สาวน้อยลูกครึ่งเมืองผู้ดี ไทย-อังกฤษ ว่าที่นางเอกวิกน้อยสี “แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด” หรือที่หลายคนเรียกเธอสั้นๆ ว่า “แพท” มองเผินๆ เธอมีหน้าตาน่ารักละหม้ายคล้ายนางเอกซุป'ตาร์ “ญาญ่า” แต่ในบางมุมก็สวยคมเหมือน “วิกกี้” ราวกับน้องสาวคลานตามกันมา วันนี้ M-Lite นัดพบสาวแพท เธอมาในชุดเสื้อสีขาวตัดกระโปรงสีส้มสั้นแสบตา ดูขี้เล่น เปรี้ยวซ่า แสบซน แม้จะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก เพราะโดนไข้หวัดเล่นงาน แต่เธอก็ยังส่งยิ้มหวานให้อย่างไม่ขาดสาย
หลายคนอาจเคยเห็นเธอในโฆษณาคิวเพรส วีต้า หรือตามหน้านิตยสารวัยรุ่นอย่าง เซเว่นทีน และแคมปัสกันมาบ้างแล้ว ก่อนจะมาประเดิมความสามารถด้านการแสดงละครครั้งแรกในชีวิต “หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ” ซึ่งเรื่องนี้ได้จุดประกายความฝันวัยเด็กของเธอที่มีเป้าหมายว่า อยากเป็นนักแสดงมืออาชีพให้ชัดเจนขึ้น
รับเป็นลูกปีเตอร์
“หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ” จับสาวน้อยมาเล่นในบท “น้อยหน่า” ที่ซ่อนความน่ารักแสบซนให้คอยลุ้นคอยติดตาม เรื่องนี้แพทได้ใกล้ชิดกับปีเตอร์ (ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล ) หนุ่มในฝันกล้ามบึกของสาวๆ ในบทบาทพ่อ-ลูก ที่แสดงออกมาให้แฟนละครอินกับบทถึงขนาดอยากเป็นแม่เลี้ยงน้อยหน่า!?
สาวแพทออกอาการขำเล็กๆ เมื่อพูดถึงกระแสละครในบทบาทลูกของปีเตอร์ แล้วบอกว่า “ทุกคนก็ชอบพี่ปีเตอร์มากค่ะ หล่อมาก จึงทำให้ทุกคนจำน้อยหน่าได้ เพราะน้อยหน่ากับพ่อเขาก็จะมีความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ทำให้ทุกคนจดจำ มีงอนกัน และทะเลาะกันแบบนี้”
ไม่ใช่แค่ช่วงวัยเท่านั้นที่ทำให้น้อยหน่ากับแพทดูใกล้เคียงกัน เพราะบุคลิกของทั้งคู่ก็ออกมาแบบพิมพ์เดียวกันเป๊ะ! “เวลาอยู่กับเพื่อนหนูจะซนมาก ชอบแกล้ง ชอบมีมุกขำๆ สนุกดี แต่มีเรื่องเดียวที่น้อยหน่าไม่เหมือนเรา คือหนูไม่ค่อยงอนพ่อ เราไม่ค่อยทะเลาะกันเหมือนในละคร
บทน้อยหน่าค่อนข้างใกล้ตัวหนู ไม่ห่างจากวัยเรามาก เลยเข้าใจบทนี้ได้ เรื่องนี้ก็ดีค่ะ สนุกดี หนูเล่นละครครั้งแรกด้วย ตอนแรกก็ตื่นเต้นมากเลยค่ะ feedback ก็ดีค่ะ ไม่เคยคิดเลยคะว่าทุกคนจะชอบการแสดงของเรา ได้ไปอ่านคอมเมนต์ตามเว็บต่างๆ มีหลายคอมเมนต์ที่โดนใจมาก เพราะมีหลายคนเลยที่ชอบการแสดงของเรา เขาบอกว่ามันดูเป็นธรรมชาติ ดูจริงมากๆ ก็เลยชอบ”
