โดนวิจารณ์น่วมสำหรับพระเอกคนดัง 'เจมส์ - จิรายุ ตั้งศรีสุข' (เจมส์จิ) กรณีผู้จัดการส่วนตัว 'ปิ๊ก ฌาณฉลาด' รุกตลาดแฟนคลับ ดันเด็กในปกครองผันตัวจากนักแสดงขึ้นสู่เวทีคอนเสิร์ตเดี่ยวอย่างเต็มรูปแบบ งานนี้โดนวิจารณ์ทั้งเรื่องร้องเพลงผิดคีย์ และราคาบัตรแพงหูฉี่สูงสุดราคา 6,000 บาท
ไม่คุ้มทุนผู้จัดคงไม่เดินหน้าคิดการใหญ่ จะว่าไปคอนเสิร์ตขายความหล่อเหล่าของดาราแถมฐานแฟนๆ แน่น ยังไงก็ขายบัตรได้กำไร อย่างปีก่อน งานแฟนมีตติ้งของเจมส์จิ โดยการผลักดันของผู้จัดการส่วนตัวก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ไม่น้อย แม้จะมีกระแสวิจารณ์เรื่องราคาบัตรแพงและความสามารถด้านการร้องเพลง ซึ่งทางผู้จัดการฯ เองก็ส่งนักแสดงหนุ่มไปร่ำเรียนร้องเรียนเต้นถึงประเทศเกาหลี
งานนี้ทำเอาอดคาดหวังไม่ได้ว่าทักษะการร้องเพลงและลีลาการเต้นของเจมส์จิไม่น้อย ทว่า หลังการโชว์ร้องสดในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 เพื่อโปรโมท คอนเสิร์ต MAGIC JAMES THE CONCERT ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 13 มิ.ย. พระเอกดังดันร้องผิดเพี้ยนตกเป็นเป้าวิจารณ์อย่างเลี่ยงไม่ได้
นอกจากคอนเสิร์ตของหนุ่มหล่อเจมส์จิ ที่ผ่านมาก็มีคอนเสิร์ตขายหน้าตาของนักแสดงชายให้แฟนๆ ได้ฟินกันแล้ว ที่ผ่านมาคอนเสิร์ตหล่อมากมาก ที่รวบรวม12พระเอกดัง ก็ประสบความสำเร็จไม่น้อย อย่างไรก็ตาม กระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นทางด้านผู้จัดการส่วนตัวคงต้องยืดอกรับผิดชอบเต็มๆ
คอนเสิร์ตขายความหล่อ
ประเด็นเจมส์จิตกเป็นเป้าวิจารณ์ในสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะประเด็นด้านความสามารถในการแสดงและร้องเพลง ราคาบัตรงานคอนเสิร์ตเดี่ยวที่โดนติงว่าแพง รวมทั้งข้อครหาเรื่องผู้จัดการส่วนตัวใช้ประโยชน์ในตัวเจมส์จิเกินไป
“รู้สึกเหมือนกัน สงสารเจมส์ ตอนนี้จะเลิกติดตามเจมส์แล้ว เพราะรู้สึกว่า ผจก. เจมส์ เอาประโยชน์จากคนที่สงสารเจมส์มากเกินไป ทำเหมือนน้องไม่ใช่คน ทำานหนักมาก แต่พอจะเลิกจริงๆ เห็นหน้าน้องก็สงสาร ปล. คือชอบน้องแสดงละคร จะติดตามและสนับสนุน งานละครของน้องนะค่ะ (และอยากให้น้องไปเรียนการแสดงเพิ่ม เพราะเห็นทีเซอร์หนึ่งในทรวง ทำไมน้องดูแข็งจัง ) แค่เห็นทีเซอร์” ข้อความจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย สมาชิกหมายเลข 1085181
