ขัดข้องทางเทคนิค! เผยสาเหตุ #เลื่อนฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนยังไม่มา ด้านแพทย์ระบบทางเดินหายใจเผย การฉีดวัคซีนได้ช้า เป็นปัญหาที่ประเทศยากจนกำลังเผชิญอยู่ ยิ่งฉีดช้าเท่าไหร่ ก็ยิ่งควบคุมโรคได้ช้าเท่านั้น!
“ต่างประเทศมีมากเกินพอ แต่ของเราเข็มแรกยังไม่ได้เลย”
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่กำลังถูกพูดถึงอย่างมากในสังคมขณะนี้ หลังจากที่โรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ออกมาประกาศ “เลื่อนฉีดวัคซีนโควิด-19” ในรอบวันที่14-20 มิถุนายน 2564 สำหรับประชาชนที่จองไว้ก่อนหน้านี้ ผ่านระบบ “หมอพร้อม”ซึ่งโรงพยาบาลแต่ละแห่งให้เหตุผลไปในทิศทางเดียวกันว่า “ยังไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนจากกระทรวงสาธารณสุข”
ขณะที่ทางเพจเฟซบุ๊ก “กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์”ที่มีการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ” ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.นี้ เป็นต้นไป และหากได้รับการจัดสรรวัคซีนแล้ว จะส่ง SMS แจ้งอีกครั้ง เพื่อให้เลือกวันและเวลานัดหมายใหม่
จากความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันและยังหาข้อสรุปไม่ได้ ส่งผลให้แฮชแท็ก #เลื่อนฉีดวัคซีน ทะยานติดเทรนด์บนโลกทวิตเตอร์อย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความสับสนของประชาชนที่กำลังรอคิวเข้ารับการฉีดวัคซีน ว่าตกลงแล้วเป็นอย่างไรกันแน่?!
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทีมข่าว MGR Live ได้พูดคุยกับ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนักและโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ซึ่งทางโรงพยาบาลแห่งนี้ ก็เป็น 1 ในโรงพยาบาลเอกชนที่มีการประกาศเลื่อนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เนื่องจากไม่ได้รับการจัดสรรวัคซีนมา
คุณหมอกล่าวว่า ตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุถึงการขาดแคลนวัคซีนเช่นกัน เพียงแต่ได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่ามีไม่เพียงพอ ขณะนี้ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแบบวันต่อวัน ว่าวัคซีนจะถูกจัดสรรมายังโรงพยาบาลที่ประจำอยู่เมื่อไร
“เขาบอกว่าไม่มี ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ไม่ได้รับการจัดสรร แต่รู้ว่ามันไม่พอ ไม่พอก็ต้องเลื่อน เพราะนัดมาไม่มีวัคซีนให้ มันก็เสียเวลามาเปล่า ที่โรงพยาบาลของหมอก็แจ้งคนไข้ แล้วบอกว่าได้เมื่อไหร่จะส่ง SMS ไปให้เขาว่าได้แล้ว ก็นัดมา
[ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์]
(ดูสถานการณ์) วันต่อวัน ว่าเขาจะส่งมาเมื่อไหร่ เราทำหน้าที่เป็นคนฉีดให้เท่านั้นเอง เราไม่ได้เป็นคนบริหารจัดการ สถานการณ์มันขาดแคลนจริงๆ มันไม่เพียงพอจริงๆ ไม่เหมือนต่างประเทศ ต่างประเทศเขามีมากเกินพอ เขาพยายามให้ทุกคนมาฉีดเข็ม 2 แต่ของเราเข็มแรกยังไม่ได้เลย เราต้องเน้นเรื่องเข็มแรกให้มากที่สุดก่อน”
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดของเรื่องราวนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ออกมายอมรับว่า การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีปัญหา แต่ภาพรวมยังคงเป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้
"ทุกอย่างเป็นไปตามข้อเท็จจริง เพราะวัคซีนมันยังไม่มา แต่จะขอให้กทม.ชี้แจงเพิ่มเติมให้ประชาชนเข้าใจว่า วัคซีนจะทยอยมาสัปดาห์ต่อไป ตอนนี้ไม่มีใครยืนยันได้ว่าวัคซีนล็อตต่อไปจะมาเมื่อไหร่ แต่ทราบว่ามาในเดือนนี้"
ยิ่งฉีดช้า ยิ่งคุมโรคได้ช้า!