“ในกองถ่ายสนิทกับพี่ปีเตอร์มากที่สุดค่ะ แต่ก็สนิทกับทุกคนด้วยนะคะ ตอนแรกหนูจะเงียบๆ เพราะว่าเขินเวลาเจอคนใหม่ๆ แต่พี่ปีเตอร์เราเข้าฉากกันบ่อยก็เลยคุ้นเคยกันมากขึ้น พี่ปีเตอร์เขาชอบทำอะไรตลกๆ ค่ะ เขาเป็นคนสบายๆ มากเลย อารมณ์ดี พี่เขาเคยเอากีตาร์มาเล่นในกองถ่ายด้วย”
รู้สึกดีกับครั้งแรก
“การแสดงมันก็ยากนะคะ มันเหนื่อย ไม่ง่ายเลย” เธอพูดด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ก่อนที่จะเน้นเสียงอย่างจริงจังว่า “ถึงยากแต่ก็ชอบนะคะ”
“เท่าที่เคยผ่านงานมา ชอบแสดงละครมากที่สุดค่ะ หนูก็ชอบโฆษณาพอๆ กับละครค่ะ แต่ละครเรารับได้หลายบทบาท ถ้าเล่นหลายๆ เรื่อง ได้บทพูดที่คนดูเขาจะจดจำเราได้ตามคาแรกเตอร์ ส่วนถ่ายนิตยสารคิดว่ามันยากมากเลยนะคะ ต้องรู้มุมกล้อง ต้องหันอย่างนู้นอย่างนี้ แต่พอถ่ายละคร เรารู้ว่ากล้องอยู่ตรงนี้ เราก็หันหน้าเข้ากล้อง”
“หนูชอบแอกติ้งอยู่แล้ว ตอนเข้าฉากกับพี่ชม (ชมพู่-อารยา) พี่แหม่ม (แหม่ม-จินตหรา) คนที่เก่งๆ จะรู้สึกเกร็งมากเลย พี่เขาก็ช่วยสอนค่ะ ถ้าไม่เข้าใจอะไร เขาจะช่วยอธิบายให้ฟังว่าตรงนั้นแปลว่าอย่างนี้นะ ส่วนเราก็พยายามทำให้ดีที่สุด
ความรู้สึกกับละครเรื่องแรกตอนนี้ รู้สึกดีกว่าที่คาดคิดไว้ค่ะ ตอนแรกคิดว่ายังแข็งๆ อยู่ ส่วนเรื่องภาษาก็ไม่คิดว่าจะมีใครฟังเรารู้เรื่อง เพราะว่าตอนนั้นยังพูดไม่ชัด ติดสำเนียงฝรั่ง จึงมีคนติมาบ้าง “น่าจะฝึกไปเรื่อยๆ” เดี๋ยวนี้ก็เริ่มพูดภาษาไทยกับเพื่อนค่ะ ที่โรงเรียนก็ไม่ค่อยให้พูดภาษาไทย แต่ต้องแอบพูดบ้าง เพราะต้องฝึก บางทีก็ฝึกที่บ้านกับคุณแม่ ปกติก็พูดภาษาไทยกับคุณแม่อยู่แล้ว”
แม้จะอยู่เมืองไทยมาตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งชีวิตเธอเรียนโรงเรียนอินเตอร์ฯ มาตลอด ทำให้ทักษะการใช้ภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง จึงต้องเทรนตัวเองด้วยการอ่านหนังสือทุกวัน
“ตอนเด็กๆ เรียนโรงเรียนอินเตอร์ฯ เลยไม่ได้เน้นภาษาไทย ยิ่งเราอยู่กับเพื่อนกลุ่มฝรั่งเลยไม่ได้สนใจภาษาไทยเลย จนได้โอกาสเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น จึงเห็นความสำคัญของภาษาไทย แต่เราก็ไม่ได้เรียนภาษาไทยแล้ว ก็เลยต้องกลับมาฝึก หนูพยายามอ่านหนังสือวันละ 2-3 หน้า อ่านออกเสียงให้ตัวเองฟัง”
เธอเคยผ่านทั้งงานถ่ายโฆษณา นิตยสาร และแสดงละครตามที่เคยใฝ่ฝันไว้ จึงอยากรู้ว่าเคยคิดอยากลองงานเดินแบบบ้างไหม เธอตอบกลับโดยไม่ปฏิเสธ ถ้าจะมีใครเทียบเชิญ “ก็อยากลองดูนะคะ แต่คิดว่าหนูคงสูงไม่พอ” ทำให้ทีมงานถึงทำร้อง โอ้โฮ! ตามๆ กัน เพื่อนหนูเขาสูง 175 ซม. แล้วนะคะ ตอนนี้หนูสูง 170 อยู่เลย จริงๆ อยากลองงานหลายๆ ด้าน แต่มันอาจยากสำหรับหนู เพราะเป็นคนชอบเดินหลังโก่ง แม่และเพื่อนๆ คอยเตือนประจำค่ะ หนูมีเพื่อนคนหนึ่งเขาก็หลังโก่งเหมือนกัน เราก็ช่วยเตือนกัน “เดินหลังตรงๆ นะ”