“บัตรวีไอพีมีไม่กี่ที่ค่า พร้อมของเเจกค่า ที่เหลือก็มีราคาหนึ่งพันสองพันสามพันซึ่งบัตรราคาถูกกว่าที่มีเยอะมากกว่าไม่มองกันตรงนี้เนอะ ใครอยากติติงอะไรเชิญตามสบายเลยชินละตั้งเเต่ปีที่เเล้วเเล้วอิอิ เรื่องตั้งราคาบัตรต้องถามผู้จัดเนอะ เจมส์ไม่ได้เป็นคนกำหนดราคาเเต่ส่วนมากที่โดนว่าโดนเเซะคือเจมส์ก็รับกันไปสงสารนางเหมือนกัน” ข้อความจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย แวะมาเยี่ยมชม
“Maroon 5 ราคาสูงสุด 5,000 นักร้องระดับโลก แต่ 6,000 มันก็แพงไปจริงๆ แม้จะมีบัตรราคาถูกตามลงมาก็เถอะ แต่ ควรลดราคาลงมาบ้างทำแบบนี้เขาถึงได้หมั่นไส้กันไปทั้งบ้านทั้งเมือง ทักษะการร้องเพลงก็ไม่ได้เทพขนาดนั้น ถ้ามีความสามารถในการร้องเพลงระดับ เทพๆ นี่จะไม่ว่าเลย เรียนร้องเพลงแค่ไม่กี่เดือนมันอาจทำให้ดีขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่าดีจนต้องทุ่มค่าบัตรขนาดนนี้” ข้อความจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย สมาชิกหมายเลข 1289675
“จริงๆ พอเข้าใจว่าเป็นบัตร VIP มีไม่กี่ที่ แถมมีของแถม ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่มีอะไร แต่มันอยู่ตรงที่ตัวศิลปินมี product value สูงขนาดนั้นเลยเหรอ อันนี้ไม่ได้ว่าเจมส์นะ แต่สงสัยตัวผู้จัด ตั้งแต่คอนฯ คราวก่อนแล้วที่มีคนติงด้วย 1. เป็นศิลปินไทย (ต้นทุนค่าใช้จ่ายคอนเสิร์ตถูกกว่าศิลปิน ตปท. อยู่แล้ว) 2. เจมส์ไม่ใช่นักร้องอาชีพ โอเคล่ะ คนฟังฟังเอาสนุก เจมส์น่ารัก ดูแล้วชื่นใจ ไม่ใช่ฟังเอาเพราะ เพราะฉะนั้นคอนเสิร์ตนี้ไม่ควรตั้งบัตรสูงขนาดนี้ บัตรแพงสุดไม่จำเป็นต้องมีของแถม แต่เป็นราคาที่คนเอื้อมถึงดีกว่า ราคาสูง ก็จะมีแต่แฟนคลับหน้าเดิมๆ ที่รักเจมส์มากพร้อมจ่าย มากกว่าแฟนคลับขาจรอยากเข้าไปรู้จักและสัมผัสเจมส์มากขึ้น
“จริงๆ บัตรแพงสุดของทุกคอนเสิร์ตเป็นอะไรที่ขายหมดก่อนเพื่อนอยู่แล้ว เพราะยังไงก็มีแฟนๆที่รักมากและพร้อมจะจ่าย แต่ถ้ามองในมุมมองของคนทั่วไป คอนเสิร์ตที่เอาดารามาร้องเพลง มันไม่น่าจะแพงถึงขนาดนี้ คอนเสิร์ต ศิลปินต่างประเทศ ขนทีมงาน เครื่องดนตรี พร็อพมาจากต่างประเทศ บัตรก็พอๆ กับคอนเสิร์ตนี้ เราเป็นคนนึงที่ตามเจมส์มาตั้งแต่ยังไม่ดังมาก อยากฝากถึงทีมงานสตาฟที่อยู่เบื้องหลังนะคะ เขาดังเพราะผลงาน เรารู้จักเค้าเพราะผลงาน ละคร เพราะงั้น ก็โฟกัสที่ผลงานละครเถอะค่ะ อย่าทำครึ่งๆ กลางๆ กระแสกำลังมาไปเทรนด์ออกคอนฯ บางทีเราก็ไม่อยากไปดูคอนฯ ของดารา” ข้อความจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย The Rizzippeza
เขาคิดแล้วว่าต้องได้กำไร!
