดอยสะเก็ด สันทราย แม่ริม สะเมิง แม่วาง สันป่าตอง แม้ “กิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่” จะหาเสียงในนามตัวบุคคลมานาน และมีฐานเสียงสำคัญแถบอำเภอสันทราย ดอยสะเก็ด พร้าว แม่ออน ก็ตามยังต้องพลิกตัวลงสมัครในนามพรรคเพื่อแผ่นดินนาทีสุดท้าย หนีกระแสไม่เอา ปชป.และยังต้องรอลุ้นเบียด 3 ผู้สมัครจาก พปช. คือ “บุญทรง เตริยาภิรมณ์ – วิทยา ทรงคำ – นพคุณ รัฐผไท”

โดยเฉพาะ “บุญทรง” ที่ได้ชื่อว่า เป็นคนถือกระเป๋าเจมส์บอนให้กับพรรคไทยรักไทยในสายเหนือมาตลอด

ทั้งยังต้องจับตาไปที่ “พล.ต.ต.ประเสิรฐ จันทราพิพัฒน์” ผบก.ภ.จว.ลำพูน ในเสื้อ ปชป. ซึ่งถือว่ากว้างขวางในพื้นที่ เคยเดินงานให้กับ ทรท.มาอย่างโชกโชน

เขต 3 แม่อาย ฝาง ไชยปราการ เชียงดาว เวียงแหง แม่แตง 3 ที่นั่ง
คอการเมืองให้ราคา “ดาวเด่น” อย่าง นพ.ไกร ดาบธรรม หมอชนบท – ผู้สมัครพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ที่คลุกพื้นที่มานานเกือบ 20 ปี เป็น “เต็ง 1” เพราะมีฐานคะแนน อสม.กระจายทุกพื้นที่

ส่วน 3 ผู้สมัครจาก พปช. “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ – โสภณ โกชุม – ประสิทธิ์ วุฒินันชัย” วันนี้ ราศรีจับไปที่ “จุลพันธ์” ลูกชายของสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ แกนนำ พปช. ที่ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง

ที่เหลืออีก 1 เก้าอี้ ต้องช่วงชิงกันหลายพรรค ทั้ง“สันติ ตันสุหัส” อดีต ส.ส.ทรท.ที่ลงในนามมัชฌิมาธิปไตย ที่มีฐานเสียงแถบฝาง แม่อาย ไชยปราการ ,ประสิทธิ์ วุฒินันชัย อดีตผู้สมัคร ส.ส.ปชป.ที่เคยทำคะแนนแพ้ “โกเก๊า” ยุค ทรท.รุ่งเรือง เพียง 6,000 กว่าคะแนน เที่ยวนี้ลงในนาม พปช.หากกระสุนดีอาจพลิกเข้าป้ายโค้งสุดท้าย

รวมถึง “ยงยุทธ สุวภาพ” ปชป.ที่มีฐานคะแนนจากบ้านเกิดที่เชียงดาว-เครือข่าย ธ.ก.ส.ไชยปราการ มาหนุน

เขต 3 สายใต้ แม่แจ่ม จอมทอง ดอยหล่อ ฮอด ดอยเต่า และอมก๋อย 2 ที่นั่ง แม้ “เสธ.ยอด – พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย” หัวหน้าทีมมัชฌิมาฯในภาคเหนือตอนบน จะควง “อำนวย ยศสุข” ลงชิงโดยอาศัยฐาน “คนบนดอย” มีสหายเก่าเชื้อสายม้งที่กาให้ตั้งแต่ยังไม่ถึงวันเลือกตั้ง - เคยดำรงตำแหน่งในกองพลทหารพัฒนา ที่ อ.จอมทอง มาก่อนก็ตาม

แต่ต้องลุ้นเบียดกับ 2 พี่น้อง “สุรพล – ถาวร เกียรติไชยากร” ที่มีฐานเสียงหนาแน่นแถบจอมทอง ซึ่งโค้งแรกคอการเมืองเชื่อกันว่า 1 ใน 2 พี่น้องตระกูลนี้ ยังคงเดินเข้าสภาฯได้ อย่างน้อยในเขตตัวอำเภอจอมทอง กว่า 1 หมื่นคะแนนนั้น 80% เทให้ และยังต้องหันไปดู “นรพล ตันติมนตรี” เพื่อแผ่นดิน ที่มีฐานเสียงลูกค้าปุ๋ยที่ อ.ดอยเต่า ฮอด อมก๋อย