ฝันไกลไปฮอลลีวูด
งานในวงการบันเทิงเป็นสิ่งที่เธออยากทำมาตั้งแต่เด็ก...! เธอมักพูดอยู่บ่อยครั้งถึงการมีโอกาสที่ดีที่ได้เข้ามาในวงการบันเทิง จนกระทั่งผ่านมา 2 ปีแล้ว เธอรับงานต่างๆ มากขึ้น และหลงรักทุกงานที่เคยทำ โดยเฉพาะการแสดงละคร สังกัดนักแสดงช่อง 3 และถ้ามีโอกาสเธอคงอยากเก็บเกี่ยวประสบการณ์หลายๆ ด้านในวงการ เพื่อเป็นบันไดสู่ฝันไปฮอลลีวูดตามที่ตั้งใจไว้
“ตอนเด็กๆ เคยคิดไว้ว่าอยากไปฮอลลีวูด (หัวเราะ) แต่อย่าเพิ่งมาคิดตอนนี้เลยค่ะ อยากให้อยู่ระดับพี่ชมพู่กับพี่อั้ม เท่านี้ก่อนก็พอใจแล้วค่ะ อยากเป็นนักแสดงมืออาชีพที่ดี อยากฝึกพูดได้ชัดเจนมากกว่านี้ค่ะ ถ้าทำได้ดีก็จะมีงานแสดงเข้ามามากขึ้นด้วย
นักแสดงที่ดีอย่างแรกต้องรักการแสดงด้วย เราต้องตั้งใจในสิ่งที่เราทำ วางตัวดี เพราะเป็นไอดอลของคนอื่นเยอะแยะมากมาย ส่วนหนูก็มีไอดอลเหมือนกัน คือ พี่ชมพู่ และพี่ญาญ่า พี่เขาประสบความสำเร็จเยอะมากเลยค่ะ การแสดงก็ดี เป็นคนไนซ์เข้ากับใครก็ได้ อย่างพี่ชมพู่เขาไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านการแสดงอย่างเดียว เขาก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองด้วย ส่วนพี่ญาญ่าจากที่เขาพูดภาษาไทยไม่ค่อยได้ แล้วมาฝึกถึงจุดนี้ได้ต้องเก่งมาก หนูก็ต้องพยายามทำเหมือนเขา และพี่เขาก็วางตัวดีเลยเข้าใจว่าการวางตัวมันสำคัญ”
นี่เป็นความคิดของนักแสดงสาวน้อยวัย 15 ที่เพิ่งแตะบันไดปูพรมหรูเดินเข้ามาในวงการบันเทิงเพียงไม่กี่ก้าว “หนูเข้ามาในวงการตอนอายุ 13 มันอาจจะได้เปรียบกว่าคนที่เข้ามาตอนโตแล้ว ถ้าหนูโตแล้วเริ่มฝึกตอนนั้นมันคงไม่ทันแล้ว เลยคิดว่าฝึกไปเรื่อยๆ อย่างนี้ดีกว่า ตอนนี้เราเป็นเด็กก็ยังพอมีคนคอยบอกคอยสอนให้”
“ทำงานในวงการมันมีหลายด้านมาก ไม่ใช่แค่การแสดง เราต้องวางตัวดี และต้องทำให้ดีที่สุด เพราะมันมีคู่แข่งเยอะมากในวงการ ต้องเก่งจริงๆ และรักที่จะทำจริงๆ ถ้าเราไม่รักก็คงทำไม่ได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญเลย ถ้าไม่มีใจรัก คงต้องฝืนที่จะทำ มันคงไม่ดีเท่าไหร่นัก แต่เพราะหนูชอบจึงอยากทำค่ะ”
คนทักหน้าคล้ายนางเอกรุ่นพี่
