xs
xsm
sm
md
lg

เสี้ยมเด็ด กีฬาแชมป์! จริงไหม? ดรามา 2 เสือ “โค้ชเฮง-โค้ชซิโก้” ทีมชาติไทย!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


แฟนบอลเดือด!! เมื่อ “แชมป์ ชอตเด็ด” พิธีกรรายการกีฬาชื่อดัง ปล่อยทีเซอร์เทปสัมภาษณ์ “โค้ชเฮง” ออกมา เสริมคำบรรยายชงประเด็น พ่วงประโยคถาม-ตอบสุมไฟ คล้ายต้องการจุดชนวนความขัดแย้งระหว่าง “เสือ 2 ตัว” อย่าง โค้ชเฮง-โค้ชซิโก้ ให้ยิ่งคุกรุ่น แฟนกีฬาด่าเละ! นี่ “ทีเซอร์” หรือ ถึง “ทีเสี้ยม” เพื่อเรียกเรตติ้งกันแน่!!? แม้ล่าสุด เจ้าตัวจะออกมาโพสต์ขอโทษ ชวนให้เปิดใจรับความเห็นที่แตกต่างแล้วก็ตาม แต่ดูท่าอารมณ์เดือดของคอบอลจะไม่จบลงง่ายๆ เห็นทีว่าคงถึงเวลาที่เจ้าของคลิปต้องน้อมรับผลของการ “คิดต่าง” บ้างแล้ว!!


 

ไม่ได้เสี้ยม แค่เสนอความเห็นต่าง!!

“ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ กับ ประเด็น "Coach เฮง vs Coach Zico" ใน YouTube #ChampChannel ครับ ผมเอง เคารพ วิธีคิด Coach เฮง & ชื่นชม style การคุมทีม ของ Coach Zico ซึ่งทั้ง 2 ต่างทำประโยชน์ให้ชาติ & มี ฝันเดียวกัน คือ "พา ไทย ไป บอลโลก"
 
จึงอยากให้แฟนๆ ของ Coach เฮง & Coach Zico ดูรายการที่จะออกอากาศสัปดาห์หน้าให้จบก่อนจะรีบวิจารณ์กันครับ ผมเชื่อว่าสังคมสมัยใหม่ที่จะก้าวไกล ไม่ใช่สังคมที่ทุกคนมีความเห็นตรงกันทุกเรื่อง แต่คือสังคมที่คนเก่งหลายคน คิดต่าง เห็นต่างกัน แล้วมาเปิดใจกัน ปรึกษากัน คุยกัน เพื่อให้ชาติประสบความสำเร็จที่สุดในภาพรวม
การที่มีการวิจารณ์ Coach เฮง หรือ Coach Zico แบบแรงๆ ตอนนี้ ไม่ได้ ช่วยอะไรเลย ดูให้จบก่อนสรุปครับ รักบอลไทย ตลอดไป”
แชมป์-พีรพล เอื้ออารียกูล พิธีกรรายการกีฬาชื่อดัง โพสต์อธิบายความในใจเอาไว้ผ่านแฟนเพจ "ชอตเด็ด กีฬาแชมป์" หลังยิงทีเซอร์รายการออกไป แล้วเกิดดรามาครั้งใหญ่ขึ้นในกลุ่มแฟนกีฬา
 

เมื่อย้อนกลับไปดูทีเซอร์รายการที่เป็นประเด็นเดือดตัวนี้อีกครั้ง จึงพบว่าเต็มไปด้วยถ้อยคำบรรยายเร้าให้เกิดประเด็นร้อนเยอะแยะไปหมด ตามประสาสไตล์กันตัดคลิปโฆษณารายการสมัยนี้ ไม่ว่าจะเป็นการโฟกัสไปที่ความเห็นต่าง จนส่งให้เกิด “เรื่องเดือดบอลไทย” ระหว่างตำนานนักเตะที่เก่งที่สุดในไทย อย่าง “โค้ชเฮง-วิทยา เลาหกุล” คนไทยคนแรกที่ได้ไปเล่นบอลอาชีพที่เยอรมัน ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ “โค้ชซิโก้-เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง” โค้ชไทยผู้สร้างชื่อให้แก่ทีมชาติอย่างที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน
 
โดยเฉพาะการตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาเอาไว้ ในกรณีที่ว่าสรุปแล้วหน้าที่ของโค้ชเฮง ในฐานะประธานพัฒนาเทคนิคฯ คืออะไร? หรือความเห็นต่างเรื่องการขอไปเก็บตัวนักกีฬาที่อังกฤษของโค้ชซิโก้ แต่โค้ชเฮงไม่เห็นด้วย จนพิธีกรฝีปากกล้าต้องตั้งคำถามเอาไว้ว่า “โค้ชซิโก้ไปซ้าย โค้ชเฮงไปขวา หรือว่าโค้ชเฮงอยากคุมทีมชาติเอง?” รวมไปถึงคำพูดเดือดๆ จากปากโค้ชเฮงเองที่ตอบเอาไว้ว่า “ไม่ได้ดูถูกซิโก้นะ..ตอนนี้นะใครมาเป็นโค้ชก็ทำประสบความสำเร็จ”
หรือแม้แต่การถามโค้ชเฮงว่าเคยได้ฟังไหม คลิปที่ซิโก้เคยให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า "ทีมชาติไทยยุคใหม่ มีหน้าที่แค่ไปซ้อมแล้วก็เตรียมแข่งขัน เดินล้วงกระเป๋าขึ้นเครื่อง" เสริมด้วยการตัดต่อเอาวาทะร้อนๆ จากทั้งสองฟากมาเจอกัน เลยยิ่งทำให้ “ทีเซอร์” รายการคลิปนี้ ดูคล้ายจะเป็น “ทีเสี้ยม” อย่างที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เอาไว้ให้ว่อนโลกออนไลน์
 
ปฏิเสธไม่ได้ว่าทีเซอร์แรงๆ ที่ทางรายการปล่อยออกมาครั้งนี้ ส่งให้คอกีฬาหลายต่อหลายรายต้องหันมาสนใจด้วยความอยากรู้ และจริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องรอรายการออกอาทิตย์หน้าอย่างที่โปรโมตเอาไว้ก็พอจะรู้คำตอบ เพราะโค้ชเฮงเคยเปิดใจเกี่ยวกับประเด็นทั้งหมดนี้เอาไว้เรียบร้อยแล้ว ผ่านรายการ “เผชิญหน้า Face Time” เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมานี้เอง บอกได้อย่างชัดเจนเลยว่า ทั้งโค้ชเฮงและโค้ชซิโก้เคยพูดคุยทำความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างลงตัวแล้ว ไม่ต้องดรามาอะไรกันอีก!!

ขอบคุณทุกคนที่ให้ความสนใจ กับ ประเด็น "Coach เฮง vs Coach Zico" ใน YouTube #ChampChannel ครับผมเอง เคารพ วิธีคิด Coach...

Posted by ชอตเด็ด กีฬาแชมป์ on Saturday, April 9, 2016


เราตกลงกันแล้วว่า หน้าที่ของผมคือ ผมต้องวิเคราะห์ตั้งแต่การฝึกซ้อมก่อน คือถ้าเราซ้อมในลักษณะโกหกตัวเอง โกหกผู้เล่น ซ้อมอะไรก็ไม่รู้แล้วไปเล่น มันก็ไม่ใช่ เกมที่จะไปแข่งรอบสุดท้าย เกมรับมันสำคัญมาก เราต้องดูว่าโค้ชเขาเน้นความเข้าใจ เขาเน้นการฝึกเกมรับมากน้อยแค่ไหนเมื่อคู่ต่อสู้โต้กลับ และทีมของเราจะรับกับเรื่องความเร็ว ความแข็งแกร่งยังไง เพราะฟุตบอลในรอบสุดท้ายเนี่ย มันจะเน้นอยู่ 2 อย่างคือ ความเร็วกับความแข็งแกร่ง เอาไว้เล่นเกมรับและโต้กลับ เราก็ต้องดูว่า ผู้เล่นของเรามีคุณสมบัติตรงนี้มากน้อยแค่ไหน ถ้าเรามีตรงนี้ ผมบอกเลยว่าเราเอาชนะใครก็ได้ แต่ถ้าเราไม่มี มันก็จะมีปัญหาว่าเราจะแก้ไขปัญหาตรงนี้ยังไง

รับรองว่าไม่มีการล้วงลูกอะไรทั้งนั้นครับ ผมแค่มีหน้าที่ตรวจสอบเขา (ซิโก้) ถ้าวิธีการฝึกมันไม่ถูกต้อง เทียบกับสมัยก่อน เราจะปล่อยให้โค้ชดูแล ทั้งที่ความจริงแล้ว ฟุตบอลต้องมีการตรวจสอบกันทุกๆ วัน ทุกๆ อาทิตย์ด้วยซ้ำ ผิดกับการทำห้างร้านบริษัทที่จะตรวจสอบกันปีละครั้ง 2 ครั้งเท่านั้นเอง เตือนให้โค้ชรู้ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นถูกต้องไหม เพราะเราต้องรู้ก่อนว่าเราจะไปชนะเขาหรือไม่ จากปกติ ฟุตบอลไทยเหมือนการซื้อหวยน่ะครับ จะแข่งชนะ-ไม่ชนะไม่รู้เลย แค่ได้ไปเข้าร่วมการแข่งขัน ไม่ได้ไปแข่งขัน