เบื้องต้นเขตนี้ยังให้ราคา 2 พี่น้องตระกูล “เกียรติไชยากร” โดยมี เสธ.ยอด เบียดมาติด ๆ รวมถึง “นรพล” ที่ยังมิอาจประมาทได้

รวม 4 เขตเลือกตั้ง 11 เก้าอี้ ส.ส.เชียงใหม่ ส่วนใหญ่ยังให้ราคา ทรท.ในคราบ พปช.ไม่น้อยกว่า 7-8 ที่นั่ง รวมใจไทยฯ 1-2 ที่นั่ง มัชฌิมาฯ 1 ที่นั่ง เพื่อแผ่นดิน 1 ที่นั่ง

เมืองพ่อขุนฯ-ลุ้นล้ม แชมป์

ไม่เพียง “ยงยุทธ ติยะไพรัช” รองหัวหน้าพรรค พปช. ผู้สมัคร ส.ส.สัดส่วนอันดับ 1 โซน 1 จะเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องถิ่น จากแม่จัน แม่สาย เชียงแสน ในเขต 3 ที่บ้านพักตากอากาศบน “ดอยศรีแก้ว” กว่า 100 คน เมื่อ 18 พ.ย.50 มีอดีตประธานชมรมกำนันฯ เชียงราย – กำนันดังคนหนึ่งในแม่จัน – นายกเทศมนตรี ที่ใกล้ชิดประสานงาน โดยกำชับว่า “เลือกตั้งเที่ยวนี้ ให้ช่วยดูแลพื้นที่หน่อย”

พร้อมกันนั้นผู้สมัครของ พปช.หลายคน ยังได้ขออนุญาตประชุมแกนนำในเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่าเป็นการ “รณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียง” แต่เนื้อแท้ในที่ประชุมหนีไม่พ้นการหาเสียง – ถล่ม คมช./รัฐบาลรัฐประหาร

เช่น เมื่อ 13.00 น.วันที่ 13 พ.ย.50 ที่ผ่านมา 1 ในผู้สมัคร ส.ส.เขตของ พปช.พร้อมด้วยพี่สะใภ้ ได้จัดประชุมกลุ่มแม่บ้าน บนที่ทำการเทศบาลตำบลฯแห่งหนึ่ง ภายใต้ข้ออ้าง “รณรงค์ต่อต้านการซื้อเสียง” แต่เปิดฉากถล่ม คมช./รัฐบาล พร้อมหาเสียงเลือกตั้ง ปิดฉากด้วยการถ่ายสำเนาบัตรประชาชนทุกคนที่เข้าร่วม พร้อมให้เซ็นรับ “เบี้ยประชุม” คนละ 500 บาท

ที่สำคัญทุกเขตเลือกตั้งล้วนแต่จัดเวที “ต่อต้านการซื้อเสียง” เช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อคะแนน สำหรับ 8 เก้าอี้ ส.ส.3 เขตเลือกตั้งแน่นอน

โดยโค้งนี้ พปช.ภายใต้การคอนโทรลของ “ยุทธ ตู้เย็น” ยังคงมีสิทธิ์ยึดทุกเก้าอี้
ยกเว้นถูก “บล็อค” หัวคะแนนบางเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะ “สามารถ แก้วมีชัย – สฤกษ์ อึ้งอภินันท์” ผู้สมัครเขต 1 พปช.ที่ฝากอนาคตไว้ที่ 2 หัวคะแนนแถบ “บ้านดู่” เที่ยวนี้ถ้าเดินไม่ได้มีสิทธิ์จอด โดยมี “ศักดิ์ชัย จงสุขธนามณี – กิจขจร ใจสุข” จากชาติไทย ที่เป็นน้องของ “วันชัย – รัตนา จงสุทธนามณี” นายกฯนครเชียงราย – นายก อบจ.เชียงราย (ตามลำดับ) เข้าป้ายแทน อีก 1 เก้าอี้ของเขตนี้ เต็งจ๋าที่ “สุรสิทธิ์ เจียมวิจักษ์” ที่ฐานเสียงดีแถบ อ.แม่สรวย – เวียงป่าเป้า