เทรนด์นางเอกหน้าลูกครึ่งกำลังมาแรงติดลมบน และยังคงมีกระแสแฟนละครชื่นชอบไม่สร่างซา สังเกตนักแสดงหน้าใหม่ลงหลักปักฐานช่องไหนก็ตาม มีแต่ลูกครึ่งลูกเสี้ยวกลุยทางเรียกเรตติ้งตามกันมาเป็นแถว ไม่แคล้วที่หน้าตาจะออกมาซ้ำๆ คล้ายกันจนแทบเหมือนเมื่อมองเผินๆ ตามแบบฉบับสาวน้อยพิมพ์นิยมที่ถูกใจแฟนละคร ต่างช่วยกันปรบมือให้เธอโลดแล่นอยู่ในวงการ
ได้ยินแว่วๆ มาว่าช่องน้อยสีวางเธอเป็นว่าที่นางเอกใหม่ ไม่แคล้วที่ต้องเอ่ยคำถามนี้กับเธอ ก่อนที่จะตอบกลับมาว่า “ก็ได้ยินมาแบบนั้นนะคะ ก็อยากเป็นนางเอกอยู่เหมือนกัน อยากเป็นเหมือนพี่ญาญ่า” เธอปลายตาพร้อมส่งยิ้มหวาน มองไปมองมาคับคล้ายคับคลาเหมือนนางเอกซุป'ตาร์ที่เธอเพิ่งพูดถึง ซึ่งใครๆ ต่างพากันบอกว่าเธอหน้าคล้ายวิกกี้ และในบางมุมก็คล้ายญาญ่า
“มีคนพูดอย่างนี้เยอะมากค่ะ ทุกวันเลยต้องมีสักคนหนึ่ง (หัวเราะ) พี่ญาญ่ากับพี่วิกกี้ก็สวยเก่ง ก็ดีใจที่หนูได้ส่วนดีๆ ที่ทุกคนมองคล้ายพี่เขา แต่หนูก็ไม่ได้เหมือนพี่เขามากนะคะ อาจจะเหมือนกันในบางมุม แต่ถ้าให้เลือกระหว่างสองคนนี้คิดว่าเหมือนพี่วิกกี้มากกว่า ส่วนบุคลิกคงไม่มีเหมือนใครเลยค่ะ หนูเป็นตัวของตัวเอง”
คุณพ่อเป็นคนอังกฤษ ส่วนคุณแม่เป็นคนไทย นอกจากการเป็นลูกครึ่งที่มีส่วนทำให้หน้าคล้ายๆ นักแสดงรุ่นพี่ทั้งสองแล้ว ในอีกไม่ช้าเธอคงได้ขึ้นแท่นนางเอกลูกครึ่งตามรอยพี่ๆ ในวงการนักแสดงเช่นกัน เพราะทางช่องคงเตรียมวางหมากให้เธอลงแสดงเรื่องหน้าเร็วๆ นี้แล้ว
“แม่” ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ
ช่างเป็นครอบครัวที่อบอุ่นเวลาฟังเธอพูดถึงทุกคนอย่างมีความสุข สมาชิก 4คนในบ้าน คุณพ่อ คุณแม่ แพท และน้องชาย ที่เธอมักพูดถึงความแสบให้ฟังอยู่เป็นระยะๆ และในฐานะคุณแม่ที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน จึงเป็นที่ปรึกษาทุกเรื่องและมีคุณแม่คนนี้นี่แหละที่คอยจัดการทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ตั้งแต่เรื่องเรียน เรื่องส่วนตัว จนถึงเรื่องงานในวงการ
ไม่ว่าจะขึ้นเขา...ลงห้วย มักจะมีคุณแม่คอยติดสอยห้อยตามเธอไปด้วยทุกที่ แม้ว่าจะไปถ่ายละครที่ต้องพักค้างอ้างแรมต่างจังหวัดหรือที่ไหนก็ตาม คุณแม่ก็ตามไปก็เพราะทั้งหวงทั้งห่วงลูกสาวคนนี้เอามากๆ นั่นเอง
“ในบ้านจะสนิทกับคุณแม่ เพราะอยู่กับแม่มากที่สุดแล้วค่ะ ถ้าหนูไปไหนคุณแม่ก็จะไปกับหนูตลอดเลย ส่วนคุณพ่อก็ต้องทำงาน เวลาไปงานกองถ่าย คุณแม่ก็ไปด้วยกัน
