xs
xsm
sm
md
lg

งานประเพณีไหลเรือไฟเชียงแสนคึกคัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธาน เปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ ปี 48 ครั้งที่ 9 เพื่อบูชารอยพระพุทธบาท ที่ชาวบ้านเชื่อว่าอยู่กลางลำน้ำโขง บริเวณท่าน้ำ วัดพระธาตุผาเงา ณ ริมฝั่งน้ำโขง ของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย มีชาวบ้านไทยชาวไทย และลาว กว่า 5,000 คนร่วมงานอย่างคึกคัก

ช่วงค่ำของวันออกพรรษาที่ผ่านมา พลเรือเอก สุรินทร์ เริงอารมณ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุดได้เป็นประธาน เปิดงานประเพณีไหลเรือไฟ ประจำปี 2548 ครั้งที่ 9 บริเวณท่าน้ำ วัดพระธาตุผาเงา ริมฝั่งน้ำโขง บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ตรงข้าม เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

โดยมีพระครูไพศาลพัฒนาพิรัต เจ้าอาวาสวัดพระธาตุผาเงา และเจ้าคณะอำเภอเชียงแสน นายคำแพง จันทกุล ผู้ใหญ่บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน นาวาตรี ทรงชัย สุขสมใจ ผู้บริหาร บริษัท นาวาลูกหลวง คุณประพีพร สุขสมใจ ฝ่ายปกครอง อ.เชียงแสน ตำรวจน้ำเชียงราย นรข. นายสมหวัง รุ่งตระกูลชัย นายอำเภอแม่สาย และชาวบ้านทั้งไทย - ลาว ตลอดจนนักท่องเที่ยวกว่า 5,000 คนร่วมงานอย่างคึกคัก

ภายในงานมีพิธีสงฆ์ และการสร้างเรือ ที่เป็นรูปพญานาค ซึ่งเป็นสัตว์ในวรรณคดีไทย รูปร่างเหมือนงูยักษ์,เรือรูปนางเงือก ซึ่งทำจากวัสดุธรรมชาติกว่า 20 ลำ ประดับประดาด้วยไฟ แล้วแห่มาที่ท่าน้ำโขง ก่อนจะนำปล่อยกลางแม่น้ำโขง ทำให้เกิดความสวยงาม และมีการจุดประทีป เพื่อบูชาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในแม่น้ำโขง และพญานาค เนื่องในวันออกพรรษาตามความเชื่อ

พลเรือเอก สุรินทร์ เริงอารมณ์ รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมศาสนา ส่งเสริมการท่องเที่ยว หลายฝ่ายเข้ามาช่วยกันจัดงานทุกปี ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี พี่น้องชาวไทยและสปป.ลาว มาร่วมงานด้วยทำให้เป็นการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสองประเทศ

นาวาตรี ทรงชัย สุขสมใจ ผู้บริหาร บริษัท นาวาลูกหลวง อดีตนายทหารเรือ กล่าวว่า ประเพณีการไหลเรือไฟ อ.เชียงแสน จัดมาทุกปี โดยกำหนดวันออกพรรษาคือ แรม 1 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี เป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ที่ชาวบ้านเชื่อว่า มีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้าอยู่กลางลำน้ำโขงบริเวณนี้

นอกจากนี้ ยังเชื่ออีกว่า บริเวณนี้มีพญานาค สัตว์ในวรรณคดี ที่มีรูปร่างคล้ายงูขนาดใหญ่อาศัยอยู่ ชาวบ้านจึงสร้างเรือรูปร่างเป็นพญานาคที่สวยงาม เพื่อไหลในแม่น้ำโขงตอนกลางคืน เพื่อเป็นการให้พญานาคมารับพระพุทธเจ้าที่เชื่อว่า จะเสด็จจากสรวงสวรรค์ในวันออกพรรษาของทุกปี ซึ่งแม่น้ำโขงบริเวณนี้ มีผู้พบเห็นงูใหญ่หลายครั้ง ทำให้ชาวบ้านเชื่อเรื่องพญานาค แต่ไม่เคยพบเห็นบั้งไฟพญานาคแบบทางภาคอีสาน ซึ่งถือถือว่าเป็นเรื่องแปลก

นายคำแพง จันทกุล ผู้ใหญ่บ้านสบคำ ต.เวียง อ.เชียงแสน กล่าวว่า ชาวบ้านย่านนี้ก็มีความเชื่อว่าในแม่น้ำโขง มีพญานาคอาศัยอยู่ เพราะที่ผ่านมาคนในพื้นที่เคยพบเห็น สัตว์คล้ายงูตัวใหญ่ว่ายในแม่น้ำโขง และพูดต่อๆกันมา ในส่วนของบั้งไฟพญานาค แบบที่เกิดในแม่น้ำโขงทางภาคอีสานของไทย เคยมีผู้เล่าว่าเคยพบเห็นเหมือนกัน แต่อาจจะไม่มาก และฮือฮาเท่าที่หนองคาย จึงทำให้ไม่ค่อยเป็นข่าว

สำหรับเรือไฟนั้น ชาวบ้านจะใช้วัสดุธรรมชาติมาทำเป็นรูปเรือในแบบต่างๆ ประกวดความสวยงานกัน โดยบนปลายของหัวเรือจะเป็นรูปพญานาค แล้วเอาเศษผ้าชุบน้ำมันยางจุดบนปลายไม้เป็นระยะๆ หรือไม่จุดไฟก็ได้ เพื่อเป็นการอนุรักษ์การใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ทำลายระบบนิเวศน์



กำลังโหลดความคิดเห็น