เขต 2 อำเภอพาน ป่าแดด เทิง ขุนตาล พญาเม็งราย เวียงเชียงรุ้ง ดอยหลวง เชียงของ และเวียงแก่น ขุนตาล 3 เก้าอี้ แม้ พปช.จะส่งหน้าใหม่ทั้ง 3 คนลงสมัคร ทั้ง “รังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ หลานชายสมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.ทรท./วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ ลูกสาวของวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.ทรท. และพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน คนใกล้ชิดยงยุทธ” ลงสมัครก็ตาม แต่ฐานเสียงยังแน่นปึ๊ก

คู่แข่ง ต้องจับตาไปที่ “วีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส” จากชาติไทย แต่ต้องดูว่า “มณฑล สุทธาธนะโชติ(เสี่ยเล็ก)” จะลุ้นให้ด้วยหรือไม่ และ “ธีรพงษ์ เผ่ากา” อดีต ส.อบจ.เชียงราย เขต อ.พาน ที่เสียงดีวัน ดีคืน

เขต 3 แม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สาย และเชียงแสน 2 เก้าอี้ ที่ต้องบอกว่าช้างชนช้าง ซึ่ง พปช.ส่ง “ละออง ติยะไพรัช น้องสาวยงยุทธ – อิทธิเดช แก้วหลวง อดีต ส.ส.ทรท.” ลงสมัคร ต้องชนกับ “วิทย์วัส โพธสุธน” ลูกชาย 1 ในผู้ถือหุ้นโรงแรมโกลด์เด้นท์ไทรแองเกิ้ลพาราไดซ์รีสอร์ท สามเหลี่ยมทองคำ (ฝั่งพม่า) หลานชาย “ประภัตร โพธสุธน” เลขาฯชาติไทย ที่ลุยพื้นที่มาตั้งแต่ยกแรก

อย่างไรก็ตาม พื้นที่นี้ต้องจับตา “เสี่ยกวง” อีกหนึ่งผู้ถือหุ้นในโรงแรมโกลด์เด้นท์ฯสามเหลี่ยมทองคำ ที่แตะไว้ทั้งขั้น “สมศักดิ์ เทพสุทิน – ยงยุทธ ติยะไพรัช” จะช่วยเตะตัดขาลูกชายผู้ร่วมทุนหรือไม่

เมืองแพร่–ดึงคดีหมอชาญชัย หาเสียงต่อเนื่อง

อีกสนามหนึ่งที่ต้องดูแบบไม่กระพริบตาก็คือ แพร่ ที่เพิ่งเกิดคดีสังหารโหด นพ.ชาญชัย ศิลปะอวยชัย นายก อบจ.แพร่ เมื่อ 22 ต.ค.50 ตามมาด้วยการจับกุมลูกพี่ลูกน้องแม่เลี้ยงติ๊ก – ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ผู้สมัคร ส.ส.แพร่ ปชป. พร้อมทีมมือปืนได้ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสนามนี้

ผนวกเข้ากับการหันหัวเรือจากสนาม ส.ส.ลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.แพร่ ของ “อนุวัธ วงศ์วรรณ” ที่ก่อนหน้านี้จะลงสมัครใน ส.ส.ในทีม พปช.ร่วมกับ “นพ.นิยม วิวรรธนดิษฐ์ – วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” พร้อมกับดึง “ปานหทัย เสรีรักษ์” ภรรยา นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตกรรมการบริหาร ทรท./พี่สาว “วรวัจน์” มาเสริมทีม

ทำให้เลือกตั้งเที่ยวนี้ ทรท.ในคราบ พปช.มีสิทธิ์ยกทีมอีกครั้ง

ส่วนแม่เลี้ยงติ๊ก ที่แม้จะมี “สมชัย จำปี – สุขุม กันกา” 2 อดีตผู้บริหาร อบจ.แพร่ ที่ฐานเสียงดีมาร่วมทีม แต่หากยังแก้ปมที่สังคมสงสัยพัวพันคดีสังหารหมอชาญชัย ไม่ได้ ก็มีสิทธิ์สอบตกยกทีมเช่นกัน

พิจิตร -ชาละวันเดือด!

