xs
xsm
sm
md
lg

9 อาหารสุดอันตราย ซุก “ไขมันทรานส์” เสี่ยงการตายก่อนวัย!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไขมันทรานส์ ภัยร้าย ทำลายสุขภาพ เสี่ยงหัวใจ หลอดเลือด อ้วนลงพุง สธ. สั่งยกเลิกผลิต นำเข้า และจัดจำหน่าย ภายใน ม.ค. 62

ไขมันทรานส์ (Trans Fat) จะถูกห้ามผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายในประเทศไทย มีผลบังคับใช้ในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือภายในเดือน ม.ค. 62 ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ในราชกิจจานุเบกษา นับจากวันที่ 11 ก.ค. 61

โดยมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า ไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) ที่เกิดจจากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด


ไขมันทรานส์ คือ กรดไขมันที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ โดยการเพิ่มอะตอมของไฮโดรเจนเข้าไปในโมเลกุล ซึ่งเป็นแหล่งใหญ่ของไขมันทรานส์สังเคราะห์ ทำให้อาหารที่มีไขมันชนิดนี้ สามารถเก็บได้นานขึ้น อีกทั้งยังมีราคาถูก


สาเหตุที่ผู้ผลิตส่วนใหญ่เลือกไขมันทรานส์มาใช้ในผลิตภัณฑ์อาหาร เพราะลดต้นทุนในการผลิตได้มาก ไขมันชนิดนี้ให้รสชาติใกล้เคียงกับไขมันที่ได้จากสัตว์ มีราคาถูก เป็นไขมันที่มีลักษณะไม่เป็นไข สามารถทนความร้อนได้สูง และสามารถเก็บรักษาไว้ได้นานกว่าไขมันชนิดอื่น สามารถนำไปดัดแปลงเป็นอาหารอื่นๆ ได้มากมาย เก็บไว้นานโดยไม่เหม็นหืน


ส่วนโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นจากการกินไขมันทรานส์เข้าไป ได้แก่ โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันอุดตันในเส้นเลือดและหลอดเลือด อ้วนลงพุง ความจำเสื่อม อัลไซเมอร์ จอประสาทตาเสื่อม ถุงน้ำดีอักเสบ มีบุตรยาก เป็นต้น


อีกทั้งยังมีการค้นพบว่า การทานอาหารที่มีไขมันทรานส์สูงนั้น เชื่อมโยงกับภาวะซึมเศร้า ทำให้มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายขึ้น หรืออาจนำไปสู่การอักเสบในร่างกาย ซึ่งการอักเสบเรื้อรัง อาจทำให้เกิดบรรดาสิวชนิดต่างๆ บนใบหน้าได้อีกด้วย


เรามักพบไขมันทรานส์ได้จากอาหารที่เราชอบทานกันเป็นชีวิตจิตใจ ทั้ง 9 อย่าง ดังนี้
1.ของทอดต่างๆ

ของทอดเหล่านี้ล้วนปนเปื้อนไปด้วยไขมันทรานส์ เพราะ ผ่านการใช้น้ำมันทอดซ้ำหลายๆ ครั้ง ในความร้อนสูงๆ กลุ่มของทอดที่มีไขมันทรานส์ ได้แก่ ลูกชิ้นทอด ไก่ทอด หมูทอด เฟรนช์ฟรายส์

2.โดนัท

ถือว่าเป็นขนมที่ถูกใจสาวกของหวานเลยก็ว่าได้ แต่โดนัทเหล่านี้ยังมีบางเจ้าที่มีการปนเปื้อนของไขมันทรานส์ เช่นกัน

3.เค้ก คุกกี้ เบเกอร์รี่ต่างๆ

เบเกอร์รี่เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น ครัวซองค์ เดนิช พาย แฮมเบอร์เกอร์ ฯลฯ นั้นล้วนแล้วแต่ผ่านการใช้เนยหรือมาการีนในการทำด้วยกันทั้งนั้น ทำให้เบเกอร์รี่เหล่านี้นั้นยังมีไขมันทรานส์แอบซ่อนอยู่

4.นมข้นหวาน นมข้นจืด

แม้ว่าผู้ประกอบการบางราย เริ่มออกมาประกาศแล้วว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขานั้น ปลอดภัยจากไขมันทรานส์ เช่น นมข้นหวานมะลิ เป็นต้น แต่แบรนด์อื่น ก็ต้องรอดูกันต่อไป

5.น้ำมันพืช

น้ำมันพืชที่วางขายอยู่ทั่วไปตามท้องตลาด ที่สกัดออกมาให้ใส จริงๆแล้วนั้นโดนแสง อากาศ ความร้อนยังไม่ได้เลย แต่คนไทยก็ยังนำมาใช้ประกอบอาหาร ซึ่งน้ำมันที่ปลอดภัยที่สุด คือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น

ยิ่งไปกว่านั้นมีผลพิสูจน์ออกมาแล้วว่า น้ำมันพืชที่อยู่ตามท้องตลาด ที่สกัดมาแบบใสนั้น เมื่อนำเอาไปทำอาหารเมื่อไร จะเกิดไขมันทารนส์เมื่อนั้น หรืออาหารที่อยู่ในซุปเปอร์มาเก็ต หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ก็มีไขมันทรานส์เช่นกัน

6.ครีมเทียม

ส่วนมากจะเป็นเครื่องดื่มประเภทซอง 3 in 1 ที่มีการแต่งกลิ่นและสี หรือเครื่องดื่มพวกกาแฟ ชานมไข่มุก ชาเย็น โกโก้ ฯลฯ

7.ขนมขบเคี้ยว

ขนมต่างๆ ที่วางขายในซุปเปอร์มาเก็ต หรือตามร้านสะดวกซื้อต่างๆ นั้น ก็ผ่านกรรมวิธีการผลิตแบบเดียวกัน คือ การทอด ทำให้หนีไม่พ้นการปนเปื้อนไขมันนี้

8.พิซซ่า

ถึงแม้ว่าแบรนด์พิซซ่าฮัท ได้ออกมายืนยันแล้วว่าพิซซ่าทุกเมนูของร้าน ปราศจากไขมันทรานส์ 100% แต่พิซซ่าที่ขายทั่วไปตามท้องตลาดนั้นก็ยังไม่มีการยืนยันว่าจะปลอดไขมันนี้จริงๆ

9.ป็อปคอร์น

สำหรับคนที่รักการดูหนังเป็นชีวิตจิตใจ คงไม่พลาดการหยิบป็อปคอร์นขึ้นมาเคี้ยว แต่หารู้ไม่ว่ามันเต็มไปด้วยไขมันทรานส์ตัวร้าย เพราะป็อปคอร์นผ่านการอบด้วยเนยที่ความร้อนสูง


ปัจจุบันมีหลายประเทศที่เริ่มสั่งแบนไขมันชนิดนี้แล้ว โดยประเทศเดนมาร์ก เป็นประเทศบุกเบิกในการยกเลิกการใช้ไขมันทรานส์ ตั้งแต่ปี 2546

อีกทั้งองค์การอนามัยโลกยังเคยเรียกไขมันทรานส์ว่า “สิ่งมีพิษ” และเชื่อว่า จะสามารถรักษาชีวิตของประชากรโลกไว้ได้ หากสามารถกำจัดไขมันทรานส์ให้หมดไปจากอุตสาหกรรมอาหารภายในปี 2566


อันตรายจากไขมันทรานส์นั้นมีอยู่มากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นควรพยายามหลี่กเลี่ยง หรือลดการทานไขมันชนิดนี้ เพื่อสุขภาพของตัวเราเอง ดังนั้นจึงไม่เพียงแต่ประกอบการต่าง ๆ เท่านั้นที่ต้องปรับตัว แต่ยังรวมไปถึงผู้บริโภคด้วย ที่ต้องหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น

ขอบคุณภาพจาก www.wongnai.com, www.aun-dnw.com, sites.google.com


กำลังโหลดความคิดเห็น