อยากเป็นศิลปินระดับโลก!? ไม่ต้องรอนานเเล้ว โอกาสครั้งสำคัญ “เล่นดนตรี” ก็โกอินเตอร์ได้ ผ่านเวทีประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ “คิง เพาเวอร์” พร้อมมหาวิทยาลัยมหิดล เอาใจคนรักดนตรี ทั้งต่างชาติและชาวไทย โชว์ทักษะ-แสดงความสามารถ สู่เวที “นานาชาติ”!!
พื้นฐานของคนไทยอยู่กับดนตรีมาตั้งแต่เกิด นายอัยวัฒน์ ศรีวัตนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ เผยในพิธีเปิดงานว่า คิงเพาเวอร์มุ่งมั่นดำเนินโครงการเพื่อสังคม ภายใต้แนวคิด KING POWER THAI POWER พลังคนไทย เพื่อสร้างสิ่งที่ดีให้กับสังคมไทย โดยเฉพาะเยาวชน
ไม่ว่าจะไปเที่ยวสถานที่ไหนก็ได้ยินแต่เสียงดนตรี นั่นแสดงว่าคนไทยมีความสามารถในเรื่องดนตรีอยู่ไม่ใช่น้อย ทางเราจึงมีความเชื่อว่า คนไทยมีพลังและความสามารถในเรื่องดนตรี และพร้อมพัฒนาศักยภาพขึ้นไปในระดับนานาชาติ เพียงเพราะต้องการการสนับสนุนให้ได้แสดงออก ไม่ว่าจะเป็นการเป่า การร้อง การเล่น ถ้าเรามีศักยภาพเพียงพอ ก็จะเป็นที่ยอมรับได้ในระดับโลก
นายอัยวัฒน์ เชื่อว่า ทางวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำตรงนี้มานาน ถ้าเราสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเครื่องดนตรี หรือเรื่องประชาสัมพันธ์ ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะการจัดประกวดระดับนานาชาตินั้น ทำให้ต่างชาติได้เข้ามาเห็นศักยภาพที่แท้จริงของคนไทย และเป็นการสร้างอาชีพและอนาคตให้พวกเขาได้ อีกอย่าง เป็นการช่วยให้คนฟังเรียนรู้และเข้าใจการฟังดนตรีมากขึ้น
“ผมมองว่า เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น ที่ได้ทำให้คนไทยที่มองการเล่นดนตรีเป็นเพียงแค่เรื่องสนุกสนานเพลิดเพลิน หรือเล่นเป็นอาชีพ ได้ลุกขึ้นมาโชว์ศักยภาพให้ต่างชาติได้เห็น ดีใจที่ได้สนับสนุนตรงนี้”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ดร.ณรงค์ ปรางค์เจริญ คณบดีวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายไว้ว่า วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ร่วมกับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ซึ่งทางวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ เป็นสถาบันการดนตรีสมบูรณ์แบบแห่งแรกของประเทศไทย ที่เปิดสอนครอบคลุมตั้งแต่ระดับเตรียมอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท
“เป็นอะไรที่ทำให้เห็นถึงความสำคัญเรื่องการร่วมมือ เปลี่ยนความคิดของคนไทยที่มองว่าการทำอะไรเป็นกลุ่มเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ให้กลับมามองว่า ต้องจับกลุ่มรวมตัวกันทำอะไรสักอย่างเพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ เช่น การรวมตัวกันเข้ามาประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ 2561 ในครั้งนี้”
เช่นเดียวกับ รศ.ดร สุกรี เจริญสุข ที่ปรึกษาโครงการดุริยางค์เครื่องเป่าแห่งประเทศไทย พูดถึงการจัดประกวดวงดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ ได้รับกระแสตอบรับดีมาก “ทางวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล เรามีการส่งนักดนตรีไปต่างประเทศในทุกๆ ปี แต่จะทำอย่างไรให้นักดนตรีชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทย อุปสรรคของเราคือ ไม่มีกำลังทรัพย์ และไม่มีความน่าเชื่อถือ
เรามีความยินดีเป็นอย่างมากที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัท คิง เพาเวอร์ ยกตัวอย่างการสนับสนุนในเรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ เพราะปัจจุบันสื่อไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในประเทศ แต่สื่อนั้นเปิดกว้างไปทั่วโลก การประกวดจะไม่ใช่แค่ยกระดับประเทศไทย แต่การประกวดจะทำให้ต่างชาติได้รู้จักประเทศเรามากขึ้น
ทุกวงต้องเล่นจำนวน 3 เพลง เพลงที่บังคับเล่นคือ เพลงพระราชนิพนธ์ 1 เพลง และเพลงประจำชาติ เหตุผลที่ให้เล่นเพลงประจำชาติ เพราะว่า คู่แข่งต่างชาติที่มาควรที่จะได้รับฟังเพลงประจำชาติของไทย นอกจากนี้ ได้เปิดโอกาสให้ต่างชาติได้บรรเลงเพลงประจำชาติของตนเองให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาติอื่น
ส่วนเพลงที่ 3 ทุกวงสามารถเล่นเพลงอะไรก็ได้ตามความชอบและความถนัด ในส่วนกระแสตอบรับ เราได้รับความนิยมดีมาก เห็นได้จากการที่มีผู้สมัครเข้ามาประกวดมากกว่า 70 วง”
และสุดท้าย โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ แขกรับเชิญพิเศษ กล่าวว่า อยากเชิญชวนให้บุคคลที่สนใจทางด้านดนตรีให้ไปร่วมส่งกำลังใจผู้เข้าแข่งขัน ในโครงการประกวดดุริยางค์เครื่องเป่านานาชาติ เพื่อให้พวกเขามีกำลังใจในการแข่งขันมากขึ้น
สามารถติดตามการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ ในวันที่ 19-22 มีนาคมนี้ และรอบชิงชนะเลิศในวันที่ 24 มีนาคม ณ มหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งนี้ วงที่ได้รับรางวัลจะได้แสดงคอนเสิร์ตในวันที่ 25 มีนาคม 2561 ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เวลา 16.00-18.00 น. โดยการสนับสนุนจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และชิงเงินรางวัลรวมมูลค่ากว่า 4 ล้านบาท พร้อมถ้วยรางวัล