สนามเลือกตั้งเขต 1 พิจิตร(เมือง วังทรายพูน สากเหล็ก สามง่าม วชิรบารมี โพธิ์ประทับช้าง) ผู้มีสิทธิ์ 206,907คนใน 509 หน่วยเลือกตั้ง เดิมที “สุณีย์ เหลืองวิจิตร” ครงเก้าอี้เพราะมี “กำนันแม้น รอดเขียว”คุมฐานคะแนนเสียง แต่เมื่อสิ้นกำนันแม้น ทำให้ฐานคะแนนที่สามง่าม – วชิรบารมี แตกกระจาย มีสิทธิ์เลือกพรรคใดก็ได้

ผู้สมัคร ส.ส.ตัวเต็ง(ชนิดแพ้ไม่ได้) มีอยู่ 3 คน แต่ชาวบ้านต้องเลือก 2 คนในเขต 1 คือ นราพัฒน์ แก้วทอง ปชป. - วินัย ภัทธประสิทธิ์ เบอร์ 3 รวมใจไทยชาติพัฒนา และ สุณีย์ เหลืองวิจิตร เบอร์ 7 พปช.

ซึ่ง “วินัย ”รวมใจไทยฯ ฐานแถบเมือง-สากเหล็ก-หัวดง- สามง่าม ส่วน “นราพัฒน์”ปชป.มีฐานคะแนนเขตสามง่าม-โพธิ์ประทับช้างและวังทรายพูน ส่วน “สุณีย์ เหลืองวิจิตร” พปช. แน่นในเขตสามง่าม-วชิรบารมี-โพธิ์ประทับช้าง

เบื้องต้นทั้ง “นราพัฒน์-วินัย” ต่างผนึกฐานเสียงเข้าด้วยกัน เดินคู่ลงชุมชน

ส่วนที่เขต 2 ใน 485 หน่วยเลือกตั้ง ผู้มีสิทธิ์ 206,151 คน เป็นถิ่น“บ้านเสธ.หนั่น-ดงเจริญ” การเมืองดุเดือดเลือดพล่านก็เพราะ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ลงสมัครเบอร์ 1 คู่กับลูกยอด - ศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ เบอร์ 2 ชาติไทย ขณะที่เบอร์ 5 พปช.-นาวิน บุณเสรฐ แชมป์เก่า ก็ไม่ยอมแน่

เสธ.หนั่น มีฐานคะแนนแถบ อ.บางมูลนาก(ผู้มีสิทธิ์ 37,288คน)ขณะที่ “นาวิน” อยู่แถบตะพานหิน(ผู้มีสิทธิ์53,378คน)ทั้งคู่จำเป็นต้องไปชิงพื้นที่ อ.โพทะเล ที่มีผู้มีสิทธิ์ 45,878 คน ส่วนทับคล้อ-บึงนาราง ผู้มีสิทธิ์ระดับ 2-3 หมื่นคน ดงเจริญ ถิ่นฟาร์มนกกระจอกเทศ มีผู้มีสิทธิ์ 15,093 คน

สุโขทัย!เปลี่ยนแผ่นดิน

สุโขทัย เขต 1 เมือง ศรีสำโรง กงไกรลาศ คีรีมาศ 488 หน่วยเลือกตั้ง มีผู้สมัคร ส.ส.14 คน แต่พรรคที่แข่งขันกันดุเดือด คือ มัชฌิมาธิปไตย ที่ป้ายหาเสียงทุกป้ายทั่วเมืองติดรูป “เจ๊เป้า-อนงค์วรรณ เทพสุทิน” เป็นโลโก้ให้กับนายประศาสตร์ ทองปากน้ำ (ส.ส.แก้ว) กับจำเจน จิตรธร (ส.ว.จำเจน) ตีตราจองเดินเข้าสภาล่วงหน้า

เพียงแต่ต้องไม่ประมาทกระแส “เทพสุทิน” ปล่อยให้น้ำท่วมสุโขทัยทุกปี โดยไม่มีอะไรดีขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งกระแสนี้ อาจทำให้ ปชป.ที่ส่ง “สัมพันธ์ ตั้งเบญจผล(อดีต สจ.3 สมัย) กับวิรัตน์ วิริยะพงษ์ (ทนายโอ้)”ลงชิง

ว่ากันว่า เบื้องต้น “ส.ส.แก้ว” ไม่น่าห่วง ด้วยฐานแน่นทุกซอกในคีรีมาศ กงไกรลาศ ล่าสุดกำลังลุยเขตเมืองอาศัยฐาน “เจ๊เป้า” เพียงแต่เป็นการ “เดินเดี่ยว” ไม่สนคู่หู ทำให้พี่ชายเจ๊เป้า ต้องเอ่ยปากว่าให้ช่วยกันหน่อย