นอกจากนี้ ทางด้านแพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ จากโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงปัญหาที่ตามมา เมื่อการประกาศเลื่อนฉีดวัคซีน ว่าอาจทำให้การควบคุมวิกฤตดังกล่าวยิ่งล่าช้าออกไปอีก
“(คนไข้) เขาก็บ่นเหมือนกันว่าจะได้อยู่แล้ว กลับไม่ได้ เขาก็คงเข้าใจว่าไม่ใช่ความผิดของโรงพยาบาล ความล่าช้ามันส่งผลกระทบทำให้โอกาสที่จะให้เราควบคุมการแพร่ระบาดมันช้าไป ต้องเร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
วัคซีนมันไม่เพียงพอ แต่จริงๆ ควรจะให้กลุ่มหมอพร้อมก่อน เพราะพวกนี้เป็นคนที่มีความเสี่ยงสูง อายุมาก มีโรคประจำตัว เวลาเขาป่วยเขาเข้าอยู่โรงพยาบาลนาน แล้วก็ทำให้ระบบสาธารณสุขไม่เพียงพอ รับคนไข้คนอื่นไม่ได้แล้วคราวนี้ อยู่ดีๆ มาเลื่อนกลุ่มที่จำเป็นก่อนก็ไม่รู้ทำไม
เราก็ให้ตามหมอพร้อม เขาลงทะเบียนหมอพร้อม และเป็นคนไข้ของโรงพยาบาลวิชัยยุทธอยู่แล้ว เขาก็มาฉีดที่นี่เราก็เตรียมสถานที่ไว้แล้ว แล้วก็เตรียมพนักงาน เจ้าหน้าที่เราแล้ว แต่ไม่มา เจ้าหน้าที่นั้นก็ไปทำงานอย่างอื่นแทน เพราะปกติเจ้าหน้าที่ก็ทำงานกันอยู่แล้ว แต่เราก็จัดเวรให้มาสลับสับเปลี่ยนกันฉีดให้
ถ้าสมมติเกิดวัคซีนมาอาทิตย์หน้า แล้วเราก็ต้องฉีดจำนวนคนก็เพิ่มขึ้น เราก็ไม่รู้ว่าจะรับมือไหวมั้ย อาทิตย์หน้าก็อาจจะเป็น 2 เท่าเลย ถ้าเกิดวัคซีนมาเพียงพอ แต่ถ้าเกิดไม่เพียงพอ คนที่นัดอาทิตย์หน้าก็อาจจะถูกเลื่อนไปอาทิตย์ถัดไป แต่ก็คิดว่าน่าจะรับมือไหว”
เมื่อถามถึงเป้าหมายที่ทางภาครัฐตั้งเป้าไว้จะฉีด 100 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้ คุณหมอก็ให้คำตอบว่า หากวัคซีนยังไม่เพียงพอเช่นนี้ ก็คิดว่าไม่น่าทำได้ตามเป้า
“ต้องฉีดวันละ 4-5 แสนคน เพื่อจะให้ครบถึง 50 ล้านคนปลายปี แต่จำนวนวัคซีนที่เราสั่งมามีเพียงพอรึเปล่า ตอนแรกบอกว่าแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส ถ้าเกิดไม่พอมันก็ทำไม่ได้หรอกที่จะฉีด 50 ล้านคนภายในปลายปีนี้
มันก็เป็นปัญหาของประเทศที่กำลังพัฒนา ประเทศยากจน เป็นหมด ไม่ใช่แค่ที่ไทยอย่างเดียวไต้หวันก็เป็น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ที่เขาพึ่งแอสตร้าเซนเนก้า เราก็ส่งให้เขาไม่ทันเหมือนกัน เป็นทุกประเทศยกเว้นประเทศที่ร่ำรวย ที่ร่ำรวยเขาสั่งไว้ล่วงหน้า สั่งไว้เกินพอด้วย”
สุดท้าย คุณหมอมนูญ ได้ย้ำถึงประชาชนที่ได้รับวัคซีนไปแล้ว ว่าไม่ควรหละหลวมในการดูแลตนเอง และยังคงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด
“คนที่ฉีดเข็มแรกก็อย่าเพิ่งไว้วางใจ ภูมิคุ้มกันอาจจะยังขึ้นไม่เพียงพอ อย่างน้อยๆ ซิโนแวคต้อง 2 เข็ม แล้ว 1 เดือนภูมิคุ้มกันถึงจะเต็มที่ อย่างแอสตร้าฯ เข็มแรกอย่างน้อยต้องฉีดประมาณ 1 เดือนถึงจะมีภูมิคุ้มกัน
ช่วงระหว่างระยะแรกหลังจากฉีดแอสตร้าฯแล้วก็ยังมีโอกาสจะติดเชื้อและป่วยหนักได้ ต้องระมัดระวังตัวก่อนครับ ต้องปฏิบัติตัวเหมือนเดิม ใส่หน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ แล้วก็อย่าไปอยู่ในที่ที่แออัดนะครับ”
ข่าวโดย : ทีมข่าว MGR Live
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **