xs
xsm
sm
md
lg

รำลึกวิถีบุรุษ "ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลส์" ร้านบาร์เบอร์ชอปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลส์ ร้านบาร์เบอร์ชอปที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
ย้อนกลับไป 10 ปีก่อน ผู้ชายดูแลตัวเองอาจถูกมองว่าเป็นเกย์หรือเปล่า? หากแต่ในยุคปัจจุบันการหันมาดูแลตัวเอง ตั้งแต่การตัดผมจัดทรง โกนหนวดแต่งเคราจนถึงฉีดน้ำหอมแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติ

สำหรับหญิงสาวหากอยากจะเสริมสวยก็มีร้านทำผม (salon) กับชายหนุ่มหากอยากจะเสริมหล่อร้านตัดผม (barbershop) ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่อยู่เคียงคู่กับวิถีชีวิตเก่าก่อนมาอย่างช้านาน ทว่ากับยุคปัจจุบันมนต์เสน่ห์หลายอย่างก็ได้จืดจางลงไปตามกาลเวลา แต่ไม่ใช่สำหรับ ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ (Truefitt & Hill) บาเบอร์ช็อปที่เก่าแก่ที่สุดในโลกจากประเทศอังกฤษ

"บรรยากาศในร้านจะเป็นแบบเดียวกับต้นสำรับจากอังกฤษแท้ๆ ทั้งเพลงที่เปิด กลิ่นภายในร้าน อุปกรณ์ที่ใช้จนถึงการตกแต่ง ทุกสิ่งทุกอย่างมีเรื่องราวมีตำนานที่สั่งสมมาอย่างยาวนานจากต้นกำเนิดที่ถนนบอนด์สตรีทในประเทศอังกฤษ" ศกร ทวีสิน กล่าวโดยเขาเป็นผู้นำร้านบาร์เบอร์ชอป ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์เข้ามาเปิดในประเทศไทยที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่เป็นสาขาแรก

โดยความเป็นมาของทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์นั้นมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 1805 ที่ถนนบอนด์สตรีท ในเมืองลอนดอนก่อตั้งโดยชาย 2 คนผู้มีนามสกุลว่า ทรูฟิทท์ กับ ฮิลล์ ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ที่ถนนเซนต์เจมส์ที่ตั้งอยู่ใกล้รัฐสภาซึ่งในสมัยนั้นอาชีพด้านการเมืองการปกครองก็ถือเป็นอาชีพสำหรับผู้ชาย ทำให้ย่านนั้นเป็นแหล่งรวมตัวของร้านค้าและบริการต่างๆ สำหรับผู้ชาย มีทั้งร้านตัดสูท ร้านตัดรองเท้าซ่อมรองเท้า ร้านผลิตปืนจนถึงร้านตัดผมหรือบาร์เบอร์ชอป

มองย้อนกลับมาในประเทศไทยร้านตัดผมในสไตล์ของบาร์เบอร์ก็ยังคงมีอยู่ทั่วไปตามตรอกซอกซอยริมถนน ศกร เผยว่า ในช่วงที่ได้คุยกับเจ้าของแบรนด์ก็ได้มีการลงพื้นที่สำรวจตลาด พบว่า ช่างตัดผมไทยฝีมือดีมากถือว่าระดับโลกอยู่เหมือนกัน รวมถึงวัฒนธรรมการตัดผมก็ยังคงอยู่

"ตอนเราคุยกับเจ้าของแบรนด์ก็มีการเข้ามาตรวจสอบตลาดในเมืองไทยว่าเป็นยังไง? จะไปรอดมั้ย? ผมพาเขาไปแวะร้านตัดผมแถวประชาชื่น แถวลาดพร้าวที่เป็นสไตล์บาร์เบอร์ที่มีอยู่ตามริมถนนราคา 60-70 บาท เขาก็ประทับใจมาก เพราะจริงๆ คนไทยนี่ฝีมือติดอันดับเลย แต่สิ่งที่เราขาดคือขาดเรื่องของอุปกรณ์ วัตถุดิบต่างๆ เรื่องของครีม น้ำมันโกนหนวด รวมถึงขั้นตอนการโกนหนวดซึ่งเรายังอาจจะทำได้ไม่เนี้ยบเท่ากับของที่อังกฤษ"

รายละเอียดของอุปกรณ์ วัตถุดิบ จนถึงขั้นตอนต่างๆ ทำให้เกิดสุนทรียะเฉพาะตัว เขายกตัวอย่างของการโกนหนวดซึ่งประกอบด้วยหลายขั้นตอนที่เต็มไปได้ความประณีต ความใส่ใจในรายละเอียดเริ่มตั้งแต่เก้าอี้ตัดผมที่เป็นเก้าอี้แฮนด์เมดเบาะหนังผลิตขึ้นที่โรงงานคอลลินซึ่งเป็นโรงงานเก่าแก่ตั้งอยู่ในนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา

