xs
xsm
sm
md
lg

จีนย้ำกระชับสัมพันธ์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้คำมั่นส่งเสริมการพัฒนา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี - หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนได้เน้นย้ำถึงความพยายามของประเทศที่จะกระชับความสัมพันธ์กับชาติต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในการประชุมกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนวันนี้ (4) ที่เกิดขึ้นในขณะที่ปักกิ่งพยายามขยายอิทธิพลในภูมิภาค

การเจรจาหารือของหวัง กับนักการทูตระดับสูงจากสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จัดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นในภูมิภาค หลังแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้ปักกิ่ง

กลุ่มออกแถลงการณ์หนักแน่นในช่วงเช้าวันนี้ (4) เรียกร้องให้ทั้งสหรัฐฯ และจีนใช้ ‘ความอดกลั้นสูงสุด’ จากเหตุการณ์การเยือนดังกล่าวและละเว้นจากการกระทำที่เป็นการยั่วยุ

จีนอ้างว่าเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเองนั้น เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนและคัดค้านการมีส่วนร่วมใดๆ ระหว่างเจ้าหน้าที่ไต้หวันกับรัฐบาลต่างประเทศ

ในการกล่าวเปิดการประชุม หวังไม่ได้กล่าวถึงสถานการณ์ดังกล่าว แต่เน้นย้ำว่าจีนและประเทศในกลุ่มอาเซียนได้เสริมสร้างความร่วมมือร่วมกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้

“เราปกป้องโอเอซิสแห่งสันติภาพเมื่อเผชิญกับความวุ่นวายในสถานการณ์ความมั่นคงระหว่างประเทศ” หวัง อี้ กล่าว

อาเซียนประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

จีนได้กลายเป็นหนึ่งในผู้ให้สินเชื่อรายใหญ่ที่สุดกับประเทศกำลังพัฒนา ผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางเพื่อขยายการค้าด้วยการสร้างท่าเรือ ทางรถไฟ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ทั่วเอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง และยุโรป แต่สิ่งนี้ก่อให้เกิดการกล่าวหาว่าปักกิ่งกำลังใช้หนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจทางการเมือง แต่เจ้าหน้าที่จีนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

ในการประชุมที่กรุงพนมเปญ หวัง อี้ ได้ให้คำมั่นว่าจีนจะยังพยายามส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูง สร้างรูปแบบการพัฒนาใหม่ สร้างแรงผลักดันสำหรับการฟื้นตัวและการพัฒนาทางเศรษฐกิจของภูมิภาคและของโลก และมอบโอกาสในการพัฒนาให้มากยิ่งขึ้นสำหรับประเทศในอาเซียน




ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมอาเซียนในปีนี้ และเป็นหนึ่งในประเทศที่สนับสนุนจีนมากที่สุดของกลุ่ม ได้พบหารือเป็นรายบุคคลกับหวัง อี้ ในวันนี้ (4)

สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานว่าในระหว่างการพบหารือกับฮุนเซน หวัง อี้ ได้ย้ำว่า ‘จีนประสงค์ที่จะทำงานกับกัมพูชาเพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ในการพัฒนาของพวกเขา’

แม้รายงานจะไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม แต่ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา จีนและกัมพูชาได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการขยายท่าเรือ ที่สร้างความวิตกกังวลให้สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ว่าโครงการดังกล่าวอาจทำให้ปักกิ่งมีฐานทหารที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในอ่าวไทย

ในปี 2562 มีรายงานว่า ฮุนเซนให้สิทธิจีนตั้งฐานทัพทหารที่ฐานทัพเรือเรียม แต่ฮุนเซนปฏิเสธคำกล่าวอ้างนั้นมาโดยตลอด โดยระบุว่ารัฐธรรมนูญของกัมพูชาห้ามมิให้ต่างชาติตั้งฐานทัพในประเทศ

ในเดือน พ.ย. สหรัฐฯ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงของกัมพูชา 2 นาย จากข้อกล่าวหาว่ารับสิบบนที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาทุนเพื่อการก่อสร้างที่ฐานทัพเรือเรียม แต่จีนกล่าวหาวอชิงตันว่าใส่ร้ายป้ายสี

ในการประชุมหารือกับหวัง สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ฮุนเซนกล่าวว่ามิตรภาพที่แข็งแกร่งได้พัฒนาขึ้นซึ่งเป็นผลจากการก่อสร้างร่วมกันของโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่นำประโยชน์มหาศาลมาสู่ประชาชนของพวกเขา






ด้านสหรัฐฯ ยังผลักดันที่จะเพิ่มการปรากฏตัวและการมีส่วนร่วมในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้กล่าวก่อนการประชุมกับรัฐมนตรีอาเซียนว่า วอชิงตันหวังที่จะเพิ่มความร่วมมือกับกลุ่มทั่วทั้งภูมิภาค

ในการประชุมแยกต่างหากระหว่างรัฐมนตรีอาเซียนกับ หวัง อี้ ปาร์ก จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ และฮายาชิ โยชิมาสะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น โยชิมาสะเน้นย้ำว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียส่งผลกระทบไปไกลเกินกว่ายุโรป ที่เขากล่าวว่ากระทั่งทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ยากขึ้นจากการระบาดของโควิด-19

“การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้เกิดความท้าทายมากมาย รวมถึงราคาพลังงาน อาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ พุ่งสูงขึ้น ตลอดจนการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน ผมคิดว่าตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องจัดการกับความท้าทายเหล่านี้ด้วยการประสานความร่วมมือกัน และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการรักษาและเสริมสร้างระเบียบระหว่างประเทศที่เสรีและเปิดกว้างบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม” โยชิมาสะ กล่าว

เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย ได้จัดการประชุมแยกต่างหากอีกนัดหนึ่งกับกลุ่มอาเซียนในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม ในการพบหารือแบบตัวต่อตัวกับโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ฮุนเซนกล่าวว่าเขาได้เรียกร้องให้มีการทบทวนมาตรการคว่ำบาตรกับรัสเซียเพราะมาตรการเหล่านั้นส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงต่อประเทศอื่นๆ ทั่วโลก และผู้นำเขมรยังระบุในโพสต์เฟซบุ๊กว่าเขาได้พบหารือกับลาฟรอฟและพวกเขาได้พูดคุยเกี่ยวกับสงครามในยูเครน แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม.




กำลังโหลดความคิดเห็น