แต่ตอนนี้ เราต้องรู้แล้วว่ามาตรฐานของเราอยู่ตรงไหน และวิธีการซ้อมแบบนี้ เราจะเอาชนะเขายังไง ซึ่งผมเชื่อว่าโค้ชและผู้เล่นทุกคนต้องรู้ในจุดนี้ จะได้รู้ว่าเราจะตั้งรับ จะเจาะคู่แข่งยังไง ข้อมูลตรงนี้ นอกจากโค้ชจะได้รู้แล้ว โค้ชยังช่วยส่งต่อไปถึงผู้เล่นได้ด้วย เพื่อให้มีความเข้าใจและเล่นไปในทิศทางเดียวกัน”


 

“โค้ชเฮง” สยบเกาเหลา “เสือ 2 ตัว” อยู่ในถ้ำเดียวกันได้!!

[ภาพวันวาน เมื่อครั้งเคยจับมือสมานฉันท์ให้ทุกคนเห็น]
ยืนยันหนักแน่น ภาพการปะทะระหว่าง “2 เสือ” แท้จริงแล้วไม่มีอะไร โค้ชเฮง อธิบายเอาไว้อย่างชัดเจนว่า สาเหตุที่ทำให้คนไทยไม่คุ้นภาพการมีทั้ง “โค้ชเฮง” และ “โค้ชซิโก้” อยู่ในทีมเดียวกัน เป็นเพราะทั้งหมดนี้คือเรื่องใหม่ในการยกเครื่องระบบฟุตบอลทีมชาติไทย อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานถึง 100 ปี!!

“จริงๆ แล้ว มันก็ไม่มีอะไรมากเลยครับ แค่ตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคฯ ในประเทศไทย มันยังไม่มีมาก่อน นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 100 ปีที่มีตำแหน่งนี้ในสมาคม ถ้าเรามองเห็นต่างประเทศ เขาก็จะพูดกันว่าทำไมฟุตบอลไทยพัฒนาช้า แต่เราก็ไม่รู้ว่าแนวทางการพัฒนาเป็นยังไง

ช่วงผมไปอยู่เมืองนอก ไปทีก็จะเห็นมีคนมาอบรมสัมมนาทั่วโลกทั้งหมด 300-400 คน แต่มีตัวแทนมากันชาติละ 2 คน คือโค้ชทีมชาติกับประธานพัฒนาเทคนิคฯ มาคู่กัน แต่ประเทศเราเพิ่งมี เลยอาจจะไม่ค่อยคุ้นกันเท่าไหร่ แต่ทั่วโลกจะบอกไว้เลยว่าประธานพัฒนาเทคนิคฯ ที่มีความรู้ความสามารถ ที่มีอำนาจ จะทำให้ฟุตบอลประเทศนั้นๆ พัฒนาเร็วกว่าทุกๆ ประเทศด้วยซ้ำไป แต่พอเราไม่คุ้นเคย เราก็ปล่อยให้โค้ชทำหน้าที่นี้ไปเองโดยไม่มีการตรวจสอบอะไรเลย และตรงนี้ก็จะเป็นการพัฒนาอีกขั้นหนึ่งของฟุตบอลไทย

ยกตัวอย่าง ประเทศไทยสมัยก่อน เราจ้างโค้ชต่างชาติเข้ามา เราก็ให้เขาทำทีมไปเลย เราก็ไม่มีการตรวจสอบอะไร อย่างสมัยก่อน เวลาผมไปแข่งทีมชาติ เราแพ้กลับมา แพ้ก็คือแพ้ ไม่มีการประเมินว่าเราแพ้เพราะอะไร เราจะทำยังไงต่อให้ให้ชนะเขาได้ ข้อมูลตรงนี้แทบไม่มีอะไรเลย พอแพ้มาปุ๊บ สมาคมก็จะมานั่งบอกว่าเรามาเดินแผนนี้ดูใหม่กันไหม ทำแบบนี้ทุกครั้งจนครบ 100 ปี แต่พอมีประธานพัฒนาเทคนิคฯ ขึ้นมาปุ๊บ มันก็จะเป็นการสร้างพื้นฐานที่ยั่งยืนกว่าเดิม