"แรกเริ่มเราก็จะปรับที่นั่งให้เข้ากับสรีระของลูกค้า หลังจากเอนเบาะนอนลงช่างก็จะทำการวอร์มใบหน้าของลูกค้า สิ่งที่สำคัญเวลาโกนหนวดคือหน้าจะต้องนุ่ม เรียบรื่น ขนบนใบหน้าจะต้องตั้งพร้อมสำหรับการโกนหนวด วิธีการคือช่างจะเอาน้ำมันก่อนโกนหนวดมาลงที่บริเวณหนวดเคราพร้อมทำการนวดให้น้ำมันซึมลงไป โดยระหว่างนั้นช่างจะคอยจับสำรวจดูใบหน้าว่า ลูกค้ามีหนวดเคราเป็นอย่างไร มีอุปสรรคในการโกนหนวดอะไรบ้างหรือเปล่า"

หลังจากนั้นช่างจะนำผ้าร้อนมาห่อใบหน้าลูกค้าเพื่อทำให้รูขุมขนเปิดเต็มที่ด้วยอุณหภูมิความร้อนของผ้าและวิธีการห่อใบหน้าก็เป็นแบบเฉพาะตัว โดยระหว่างนั้นช่างก็จะทำการนวดศีรษะ กลิ่นหอมเฉพาะตัวของร้านรวมกับเพลงจังหวะสบายๆในยุค 60-80 บอกได้ว่ากระบวนการเหล่านี้ถูกออกแบบให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายอย่างที่สุด

"ช่างจะปล่อยผ้าร้อนไว้ 2-3 นาทีระหว่างนั้นเขาก็จะทำการผสมครีมที่เนื้อจะข้นกว่าโฟมปกติที่ใช้กัน จากนั้นช่างจะนำผ้าร้อนออกแล้วใช้แปรงทาครีมโกนหนวดไปบนใบหน้าของลูกค้า" เขาเอ่ยพร้อมเผยว่า แปรงทาครีมโกนหนวดนั้นเป็นแปรงที่ทำจากขนหน้าอกของตัวแบดเจอร์โดยเป็นงานฝีมือที่ใช้เวลาถึง 5 วันในการทำออกมา 1 แปรง

หลังจากทาครีมโกนหนวดจนทั่วแล้ว ช่างจะใช้มีดโกนหนวดแบบซิงเกิลเบรดหรือใบมีดเดี่ยวค่อยๆ โกนหนวดเคราออก แล้วเอาน้ำล้างครีมโกนหนวดทั้งหมด เสร็จแล้วช่างจะสำรวจดูใบหน้าลูกค้าหากยังมีหนวดเคราหลงเหลือเขาก็จะทำการโกนอีกครั้งด้วยขั้นตอนเดิมทั้งหมด และเมื่อใบหน้าเกลี้ยงเกลาหรือเข้ารูปทรงหนวดเคราตามที่ลูกค้าต้องการแล้ว ช่างจะนำผ้าเย็นออกมาห่อใบหน้าเป็นการปิดรูขุมขนกลับคืน ก่อนนวดด้วยน้ำมันหลังโกนหนวดที่มีกลิ่นหอมและช่วยบำรุงผิวเป็นการปิดท้าย

"ผมว่าผู้ชายไทยสมัยนี้เริ่มพร้อมกับการหันมาดูแลตัวเองแล้ว เราเลยยุคที่ผู้คนชอบแบรนด์เนมใหญ่ๆ เหมือนทุกคนมีหมดแล้ว ดังนั้นเมื่อคนเรามีของข้างนอกครบไม่แปลกหากพวกเขาจะเริ่มหันกลับมาดูสิ่งที่อยู่ภายใน หันกลับมาดูแลตัวเองแทน"

ในส่วนของช่างตัดผมนั้นเนื่องจากอาชีพนี้เป็นอาชีพสงวนสำหรับคนสัญชาติไทยเท่านั้น ช่างตัดผมจึงเป็นชาวไทยแต่ก็มีการควบคุมคุณภาพด้วยบาร์เบอร์มาสเตอร์ผู้มีประสบการณ์จากทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์โดยตรง อย่างไรก็ตาม การโกนหนวดหลายคนอาจมองว่าโกนเองก็ได้ เขาเผยว่า ทั้งหมดของร้านเป็นการให้บริการทางด้านไลฟ์สไตล์รูปแบบหนึ่งมากกว่า

"ที่นี่ส่วนหนึ่งมันเป็นเรื่องของการขายไลฟ์สไตล์ ขายประสบการณ์มากกว่า เพราะเมื่อเข้ามาในร้านทุกคนจะได้ยินเพลง ได้สัมผัสบรรยากาศที่เป็นอารมณ์แบบทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์ ที่เป็นผู้ชายจริงๆ” ศกรเอ่ย "และเรื่องของการบริการอย่าง การโกนหนวดมันไม่ใช่แค่โกนหนวดแต่เป็นการดูแลใบหน้าของเรา เป็นการให้เวลากับชีวิตของเรา อาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้ง มาให้หน้าเราได้พักผ่อน หรืออาจจะไม่ได้มาใช้บริการก็ได้แต่มาพูดคุยแวะมาอ่านหนังสือมานั่งเล่น ที่นี่เป็นเหมือนรวมตัวของผู้ชายมากกว่า"

เรื่อง : ASTV ผู้จัดการ Live

ภาพ : ปัญญพัฒน์ เข็มราช

ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage ของ "ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!


ศกร ทวีสิน ผู้นำร้านบาร์เบอร์ชอป ทรูฟิทท์ แอนด์ ฮิลล์เข้ามาเปิดในประเทศไทยที่เซ็นทรัลเอ็มบาสซี่เป็นสาขาแรก




กำลังโหลดความคิดเห็น