xs
xsm
sm
md
lg

ญี่ปุ่นบนความท้าทาย: พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพ Min pao
ในปี 2018 เป็นต้นไป ญี่ปุ่นจะเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้นทั้งจากสภาพสังคม, เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์กับโลก ดินแดนอาทิตย์อุทัยที่เต็มไปด้วยผู้สูงอายุ ขาดแคลนแรงงาน ธุรกิจต่างๆ ทยอยพ่ายแพ้ในสมรภูมิการค้า จะคืนความสุขให้ประชาชน และคืนความรุ่งโรจน์ให้ประเทศได้อย่างไร

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นชอบแผนงบประมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์สำหรับปีงบประมาณใหม่ซึ่งจะเริ่มต้นในเดือนเมษายนปีหน้า โดยจัดสรรงบประมาณด้านการป้องกันประเทศราว 1.5 ล้านล้านบาทซึ่งเป็นยอดสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และอิทธิพลของจีนที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

คณะรัฐมนตรียังได้เห็นชอบงบประมาณเสริมเพื่อการเตรียมความพร้อมรับมือกรณีที่เกาหลีเหนืออาจยิงขีปนาวุธ นอกจากนี้กระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นยังจะของบประมาณเพื่อติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลบนเครื่องบินขับไล่ เพื่อโจมตีเรือของข้าศึกด้วย

กระทรวงการป้องกันประเทศของญี่ปุ่นกำลังพิจารณา Joint Strike Missile ซึ่งผลิตโดยนอร์เวย์และมีพิสัยการยิงมากกว่า 300 กิโลเมตร และ JASSM-ER ซึ่งผลิตโดยสหรัฐและมีพิสัยการยิงมากกว่า 900 กิโลเมตร ขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลจะทำให้ญี่ปุ่นสามารถเล็งเป้าฐานทัพของเกาหลีเหนือจากน่านฟ้าของญี่ปุ่นได้

แผนของกระทรวงป้องกันประเทศนี้มีความสุ่มเสี่ยงที่จะขัดต่อจุดยืนที่อ้างอิงรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นที่ว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะต้องไม่มีความสามารถในการโจมตีฐานทัพของข้าศึก

ความเคลื่อนไหวด้านยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือ การขยายขีดความสามารถของฐานทัพอิวะกุนิ ในจังหวัดยะมะงุชิ ให้เป็นฐานทัพอากาศสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออก

สถานีโทรทัศน์ NHKรายงานว่า กองกำลังสหรัฐที่ประจำการในญี่ปุ่นจะย้ายที่ตั้งของหน่วยอากาศยานบนเรือบรรทุกเครื่องบินจากฐานที่จังหวัดคะนะงะวะใกล้กรุงโตเกียว ไปยังฐานทัพฐานทัพอิวะกุนิ ในจังหวัดยะมะกุชิทางตะวันตกของญี่ปุ่น

หน่วยอากาศยานที่ปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน ซึ่งมีเครื่องบินขับไล่ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต FA-18 เป็นอากาศยานหลักและปฏิบัติการคู่กับเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกนประจำการอยู่ที่ฐานทัพอากาศอะสึงิของกองทัพเรือสหรัฐในจังหวัดคะนะงะวะ อากาศยานหน่วยนี้กำลังค่อย ๆ ถูกโยกย้ายไปยังฐานทัพอากาศอิวะกุนิในจังหวัดยะมะงุชิ การโยกย้ายกำลังพลของสหรัฐในญี่ปุ่นเกิดขึ้นท่ามกลางสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงในเอเชียที่ตึงเครียดมากขึ้นจากการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ เพราะการขยายขีดความสามารถของฐานทัพในอิวะกุนิทางตะวันตกของญี่ปุ่นซึ่งอยู่ใกล้คาบสมุทรเกาหลี จะเป็นการช่วยป้องปรามเกาหลีเหนือ