แต่ ส.ส.แก้ว ก็สวนกลับว่า “ก็ชาวบ้านเขาไม่เอา ตัวคนเดียวก็แทบไม่รอดแล้ว” ทำให้ ปชป.มีความหวังขึ้นมาพอควร

โดยสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล ผู้สมัคร จาก ปชป.บอกว่า กำลังเร่งหาเสียงอยู่แถบอำเภอกงฯ แบบเคาะประตูบ้าน ทั้ง 90,000 หลังคาเรือนวันนี้ ผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว เน้นชูนโยบายตั้งบริษัทประกันรองรับความเสี่ยงในรูปบริษัทประกันภัยน้ำท่วมไร่น่า ดีกว่ารัฐเสียเงินจ่ายค่าชดเชยซ้ำซากทุกปี

เขต 2 ความร้อนแรงและการขับเคี่ยวหาเสียงไม่ค่อยหนักหน่วง แต่ฟันธงได้เลยว่า “สมเจตน์ ลิมประพันธ์ กับอารยะ ชุมดวง”เข้าวินในนามชาติไทย 1 คน กับมัชฌิมา

สมเจตน์ เปิดเผยว่า เป็นคนหวันโลก ไม่เคยทิ้งพื้นที่ หากเลือกเขา ก็เท่ากับเลือกคนในตระกูลไว้ใช้งานถึง 6 คน คือ สมชาติ ลิมปะพันธุ์ (นายกเทศมนตรีเทศบาลสวรรคโลก), สมเกียรติ (รองนายกเล็ก) สมหญิง( สจ.) สมฤกษ์(สจ.)

หลายจังหวัด พปช.เหมา/แต่สูญพันธุ์ที่ปากน้ำโพ

ส่วนสนามอื่น ๆ นั้นส่วนใหญ่คอการเมืองฟันธงในโค้งนี้ว่า พปช.มีสิทธิ์เหมายกเข่ง ทั้งแม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร ยกเว้นสนามพิษณุโลก ที่เบื้องต้น ปชป.มีสิทธิ์นำชัย 3 เก้าอี้ พปช.2 , เพชรบูรณ์ พปช. 5 ชาติไทย 1

ขณะที่ปากน้ำโพ-นครสวรรค์เที่ยวนี้ มีสิทธิ์ไร้เงา พปช.ทั้ง 7 เก้าอี้ โดยเขต 1 จำนวน 3 ที่นั่ง รวมใจไทยชาติพัฒนา อาจกวาดหมด โดยมี ปชป.สอดแทรกได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องวัดใจ “สมควร โอบอ้อม” จะทุ่มหนักหรือไม่ ขณะที่เขต 2 รวมใจไทยฯ อาจเหมาทั้ง 2 ที่นั่ง ส่วนเขต 3 นาทีนี้ รวมใจไทยฯยังเป็นต่อ 1 ที่นั่ง ส่วนที่เก้าอี้อาจเป็นของมัชฌิมาธิปไตย

อย่างไรก็ตาม ดูทุกสนามในภาคเหนือแล้ว ดูเหมือนวันนี้สถานการณ์ไม่ผิดไปจากโพล กอ.รมน. ที่ทำเอาหนาวกันทั้ง คมช.
ธีระพงษ์ เผ่ากา 1 ในตัวเบียดที่จะลุ้นเก้าอี้ ส.ส.เชียงราย พรรค รช.
จดหมายไร้ชื่อผู้ส่ง ที่มือมืดส่งไปตามบ้านประชาชนในจังหวัดแพร่ โดยหยิบยกคดีสังหาร นพ.ชาญชัย ศิลปะอวยชัย นายก อบจ.แพร่ ขึ้นมาเพื่อใช้เป็นเกมต่อสู้ทางการเมืองในสนามเลือกตั้ง 23 ธ.ค.50
แม่เลี้ยงติ๊ก - ศิริวรรณ ปราศจากศัตรู/สุขุม กันกา /สมชัย จำปี 3 ปชป.แพร่ ที่ต้องลุ้นเหนื่อย




กำลังโหลดความคิดเห็น