xs
xsm
sm
md
lg

ยิ้มร่ารับ 'กฎอัยการศึก' คานิวัลลายพราง 'ทหาร – รถถัง' !?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่าขณะนี้ 'ทหาร' ได้เข้ามาดูแลรักษาความสงบด้วยการประกาศกฎอัยการศึก ท่ามกลางวิกฤตการเมืองที่กำลังลุกโชน
แน่นอน! เป็นอีกครั้งที่คนไทยรวมทั้งคนทั่วโลกจับตามองแบบไม่กระพริบ ขณะที่กำลังพลและรถถังเคลื่อนตัวเข้าตรึงพื้นที่ต่างๆ เพื่อจุดหมายทางด้านความมั่นคง ก็อดหวนคำนึงถึงเหตุรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 เสียไม่ได้

ส่วนการเข้ามาดูแลของกองทัพฯ จะคุ้มค่าแก่การรอคอยหรือไม่? เชื่อว่า..ทุกท่านคงมีคำตอบใจต่างกัน

ประชาชนอุ่นใจ ทหารไทยออกโรง
“ขอบคุณทหารที่ออกมาช่วยดูแลประชาชน ช่วยดูแลประเทศให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข” เสียงสะท้อนจากชาวบ้านคนหนึ่ง ในย่านบางลำพู

“อยากจะถามว่าทหารเอาจริงหรือเปล่า?” หญิงวัยกลางคนแทรกคำถามขึ้นมา พร้อมเปิดเผยความในใจว่ารู้สึกขอบคุณที่นายทหารกล้าออกมาปกป้องประชาชน แม้ยังมีคำถามติดค้างในเรื่องความเอาจริงเอาจังของทางกองทัพฯ แต่ก็มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทหารมากกว่าตำรวจ เพราะที่ผ่านมากลุ่มคนสีกากีเป็นผู้ดูแลความสงบแต่กลับมีเหตุรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง

“อบอุ่นดี ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาเข็นฆ่ากันเอง คือเราประชาชนจะได้ทำมาหากินกันแล้ว” เจ้าของร้านขายเสื้อผ้า ย่านบางลำพู กล่าวสั้นๆ ถึง กรณีการประกาศกฎอัยการศึก

ไล่ลำดับเหตุการณ์ ช่วงเวลาประมาณ 3.00 น. ของวันที่ 20 พฤษภาคม ช่องฟรีทีวีทุกแทรกสัญญาณเฉพาะกิจ โดยเผยแพร่ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก อ่านประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร โดยสรุปใจความสำคัญแบบย่อๆ ความว่า จากสถานการณ์การชุมนุมประท้วงต่างๆ มีผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างสถานการณ์ด้วยการใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชน และสร้างความเสียหายต่อสถานที่สำคัญ เป็นเหตุให้ผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน กระทบความมั่นคงของชาติและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพท์สินของประชาชน

ทั้งนี้ เพื่อนำความสงบเรียบ และความสงบสุขกลับคืนสู่ประชาชนโดยเร็ว ทางกองทัพฯ จึงใช้อำนาจตามความในมาตรา 2 และมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เวลา 3.00 น. เป็นต้นไป เพื่อเร่งเข้าสู่กระบวนการแก้ปัญหาของชาติอย่างยั่งยืนโดยเร็ว

เจ้าของร้านขายกางเกงยีนต์ ย่านบางลำพู เปิดใจว่า การที่ทหารเข้ามากำกับดูแลในเวลานี้จะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลาย ที่ผ่านมาสถานการณ์การชุมนุมแบ่งเป็นหลายฝ่าย พร้อมจะปะทะกันทุกเมื่อ เพราะมีความคิดที่แตกต่างกัน “ยังไงต้องปะทะแน่ ยังห่วงอยู่ พอทหารออกมารู้สึกอุ่นใจว่า โอเค..มันไม่ร้ายแรงแล้ว ดีขึ้นครับ”

จากการพูดคุยกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตพระนคร หลายคนแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่สมเหตุสมแล้วที่ทหารเข้ามาดูแลความสงบ อีกอย่าง เชื่อมั่นว่าการที่ทหารเข้ามาดูแลจะทำให้ทุกฝ่ายมีความเกรงกลังต่ออำนาจกฎหมายมากขึ้น

ถามว่ากลัวเหตุรุนแรง จำพวกการสร้างสถานการณ์ของมือดีบ้างหรือเปล่า ตัวแทนชาวบ้านตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ไม่กลัว กลับอบอุ่นเสียอีก รู้สึกดีขึ้น”