คุณแม่สนับสนุนให้ทำในสิ่งที่ชอบ แต่ก็ให้เน้นเรื่องเรียนมากกว่า ยิ่งช่วงนี้มีสอบ IG (IGCSE เป็นการสอบที่เทียบเท่ากับการสอบระดับชั้น ม.6 ในประเทศไทย ตามหลักสูตรของ UK) ซึ่งมันสำคัญมากๆ เลยค่ะ จึงไม่ทิ้งการเรียนแน่นอน แต่ถ้ามีเวลาก็แบ่งมาทำงานที่ชอบด้วย เพราะเป็นอะไรที่อยากทำตอนว่าง”
“เวลาอ่านบทละคร คุณแม่จะอ่านกับหนูตลอด เพราะว่าบางคำเราอาจยังพูดออกสำเนียงแปลกๆ คุณแม่ก็จะคอยรับส่งบทละคร คุณแม่เขาชอบทำเสียงเป็นตัวละครตัวนั้นด้วย อย่างมีบทที่ต้องตบตีกัน คุณแม่ก็ทำเสียงสูงเหมือนตบกันจริงๆ สนุกมากเลย หนูว่าคุณแม่อินกับหนูอีกนะ (หัวเราะ) คุณแม่ก็ช่วยหนูเยอะมากเลยค่ะ”
เมื่อพูดถึงคุณพ่อและคุณแม่แล้ว เธอจึงไม่ลืมเล่าถึงน้องชายสุดรักคนเดียวที่มีวีรกรรมแสนแสบซน จนเธอต้องยอมแพ้
“มีน้องชายคนหนึ่งค่ะ ห่างกัน 5 ปี แต่ก็สนิทกันนะคะ เขาชอบมาแกล้งหนูค่ะ แกล้งกันตลอด เราชอบทะเลาะกัน แต่สุดท้ายก็คืนดีกันอยู่ดี ถ้าเราอยากดูทีวีเขาก็จะไม่ให้ดู ของเล่นของเขาก็ไม่ให้เล่น อย่างสเก็ตบอร์ด เขาจะหวงมากเลย เขาเป็นเด็กซนมาก น้องหนูขาลายหมดเลย บางทีเขาก็ชอบมาหาเรื่องโดยที่เรายังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วเอาไปฟ้องพ่อแม่ตลอด เขาเป็นคนเข้ากับใครก็ได้ แต่หนูต้องดูคนก่อนที่จะสนิทกับใคร”
เจ้าหญิง 2 นาที
เธอย้อนวัยแห่งความฝันสมัยเด็กอีกครั้ง ในโลกที่เธอคุ้นเคยกับการแสดงละครเวทีของโรงเรียน จึงไม่ต้องสาธยายให้มากความเลยว่าเธอเริ่มรักการแสดงตั้งแต่เมื่อใด บอกได้เลยว่าก่อนเธอ 7 ขวบด้วยซ้ำ
“ตอนเด็กอยู่จังหวัดภูเก็ต หนูก็แสดงละครเวทีของโรงเรียนมาตลอด เลยชอบด้านการแสดง เมื่อวานก็เพิ่งไปแสดงละครเวทีมา เป็นบทเล็กๆ ค่ะ เป็นบทเจ้าหญิง แต่ออกมาไม่เกิน 2 นาทีก็ตาย ปีนี้หนูไม่อยากเอาบทพูดมากค่ะ เพราะต้องใช้ภาษาพูดที่เก่ามาก ยากมาก ไม่อยากจำเลย จึงอยากได้บทที่ไม่ต้องพูดมากกว่า
แต่มีช่วงหนึ่งพอโตขึ้นประมาณ 6-7 ขวบก็เคยเปลี่ยนอยากเป็นสัตวแพทย์ ตอนนั้นรักสัตว์มากเลยค่ะ อยากเลี้ยง อยากดูแล แต่พอโตขึ้นเริ่มขี้เกียจ แต่ก็ยังรักสัตว์อยู่ ตอนนี้ที่บ้านมีหมา 2 ตัว รักมากเลยค่ะ เป็นพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ กับพันธุ์ผสม และก็มีกระต่าย 2 ตัว แต่มันดุมากเลยค่ะ ไม่ชอบให้ใครจับ อาจเป็นเพราะว่าตอนมันเล็ก เราไม่ได้ดูแลมันมาก มันเลยไม่ชินกับเรา จึงเป็นหน้าที่ของคุณแม่ที่เขาจะดูแลมากกว่า”
