มาอีกแล้ว!! #ดรามาชุดครุยร้อนระอุโซเชียลฯ เมื่อภาพสาวบัณฑิต “สวย เอ็กซ์ เซ็กซ์ บึ้ม” ถ่ายรูปสวมชุดครุยพระราชทานคู่รถหรูโชว์เซ็กซี่วาบหวิว โนแคร์เข็มสถาบันที่ปักอก! โลกโซเชียลฯ จวกยับถึงทรวงเกี่ยวกับพฤติกรรมความไม่เหมาะสม พร้อมตั้งคำถาม “นี่ชุดปริญญาบัณฑิตหรือชุดนางเอก AV”
เรียกได้ว่าเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดซะจริงๆ สำหรับกรณี “ดรามาชุดครุย” ของเหล่าบัณฑิตจากสถาบันแห่งหนึ่งที่มีการนำชุดครุยอันทรงเกียรติมาสวมใส่ โพสท่าเซ็กซี่สุดวาบหวิวกับรถหรูอย่างโนสน โนแคร์ จนมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาสวดยับถึงพฤติกรรมความไม่เหมาะสมผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยข้อความดังกล่าวระบุไว้ว่า
“ควรหรือไม่? กับการสวมชุดครุยที่ได้รับพระราชทาน กับการนุ่งสั้น โพสท่าแบบนี้ เจ้าของผลงานบอกมองให้เป็นศิลปะ? แน่ใจหรือว่านี่คือความภูมิใจแบบสวยงามกับครั้งหนึ่งในชีวิตตามที่ช่างภาพเขาโฆษณา เป่าหู”
การตั้งคำถามว่า “ควรหรือไม่” ถึงการกระทำดังกล่าวของเหล่าบัณฑิตจากเจ้าของโพสท์ ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนั่นโลกโซเชียลฯ ถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้กับปัญหาดรามาชุดครุยที่ดูเหมือนว่ายังคงเป็นปัญหาระดับชาติที่ถูกหยิบมาพูดถึงความไม่เหมาะสมกันมากที่สุด
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ส่วนใหญ่ แสดงความคิดเห็นไปในทางที่ไม่เห็นด้วยกับการนำชุดครุยพระราชทานมาสวมใส่ถ่ายภาพเซ็กซี่ชวนสยิวในชุดนักศึกษาตัวสั้นรัดติ้วกระดุมเกือบแตก และกระโปรงทรงเอที่สั้นเสมอหู ว่าถึงแม้การถ่ายภาพชุดครุยจะเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่อย่างไรก็ ดีควรรู้จักกาลเทศะและควรให้เกียรติตราสถาบันที่ติดอยู่บนอกเสื้อบ้างก็ยังดี
“ให้เกียรติชุดที่ใส่ ให้เกียรติสถาบันที่จบมาหน่อยเหอะ เป็นบัณฑิตหน้าจะคิดได้ รู้ว่าอะไรเหมาะสม ไม่เหมาะสม แต่ถ้าแค่นี้คิดไม่ได้ จบจากที่ไหนก็เอาใบปริญญาไปคืนเขาเถอะ อายแทน ”
“สังคมเรามาถึงจุดนี้ได้ยังไง ชุดครุยเป็นศักดิ์และศรีแก่ตัวเราเอง ไม่ใช่ใครนึกอยากจะมาใส่ทำอะไรก็ได้ เห็นแล้วรู้สึกละอายแทนสถาบันจังเลยค่ะ ไม่สมควรอย่างยิ่ง ”
“ภาพน้องๆ สวยนะ แต่จริงๆ แล้วควรถอดชุดครุยออกจะดีกว่า เหลือแต่ชุดนักศึกษาไปเลย จะโชว์น_ตู้มๆ โชว์ห_ยอะไรก็เรื่องของยูว์ ”
ในขณะที่อีกฝ่ายโต้แย้งว่าการถ่ายภาพชุดครุยในวันจบการศึกษาถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่บัณฑิตสามารถกระทำได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต รวมถึงยกประเด็นการใส่ชุดครุยรับปริญญาของต่างประเทศ ว่าไม่ได้มีกรอบเกณฑ์ในการบังคับ หรือการผูกติดชุดครุยไว้กับความศักดิ์สิทธิ์มากจนเกินไป ทั้งยังเป็นการเคารพสิทธิในการตัดสินใจของบุคคลนั้นๆ ทว่า แตกต่างกับชุดความคิดของประเทศไทย
“เขาอุตส่าห์เรียนมาจนจบด้วยตัวเอง ครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาที่จะใส่ครุยทำแบบที่เขาชอบ ไม่เห็นแปลก ไม่ผิดกฎหมาย คนที่มาเผือกสิแปลกไม่ได้ช่วยอะไรเขาสักอย่าง แถมไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นอะไรกับเขาด้วย สรุปแล้วเผือกๆๆๆ”
“คนบางกลุ่มให้ความสำคัญกับพิธีการมากเกินไปครับ เผลอๆ มากกว่าใจความสำคัญของงานนั้นๆ ซะอีก”
“มันก็ชุดที่น้องเขาใส่เรียนนะครับ ถ้าจะห้ามควรห้ามตอนนั้นเลย แล้วอีกอย่างไม่ได้เอาชุดครุยมาเหยียบมาย่ำนะครับ ใส่ปกติมันก็เป็นแนวของเขานะครับ ใจกว้างใจเย็นกันนิด #น้องไม่ได้ฆ่าใครตายครับ”
หากย้อนกลับไปไม่นานนี้ เรื่องราวความดรามาชุดครุยมีให้เห็นอยู่เป็นระลอก เช่นในกรณีที่นักแสดงหนุ่ม “พีช-พชร จิราธิวัฒน์” เจอกระแสถล่มยับโซเชียลฯ หลังสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ที่ได้สวมชุดครุยเพื่อถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งหลังจากที่ภาพต้นเหตุถูกเผยแพร่ผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ได้มีเสียงวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ในการสวมชุดครุยถ่ายภาพไปในทางแฟชั่น
ซึ่งหนุ่มพีชได้ออกมาชี้แจงให้ฟังว่าเป็นเพียงการถ่ายภาพเพื่อเก็บไว้ดูเป็นที่ระลึกเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาหรือตั้งใจทำให้เกิดกระแสดรามาแต่อย่างใด โดยเจ้าตัวยืนยันว่าตนได้ให้เกียรติและเคารพสถาบันอยู่แล้ว
หรืออย่างในกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอเหล่าบัณฑิตจากสถาบันแห่งหนึ่ง ที่ออกมาเต้นหลุดโลกในบรรยากาศหลังพิธีซ้อมใหญ่งานรับปริญญากันอย่างสนุกสนาน ก็ไม่วายถูกชาวเน็ตถกเถียงถึงความไม่สำรวม ไม่เหมาะสมเกี่ยวกับท่าเต้นที่แดนซ์กระจายไม่เกรงใจชุดครุยพระราชทานที่สวมใส่ ในขณะที่อีกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นว่าความศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้อยู่ที่ชุดหรือท่าเต้นแต่อย่างใด
ประเด็นความดรามาที่เกี่ยวกับชุดครุยดูเหมือนว่าจะไม่จบลงง่ายๆ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย การสวมใส่ชุดครุยยังคงเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนสำหรับคนไทยส่วนใหญ่อยู่เสมอ แม้จะเป็นไปตามสิทธิส่วนบุคคล แต่อย่างไรแล้วการให้ความเคารพ แสดงความสำรวม หรือปฏิบัติให้ถูกต้องตามกาลเทศะยังคงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอยู่ดี . .
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754