สหรัฐมีแผนย้ายอากาศยานทั้งสิ้น 61 ลำ ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ซูเปอร์ ฮอร์เน็ต FA-18 ไปยังอิวะกุนิภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า ซึ่งจะทำให้อากาศยานที่ประจำการในอิวะกุนิเพิ่มขึ้นราว 2 เท่า จากในปัจจุบันที่มีอยู่ 60 ลำ เป็น 120 ลำ การโยกย้ายอากาศยานนี้ยังจะเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ประจำการในอิวะกุนิ ทั้งทหารสหรัฐ เจ้าหน้าที่พลเรือน และครอบครัวจากปัจจุบันที่ 6,400 คน เป็น 10,200 คน นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมายังประจำการเครื่องบินขับไล่ล้ำสมัย F-35ทำให้อิวะกุนิเป็นฐานทัพอากาศสหรัฐที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออก สามารถเทียบเคียงได้กับฐานทัพอากาศคะเดะนะของสหรัฐในจังหวัดโอกินาวา

แน่นอนว่า รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนการเพิ่มกำลังยุทธ์ของสหรัฐในญี่ปุ่น โดยยกข้ออ้างที่เกาหลีเหนือทดลองยิงขีปนาวุธข้ามพรมแดนของญี่ปุ่นหลายต่อหลายครั้ง ขณะที่ทางด้านใต้ เรือของจีนก็เข้ามาใกล้น่านน้ำของญี่ปุ่นอยู่เป็นประจำ

แต่ประชาชนบางส่วนกังวลว่า การเสริมกำลังเช่นนี้อาจยิ่งเป็นการ “ล่อเป้า” ให้ฝ่ายเกาหลียิ่งขึ้น ยังไม่รวมอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับฐานทัพสหรัฐและปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียง ซึ่งทำให้ชาวโอกินาวาประท้วงฐานทัพสหรัฐมาตลอด

สัมพันธภาพจีนคือคำตอบ ?

รัฐบาลญี่ปุ่นตระหนักดีว่า จีนมีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการต่อรองกับเกาหลีเหนือ จึงพยายามจะปรับสัมพันธ์กับแดนมังกรมาตลอด ทั้งการส่งนายโทะชิฮิโระ นิไก เลขาธิการพรรคเสรีประชาธิปไตย พรรครัฐบาลญี่ปุ่น ไปเยือนกรุงปักกิ่ง พร้อมเชิญให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนมาเยือนญี่ปุ่นในปีนี้

นายนิไกกล่าวว่า ทั้งญี่ปุ่นและจีนต่างประสบภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือเหมือนกัน เขากล่าวว่าชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าจีนจะห้ามปรามเกาหลีเหนือไม่ให้เดินหน้าพัฒนาขีปนาวุธและนิวเคลียร์

อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือที่อยู่ใต้อำนาจของผู้นำหนุ่มอย่าง คิมจองอึน อาจไม่ได้เป็น “ลูกไล่” จีนอีกต่อไป เพราะถึงแม้จีนจะรับรองมติคว่ำบาตรเกาหลีเหนือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และตัดลดปริมาณการค้ากับเกาหลีเหนืออย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ก็ไม่ทำให้รัฐบาลโสมแดงยี่หระแต่อย่างใด ซ้ำประชาชนชาวเกาหลีเหนือยังเป็นผู้รับกระทบที่ยากลำบาก

ในอดีตญี่ปุ่นเคยข้ามน้ำข้ามทะเลแผ่อิทธิพลไปทั่วเอเชีย แต่วันนี้ซึ่งพญามังกรอย่างจีนได้สร้างบารมีเหนือญี่ปุ่นอย่างชัดเจน ขณะที่เกาหลีซึ่งเชื่อว่าเป็นลูกหลานพยัคฆ์ก็กำเริบเสิบสานขึ้น อาจถึงเวลาที่ญี่ปุ่นต้องครุ่นคิดว่าจะยืนหยัดด้วยตัวเอง หรืออยู่ใต้ปีกพญาอินทรีตลอดไป.


กำลังโหลดความคิดเห็น