ตลาดทุน และภาคสังคม ต้องเชื่อมโยงกันอย่างยั่งยืน ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อยอดหลักสูตร SE101 สู่มหาวิทยาลัย ผ่านโครงการ “SET Social Impact SE101@University” แพลตฟอร์มเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการทางสังคม นำร่อง 5 มหาวิทยาลัย ม. เกษตรศาสตร์ ม. ธรรมศาสตร์ ม. แม่ฟ้าหลวง ม. เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และ ม. อุบลราชธานี มุ่งฝังรากฐานการเรียนรู้ นำแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคมพัฒนาให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมเป็นผู้สร้างการเติบโตอย่างสมดุลและยั่งยืน
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ สร้าง SET Social Impact Platform ตั้งแต่ปี 2559 ทำหน้าที่เชื่อมโยงภาคตลาดทุนและภาคสังคมเพื่อเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพธุรกิจเพื่อสังคมด้วยหลักสูตร SE101 ซึ่งเป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการเน้นความรู้เบื้องต้นสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มประกอบธุรกิจเพื่อสังคม โดยปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่อยอดหลักสูตรดังกล่าวสู่มหาวิทยาลัย ผ่านโครงการ SET Social Impact SE101@University แพลตฟอร์มเพื่อพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการทางสังคม
โดยทำงานร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาทั่วทุกภูมิภาค มุ่งฝังรากฐานการเรียนรู้ พัฒนาศักยภาพธุรกิจเพื่อสังคมให้แข็งแกร่ง นำแนวคิดธุรกิจเพื่อสังคมพัฒนาให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ พร้อมเป็นผู้สร้างการเติบโตที่สมดุล ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม อย่างยั่งยืน ตอกย้ำวิสัยทัศน์ตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มุ่งพัฒนาตลาดทุนเพื่อทุกคน “To Make the Capital Market ‘Work’ for Everyone”
โครงการ SET Social Impact SE101@University เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ในการขยายบทบาทของ SET Social Impact Platform ให้มีกลไกเพิ่มพลังตัวคูณการเติบโตอย่างเป็นรูปธรรมโดยการขยายพันธมิตรและขยายพื้นที่ ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยพลังของภาคการศึกษาและภาคสังคมในทุกภูมิภาค ขยายความรู้และแรงบันดาลใจในการทำธุรกิจเพื่อสังคม สอดรับนโยบายภาครัฐที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจฐานราก ด้วยการสร้างคุณค่าร่วมกับธุรกิจเพื่อสังคม นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
“ปีนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินโครงการร่วมกับ 5 มหาวิทยาลัยนำร่อง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา 6 วิทยาเขต เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง ตาก พิษณุโลก กาฬสินธุ์ และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เริ่มเปิดสอนหลักสูตร SET SE101 ระยะสั้น ระหว่างเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2562 ให้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป”
พร้อมกันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ส่งมอบความรู้และเนื้อหาหลักสูตรโดยไม่คิดมูลค่า ให้แก่มหาวิทยาลัยที่มีนโยบายพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน บริการวิชาการและความรู้ที่สอดรับกับความต้องการของสังคมและการพัฒนาประเทศ ซึ่งประกอบด้วย SET SE 101 Curriculum เนื้อหาหลักสูตรธุรกิจเพื่อสังคมเบื้องต้นและแนวทางการบริหารหลักสูตร Advisory Services คำปรึกษาในการออกแบบหลักสูตร กิจกรรม และการสอนในทุกระดับ Training-the-Trainer อบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมความพร้อมให้แก่คณาจารย์ และ Learning with Expert สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีประสบการณ์ในความรู้ที่เกี่ยวข้อง การเรียนรู้ดูงาน และกิจกรรมพิเศษ เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาเป็นหลักสูตรให้แก่นิสิต นักศึกษา ผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป
ผู้ประกอบธุรกิจเพื่อสังคมหรือผู้สนใจทั่วไปติดตามข้อมูลโครงการ SET Social Impact SE101@University หรือการส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือ Facebook: SET Social Impact
ทั้งนี้ตามนโยบายาสำคัญ ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งพัฒนาตลาดทุน ให้เป็นพื้นที่สาหรับการสร้างโอกาสให้ทุกภาคส่วน ทั้ง ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยในด้านการสนับสนุนภาคสังคมนั้น ได้มีการจัดทา Platform ที่ชื่อว่าSET Social Impact Platform เพื่อเชื่อมโยงการทำงานร่วมระหว่างภาคธุรกิจและภาคสังคม ให้เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
ในปี 2562 นี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขยายบทบาทของ SET Social Impact Platform ใน 2 มิติ คือ การขยายพันธมิตร และการขยายพื้นที่การทำงาน โดย มิติแรก ในด้านการขยายพันธมิตรโดยใช้กลยุทธ์ 4E ซึ่งประกอบด้วย Education ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำงานร่วมกับกว่า 100 สถาบันการศึกษา117 ทั่วทุกภูมิภาคมาแล้วกว่า 18 ปี โดยมีการลงนามความร่วมมือกับ 21สถาบันการศึกษา และดำนินกิจกรรมร่วมกับ 96 มหาวิทยาลัย เครือข่ายชั้นนำเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการลงทุน โดยมี SET IC 7 แห่ง และ SET Corner 190 แห่ง ในวันนี้ จึงเป็นอีกก้าวหนึ่งของการเพิ่มพันธมิตร ด้านการส่งเสริม ผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อสังคม
ความร่วมมือในวันนี้ ถือได้ว่า เป็นการนำร่อง ที่ยังสามารถเปิดรับสถาบันการศึกษาอื่น ๆ เพื่อขยายผลโครงการได้อีกในอนาคต จะเห็นว่า มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการในวันนี้ มีทั้ง จากกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งผมมั่นใจว่าผู้ประกอบการในภูมิภาคจำนวนมาก ยังคงต้องการความรู้เพื่อการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม
จึงขอเชิญชวนสถาบันการศึกษาทุกแห่งที่กำลังพิจารณาหรืออยู่ระหว่างตัดสินใจ ให้เข้ามาร่วมโครงการฯ ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์กับสถาบันการศึกษา บุคลากร นิสิตนักศึกษา รวมถึงผู้ประกอบการในชุมชนของท่านอย่างมาก ถือว่าเป็นการทำงานแบบต่างฝ่ายต่างได้ประโยชน์ และเกิดประโยชน์ในวงกว้างแน่นอน
** มาตามติด ไลฟ์สไตล์บันดาลใจ+ประเด็นสดใหม่ ได้ที่นี่!! **