จริงๆ แล้ว ประธานพัฒนาเทคนิคฯ จะทำงานร่วมกับโค้ชทีมชาติทุกๆ ชุด มีหน้าที่ตรวจสอบช่วยเหลือ เวลาเราเห็น tactic ของต่างประเทศทีมที่เป็นคู่แข่งของเรา หรือมองเห็นจุดอ่อนอะไร ผมก็จะพยายามแจ้งให้โค้ชรับทราบว่านี่คือจุดอ่อน และดูว่าเขาซ้อมได้ไหม ถ้าเขายังทำไม่ได้ เราก็เข้าไปช่วยเหลือเขา มันไม่เหมือนกับในอดีตที่จะให้โค้ชจัดการเองหมด

ที่ผ่านมา เราเสียตรงกลางสนามเยอะเกินไป เราก็ต้องมาดูว่าทำไมเราถึงเสีย คงจะเป็นเรื่องแผนการเล่น และการ switching ในทีมชาติ มันไม่มีเลย ที่ทำให้เราเสียการครอบครองบอล อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่เล่นกันเป็นทีม และยังไม่รู้ว่าการโยกจากซ้ายไปขวา หรือขวาไปซ้าย เมื่อมีผู้ต่อสู้เข้ามาจะทำยังไง ดึงคู่ต่อสู้เข้ามาหรือยังและจะเปลี่ยนแกนยังไง ตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าตกใจมากที่เราเสียตรงกลางเยอะ และไม่มีการเปลี่ยนแกนเลย ตรงนี้จะเป็นข้อมูลสำหรับชุดหลังๆ ต่อไปด้วย


เผื่อใครยังไม่รู้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ “โค้ชเฮง” และ “โค้ชซิโก้” ได้มาอยู่ถ้ำเดียวกัน แต่โค้ชเฮงก็เคยเป็นโค้ชให้ซิโก้มาก่อน แถมยังเคยใช้โมเดลทำงานร่วมกันในรูปแบบ “โค้ช-ประธานฝ่ายเทคนิคฯ” แบบนี้มาแล้ว ตั้งแต่สมัยร่วมสร้างทีมชลบุรี การประสานมือกันครั้งนี้เพื่อสานฝัน “บอลไทย ไปบอลโลก” จึงไม่ใช่เรื่องน่าหนักใจเลยแม้แต่นิดเดียว

“และจริงๆ แล้ว ซิโก้เขาก็เป็นลูกศิษย์ผมอยู่แล้วนะ ตั้งแต่สมัยที่ผมเป็นโค้ชทีมชาติ เพราะฉะนั้น ในเรื่องของความเชื่อฟังหรือปฏิบัติตาม บวกกับไอเดียของเขา มันจะเป็นการพัฒนาที่ดีอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะไปขัดแย้งอะไรกัน และตอนสร้างทีมชลบุรี ตอนผมอยู่ในตำแหน่งประธานพัฒนาเทคนิคฯ ก็มีปีที่เขาเข้ามาเป็นโค้ชด้วย ตอนนี้ก็เหมือนยกเอาระบบนั้นมาใช้กับระบบทีมชาติไทยตอนนี้ครับ ซึ่งตรงนี้ถ้าแฟนบอลทุกคนรู้ ผมว่าฟุตบอลไทยจะมีการพัฒนาที่ดีกว่าเดิมแน่ ในเมื่อเรารู้ข้อบกพร่องของเราเอง เราก็รู้ข้อบกพร่องของคู่ต่อสู้ แต่ปกติ เราไม่ค่อยรู้เขารู้เรา ที่สำคัญ ไม่ค่อยรู้ตัวเอง

ผมว่าซิโก้เขาเข้าใจอยู่แล้วครับ จากการพูดคุยกัน เขารู้สึกชื่นชมด้วยซ้ำไปว่าข้อมูลต่างๆ ปกติไม่มีใครเสนอให้เขาดูเลยในแต่ละเกม จริงๆ แล้ว มันเป็นข้อมูลที่ช่วยพัฒนาตัวโค้ชเองด้วย พัฒนาผู้เล่นด้วย ให้ผู้เล่นมีความเข้าใจ เป็นการท้าทายผู้เล่นด้วย และจะกลายเป็นการพัฒนาทีมในที่สุด”






ข่าวโดย ผู้จัดการ Live




มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram

"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!


และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754



กำลังโหลดความคิดเห็น