บ้างก็พูดขึ้นด้วยความเชื่อมั่น “ทหารเขาจัดการได้อยู่แล้วนี่ ทหารเขาออกมาดูแล้ว”

ขณะที่มีเสียงแทรกในทำนองว่า ทหารน่าจะออกมาตั้งนานแล้ว ถ้าออกมาตั้งแต่แรกก็คงไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้นดังที่เป็นข่าวในช่วงเวลาที่ผ่านมา

จากการพูดคุยกับกลุ่มชาวบ้านได้บทสรุปว่า ทุกคนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของทหารที่จะเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ และนำพาประเทศไทยสู่ทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับ

ปรากฎการณ์เซลฟี่ ทหาร - รถถัง
ในเรื่องการกำกับดูแลของทางทหารคงต้องจับตาดูกันต่อไป อย่างไรก็ตาม มีคำถามหนึ่งที่อื้ออึงอยู่ในสังคมไทยถึงท่านผู้นำกองทัพฯ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าจะก่อรัฐประหารหรือไม่?

ย้อนกลับไป เมื่อปี 19 กันยายน 2549 ภาพการเคลื่อนขบวนรถถังพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าควบคุมความสงบบริเวญพื้นที่สำคัญในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน ดำรงตำแหน่งหัวหน้าคณะปฏิรูปฯ ก่อรัฐประหาร เพื่อโค่นล้มรักษาการนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งปัจจุบันยังหลบหนีและมีสถานะเป็นนักโทษหนีคดี

ถือเป็นเหตุการณ์ทางการเมืองครั้งสำคัญในรอบ 15 ปี นอกจากถูกจารึกในประวัติศาสตร์ชาติไทย สถานกาณณ์การเมืองครั้งนี้ยังทำเอาคนทั้งโลก อ้าปากหวอ เพราะฉงนในพฤติกรรมคนไทย ที่เฮละโลถ่ายภาพคู่กับบรรดานายทหารกล้า จูงมือลูกหลานไปดูรถถังอย่างใกล้ชิดพร้อมเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกอย่างไม่เกรงกลัวด้านความปลอดภัยดังที่ควรจะเป็น

หยิบยกคำโปรยข่าวในอดีตเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น อาทิ สื่อนอกงงชีวิตคนไทย พบไม่ได้รุนแรงตามภาพข่าวที่แพร่ไปทั่วโลก ขณะเด็ก-ผู้ใหญ่แห่ถ่ายรูปคู่ทหาร พร้อมมอบดอกไม้ขอบคุณ ขณะพ่อแม่อุ้มลูกจูงหลานดูรถถังพร้อมอธิบายเหตุการณ์ให้เด็กเข้าใจ หรือ ประชาชนละแวกใกล้เคียงได้หอบลูกจูงหลานมาให้กำลังใจทหาร พร้อมขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก หรือ พลิกวิกฤติเป็นโอกาส จัดแพกเกจถ่ายภาพเวดดิ้งกับทหารรถถัง คู่บ่าว-สาวเผยไม่กลัว แถมเก๋ แปลกเร้าใจ ฯลฯ

แม้จะโค่นล้มอำนาจไม่ชอบธรรมของรัฐบาลทักษิณลงได้ แต่การก่อรัฐประหารในสถานการณ์ที่ทหารเข้ามากำกับดูแลกลับตาลปัตรเป็นตลกร้าย ย้ำให้ชาวโลกเห็นว่าที่นี่เป็นประเทศสารขัณฑ์

ปรากฏการณ์ของคนไทยที่มีต่อการก่อรัฐประหารในครั้งนั้น ทำราวกับว่ากองทัพฯ ที่เคลื่อนพลเข้ามาดูแลความสงบ นั้นไม่ต่างจากการแสดงโชว์ในช่วงเทศกาลวันเด็กประจำปีแล้ว เช่นเดียวกัน แม้ขณะนี้ทหารยังไม่ได้ก่อรัฐประหาร เพียงประการใช้กฎอัยการศึก แต่ถ้าส่งสำรวจดูแล้วจะเห็นว่าผู้คนจำนวนไม่น้อย เริ่มมีการถ่ายภาพและแชร์ถ่ายเซลฟี่ของตัวเองคู่กับ ทหาร, รถถัง ฯลฯ ให้เห็นกันบ้างแล้ว

เป็นที่น่าสงสัยว่า พฤติกรรมเหล่านี้จะลดทอนความน่าเชื่อมั่นของทหารไทยในสายตาคนต่างชาติบ้างหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ในสายตามคนไทยด้วยกันเอง ใช่ว่าจะมั่นใจการยื่นมือเข้ามาคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองของทางกองทัพฯ ส่องสำรวจตามโซเชียลมีเดียก็จะพบความคิดเห็นทำนองหยิกแก้มหยอกเหล่าทหารกล้าอย่างหนาตา