วัยเด็กจึงมาคู่กับวัยเรียนและเหล่าเพื่อนฝูง ทำให้เธอนึกถึงกลุ่มเพื่อนสนิท ก่อนจะเล่าให้ฟังด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุขว่า “ปกติจะเป็นคนเงียบ แต่พอมีเพื่อนสนิทจริงๆ ประมาณ 5 คน หนูจะไม่เงียบเลยค่ะ ถ้าอยู่ในกลุ่ม เรามีชื่อกลุ่มว่า...!? (หัวเราะ) มันเป็นชื่อตลกๆ มากค่ะ” พร้อมหันไปมองคุณแม่ที่นั่งอยู่ใกล้ๆ คุณแม่จะได้รู้ก็วันนี้เอง “วิ้งค์คลับ มันเป็นการ์ตูนชื่อ วิ้งค์ ตอนเด็กๆ ทุกคนในกลุ่มเคยดู เราชอบคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน ก็เลยตั้งชื่อว่าวิ้งค์คลับ และเราก็สมมติว่าเราเป็นตัวนี้ตัวนั้น ขำๆ ค่ะ”
“เพื่อนๆ เขาจะคอยช่วยเรื่องเรียน เพราะเมื่อก่อนต้องขาดเรียนบ้างเวลามีงาน เขาก็จะช่วยตามงานให้ เพื่อนๆ ก็ดีใจกับเราด้วย จากที่ไม่เคยดูละครกลายเป็นมาดูเรื่องนี้เรื่องแรก ก็ดีใจค่ะ เขาบอกว่าดีๆๆ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เขาอาจไม่ชอบก็ได้ แต่อาจจะไม่กล้าพูดมากกว่า (หัวเราะ)”
นอกจากเธอจะชอบเล่นละครเวทีของโรงเรียนแล้ว กิจกรรมอย่างอื่น เธอก็เข้าร่วมกับเพื่อนๆ ด้วยเช่นกัน “จะมีแบ่งกลุ่มเป็นบ้าน 6 บ้าน แต่ละบ้านจะมีการแข่งขันกันด้านกีฬา ด้านศิลปะ ร้องเพลง ใครมีความสามารถก็เข้าไปแข่งขันเป็นตัวแทนของบ้าน อยู่โรงเรียนเคยเล่นกีฬาวอลเลย์บอล แต่ปีหน้าจะพยายามเข้าทีมเล่นกีฬากับเพื่อนสัก 2 ทีม อย่างซอฟต์บอล เพราะชอบเล่นเป็นกลุ่ม ไม่ค่อยชอบกีฬาเดี่ยวค่ะ ตอนสมัยเด็กว่ายน้ำบ่อยมาก เป็นกีฬาที่ชอบมาก แต่ไม่ได้ว่ายจริงจังแบบจับเวลา ว่ายไปเรื่อยๆ มากกว่า”
มุมรักมุมลับ
พอยิงคำถามเรื่องหนุ่มๆ เธอถึงกลับนิ่งไปนาน ไม่แน่ใจว่ากำลังคิดถึงคนในใจอยู่รึเปล่า หรือว่าไม่ชัดเจนกลับปฏิกิริยาที่หนุ่มให้ขนมจีบเธอกันแน่ เอ๊ะ! หรือเธอจะเด็กเกินไปกับคำถาม ทำให้ทีมงานต้องย้อนถามตัวเองอีกครั้ง แต่ด้วยความน่ารักเป็นเหตุ ในวัยนี้คงไม่พลาดที่หนุ่มๆ ต้องแวะเวียนมาส่งขนมจีบให้บ้างล่ะ ซึ่งหนุ่มคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม บอกก่อนเลยว่าสเปกเธอต้องเรียบร้อยเท่านั้น
“ยังไม่มีใครมาจีบนะ อาจเป็นเพราะหนูไม่กล้าถาม หรือดูไม่ออก เขาก็คุยกับทุกคนปกติหมดเลย เราก็เลยดูไม่ออก มันอาจจะเป็นที่นิสัยเขาก็ได้ ส่วนเรื่องสเปก อืม!...หนูชอบคนเรียบร้อย ชอบคนเงียบๆ เพราะเราเป็นคนพูดเยอะอยู่แล้วค่ะ เพราะถ้าหนูสนิทกับใครจะพูดไม่หยุดเลย คุยทุกเรื่องเลยค่ะ เรื่องไร้สาระก็ยังกล้าคุย (หัวเราะ)”
จากเรื่องหนุ่มๆ มาเรื่องส่วนตั้วส่วนตัวกับการใช้ชีวิตประจำวันของเธอกันบ้าง ซึ่งจะมีใครสักกี่คนรู้ว่าแพทสาวลูกครึ่งอังกฤษแห่งเมืองผู้ดีคนนี้จะเคยติดซีรีส์เกาหลีขนาดหนัก จนไม่เป็นอันทำอะไรเลย