“แฟนคลับของเจมส์จิ ถ้าดูจากยอดใน Facebook แฟนเพจต่าง ๆ และ Instagram ผมคาดว่าน่าจะมีแฟนคลับแบบแฟนจริง ๆ ประมาณ 2 ล้านคน ซึ่งตั๋วที่นั่ง 6,000 บาท ที่คาดกันว่ามีประมาณ 480 ที่นั้น ผู้จัดน่าจะคิดแล้วว่าน่าจะขายหมด ดังนั้นราคาที่สูงถึง 6,000 บาทจึงเป็นจุดที่คิดว่าทำกำไรได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยที่สุด ซึ่งในมุมมองของแฟนคลับหลายคนที่ได้สอบถามมา ส่วนมากก็ไม่ค่อยพอใจเพราะตั๋ว 6,000 บาทนี้ถือว่าค่อนข้างแพงเกินฐานะแฟนคลับหลายคนไปมาก อีกทั้งเจมส์จิเองก็ไม่เคยเล่นคอนเสิร์ตใหญ่ ที่ผ่านมาก็มีแค่คอนเสิร์ตหล่อมากมาก ที่เป็นคอนเสิร์ตรวมคราวก่อน ดังนั้นเจมส์จิก็ยังถือว่ายังมีประสบการณ์น้อยในการให้ความบันเทิงกับคนดู ไม่น่าจะคิดราคาค่าตั๋วแพงสุดในราคาขนาดนี้” อ.กอบกิจ ประดิษฐผลพานิช หัวหน้าภาควิชาการสื่อสารการตลาด คณะนิเทศศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวและวิพากษ์ถึงรูปแบบคอนเสิร์ตของนักแสดงหนุ่ม
“คอนเสิร์ตMAGIC JAMES คราวนี้ถึงแม้จะเหมือนจะมีทัพศิลปินดาราดังมาช่วยเช่น บอยปกรณ์ เต๋อ ต่อ แต่ก็ต้องอย่าลืมว่าคราวก่อน ๆ กว่าจะให้ตั๋วหมดได้ก็ไม่ง่าย ผู้ที่ดูแลแบรนดเจมส์จิ ควรจะพิจารณาให้ดี ถึงปัจจัยแวดล้อมก่อนจะตั้งราคาบัตรว่า ตั๋วหากขายไม่หมด คอนเสิร์ตที่นั่งไม่เต็ม ก็เป็นพิษภัยต่อภาพลักษณ์ศิลปิน และเงินที่ได้มาจะไม่คุ้มค่าเลย
“หากภาพลักษณ์ศิลปินตกลงไป ศิลปินที่จะเป็นระดับซูเปอร์สตาร์ได้ทุกอย่างต้องพอเหมาะพอควร ค่าตั๋วก็พอควร คนเข้าถึงได้ แฟนคลับจะได้รัก รักกันยาวๆ อย่ากินสั้นๆ อยากจะให้ผู้ที่ดูแลแบรนด์เจมส์จิ มองว่า ศิลปินนั้นต้องค่อยๆ โต ค่อยๆ ก้าวหน้า อย่าดันแรง ดันเร็วเกินไป จะเป็นต้นไม้ที่รากไม่แน่น”
อ.กอบกิจ อธิบายในแง่มุมการทำการตลาดเจมส์จิของผู้จัดการส่วนตัว “ถ้าเปรียบเจมส์จิ เป็นสินค้า ผู้บริหารที่ดูแลสินค้าหรือแบรนด์นี้ ผมว่าไม่ธรรมดา เพราะเขารู้วิธีที่จะชิงพื้นที่ข่าวมาโดยตลอด อย่างคราวนี้ถึงแม้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตอนต้น แต่หลังจากนั้นข่าวที่ออกมาก็เป็นเรื่องของเจมส์จิที่กำลังซ้อมเต้น ฮึดสู้คำปรามาส ซ้อมการแสดงอย่างหนัก เรียกความสงสารจากแฟนคลับ
"แบรนด์เจมส์จิมีประเด็นน่าห่วงคือ ภาพลักษณ์ที่ตอนนี้ออกแนวคุณชาย น่ารักแต่นิ่ง ๆ มากไป การจัดคอนเสิร์ต น่าจะช่วยให้แบรนด์เจมส์จิมีลักษณะไม่นิ่งเกินไปได้ ส่วนการที่ต้องมีเรียนเต้น เรียนร้องเพลง มีบอดี้การ์ดแบบศิลปินเกาหลีนั้น หากทำแต่พอดีก็ส่งเสริมภาพลักษณ์ว่ามีการพัฒนาตัวเองและมีความเป็นซูเปอร์สตาร์ ซึ่งต้องมีทีมงานแวดล้อมตัว แต่หากมากเกินไป ก็จะดูไม่จริง ทำให้เป็นแบรนด์ที่ดูปลอม”
…................................
ข่าวโดย Astv ผู้จัดการ Live