#กฎอัยการศึก #แล้วไงต่อ
ด้วยเหตุดังกล่าวจึงหลีกเลี่ยงคำถามอะไรเทือกนี้ไม่ได้เลยว่า การประกาศกฎอัยการศึกนั้นเป็นการกลับมาของเทศกาลวันเด็กหรือเปล่า? บรรยากาศนายทหารที่เข้าดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ต่างๆ จะกลายเป็นเพียงการแต่งคอสเพย์ลายพรางมาให้ประชาชนถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหรือไม่ พิจารณาท่าทีของคนในสังคมไทยจำนวนไม่น้อยที่แสดงออกในทำนองนั้น

เช่นเดียวกับ คำถามที่ว่าประกาศกฎอัยการศึกแล้วทหารจะทำอย่างไรต่อ จะแก้ปัญหามือที่สามที่เข้ามาก่อความไม่สงบท่ามกลางวิกฤติการเมือง ตามคำแถลงฯ ในการประกาศกฎอัยการศึกได้อย่างไร

ไม่ต่างจากกระแสในโซเชียลฯ ยกตัวอย่างแฟนเพจยอดนิยมที่ขึ้นชื่อในเรื่องเสียดสีสังคม Drama-addict ก็ทำการโพสต์ตอนรับการประกาศใช้กฎอัยการศึกแบบหยิกแก้มหยอก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่ออกแถลงการประกาศฯ เมื่อเช้ามืด

“สรุปข่าวเด่นเช้านี้
หวัดดี ชาวโซเชี่ยลแคมทุกคน
ไม่มีไรมาก แค่อยากบอกว่า
วันนี้มาประกาศกฎอัยการศึก
มาประกาศคนเดียวด้วย
ทุกฝ่ายกลับบ้านนะจ้ะ
เท่านี้นะ สวัสดี”

หรืออย่าง แฮชแท็ก ที่กำลังได้รับความสนใจจากคนไทยบนโลกออนไลน์ในท่ามกลางการกำกับดูแลของกองทัพฯ คงต้องยกให้ #กฎอัยการศึก และ #แล้วไงต่อ สะท้อนถึงความเคลือบแคลงสงสัยว่า สถานการณ์ทางการเมืองของไทยจะดำเนินอย่างไรต่อไป

รศ.ตระกูล มีชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แสดงทัศนะในเรื่องการประกาศกฎอัยการศึกของทางกองทัพบก ประชาชนจะมีความคาดหวังว่าสิ่งนี้จะสามารถยับยั้งเหตุรุนแรงที่เป็นผลพวงมาจากความขัดแย้งทางการเมืองได้ มีความเชื่อว่าทหารจะสามารถคลี่คลายทางการเมืองได้ แต่ถ้าทหารไม่สามารถทำให้ประชาชนเห็นได้ก็จะกลายเป็นบูมเมอแรงย้อนกลับไปทางกองทัพฯ สุดท้าย กฎอัยการศึกก็ไม่ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ เลย

“คนเริ่มมีคำถามว่ากฎอัยการศึกมันใช่ทางออกของปัญหาจริงหรือไม่? เพราะท่าทีของทหารยังไม่ชัดเจนว่าจะเข้ามาจัดการปัญหาหรือหาทางออกของบ้านเมืองได้อย่างไร”

คงต้องดูทีท่าของทางทหารต่อไปว่าจะเข้ามามีบทบาทในการคลี่คลายสถานอย่างไร และจะนำความสงบสุขที่ขาดหายไปจากสังคมไทยกลับคืนมาได้อย่างสมบูรณ์หรือไม่ รศ.ตระกูล ทิ้งท้ายว่า เวลาเพียงน้อยนิดอย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าทางกองทัพฯ จะมีศักยภาพในการจัดการสถานการณ์ไม่สงบอันส่งผลกระทบต่อประชาชนได้หรือไม่?

เชื่อว่า การออกมาของกองทัพฯ ในครั้งนี้ จะไม่ใช้เพียงการโชว์ยุทโธปกรณ์ทางทหารให้ใครได้สบประมาทอย่างแน่นอน!
…...................................

เรื่องโดย ทีมข่าว ASTV ผู้จัดการ LIVE

///////////////////////////////////////////

ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!


รัฐประหาร ปี 2549
รัฐประหาร ปี 2549
ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร





ข่าวคนไทยแห่เซลฟี่จากสำนักข่าว AP
Drama-addict แซวท่านผบ.ทบ.
กำลังโหลดความคิดเห็น