“ยามว่างจะทำการบ้าน ว่ายน้ำกับน้อง ไปฟิตเนสกับพ่อ หรือไม่ก็จะนั่งดูซีรีส์ ทางช่องรายการ สตาร์เวิลด์ เขามีซีรีส์เยอะมากค่ะ ดูแล้วสนุก ไม่เครียด ส่วนซีรีส์เกาหลีมีอยู่เรื่องหนึ่งที่เคยดูแล้วติดมากเลยคือเรื่อง “My Girl” หนูกับคุณแม่ติดมาก ดูกันทั้งวัน ไม่ยอมทำอะไรเลย หลังจากนั้นก็ไม่ดูเลยค่ะ กลัวติด เสียเวลาดูซีรีส์นี้มาก ดูแล้วดูอีก ไปซื้อซีดีมาดูที่บ้านอีกหลายรอบ ไม่ยอมทำการบ้านเลย ตอนนี้ต้องเอาซีดีไปแอบไว้จะได้ไม่ต้องดูอีกแล้ว เพราะถ้าดูอีกต้องติดแน่ๆ ค่ะ จึงเปลี่ยนมาดูซีรีส์ฝรั่งแทน”
“อาหารโปรด ชอบอะไรที่ต้องมีแป้ง เป็นคนชอบกินแป้งมากเลย ขนมปัง พิซซ่า สปาเกตตี้ แต่ถ้าเป็นอะไรง่ายๆ ก็คงเป็นกะเพราไข่ดาวค่ะ อร่อยมากเลยค่ะ”
“สถานที่ที่ชอบไป คือต่างจังหวัด ต้องเป็นที่เงียบๆ อากาศสดชื่น ไม่ค่อยมีรถ ไม่มีตึกสูงๆ ชอบธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศก็ดีกว่าอยู่ในเมือง เพราะหนูเป็นภูมิแพ้ด้วย ก็จะไม่ค่อยสบายง่าย แต่ตอนหนูไปอยู่อังกฤษช่วงซัมเมอร์ ที่นั่นโอเคเลย หนูจะไม่หอบ ไม่เป็นอะไรเลย อากาศที่นั่นมันสะอาดมากเลยค่ะ (เน้นเสียง) ครอบครัวไปกันทุกปี ไปหาคุณปู่ คุณย่า เยี่ยมญาติๆ ประมาณเดือนนึงเลยค่ะ ก่อนไปอังกฤษก็จะไปเที่ยวประเทศอื่นๆ ก่อน อย่างปีที่แล้ว ไปฮอลแลนด์กับสก๊อตแลนด์ ปีก่อนหน้านั้นไปฝรั่งเศสกับอิตาลี ปีนี้จะไปกรีซก่อนและไปอังกฤษต่อ พอไปถึงอังกฤษจะไปดูละครเวที ไปดูทุกครั้งที่ไปเลย ชอบมากค่ะ”
สุดท้ายนี้เธอฝากขอบคุณทุกคนที่ติดตามละครเรื่องแรก “หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ” ซึ่งจบอย่างมีความสุขเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา และถ้าเธอมีผลงานต่อไป จึงอยากให้ทุกคนช่วยติดตามชม คอยส่งกำลังใจ เธอสัญญาว่าจะพยายามทำให้ดีกว่าเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ชื่อ-นามสกุล : แพทริเซีย ธัญชนก กู๊ด ชื่อเล่นว่า “แพท”
วัน/เดือน/ปีเกิด : 18 สิงหาคม พ.ศ.2540 (อายุ 15ปี)
ส่วนสูง-น้ำหนัก : 170 ซม./45 กก.
การศึกษา : ระดับชั้นมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่ (Shrewsbury International School)
ผลงานที่ผ่านมา : โฆษณา-เครื่องสำอาง Cute Press ชุด Color Fantasy Limited Edition, แบรนด์วีต้า นิตยสาร-เซเว่นทีน, แคมปัส ล่าสุดละครโทรทัศน์-หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ รับบทเป็น น้อยหน่า
ขอบคุณภาพประกอบจาก facebook “น้อยหน่า หนุ่มบ้านไร่กับหวานใจไฮโซ”