รอยเตอร์ - กลุ่มนักเคลื่อนไหวเผยว่า กองกำลังความมั่นคงพม่าได้สังหารประชาชนไปแล้วมากกว่า 800 คน นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงปะทุขึ้นทั่วประเทศหลังทหารยึดอำนาจในการรัฐประหารในเดือน ก.พ.
พม่าตกอยู่ในความวุ่นวายนับตั้งแต่กองทัพขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอองซานซูจี ควบคุมตัวเธอและเจ้าหน้าที่ของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย
กองทัพได้ตอบสนองต่อการชุมนุมประท้วงของผู้สนับสนุนเรียกร้องประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นตามเมืองต่างๆ ของประเทศ ด้วยความรุนแรงที่เป็นอันตรายถึงชีวิต ขณะเดียวกัน ในพื้นที่ชายแดนของประเทศก็เกิดการสู้รบระหว่างกองทัพและกลุ่มกบฏติดอาวุธชาติพันธุ์ รวมถึงการเกิดขึ้นของกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นกลุ่มใหม่ๆ
นับจนถึงวันจันทร์ (17) มีประชาชน 802 คน ถูกสังหารจากการปราบปรามของรัฐบาลทหาร ตามการระบุของสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง
“นี่คือตัวเลขที่ตรวจสอบโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง แต่ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงมีแนวโน้มว่าจะสูงมากกว่านี้” กลุ่มระบุในการบรรยายสรุปรายวัน
แต่อย่างไรก็ตาม รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องของผู้เสียชีวิตได้อย่างอิสระ และโฆษกรัฐบาลทหารไม่ได้ตอบรับสายโทรศัพท์ที่รอยเตอร์ติดต่อเพื่อขอความคิดเห็น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารได้โต้แย้งตัวเลขพลเรือนที่เสียชีวิต และกล่าวว่า มีสมาชิกของกองกำลังความมั่นคงหลายสิบคนถูกสังหารระหว่างการชุมนุมประท้วงด้วยเช่นกัน
กลุ่มนักเคลื่อนไหวกล่าวว่า มีประชาชน 4,120 คน ถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ รวมทั้ง 20 คน ที่ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต
การต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาที่เมืองมินดัท อยู่ห่างจากชายแดนอินเดีย ราว 100 กิโลเมตร ในรัฐชิน โดยเป็นการต่อสู้ระหว่างกองทัพและกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่น
ผู้อยู่อาศัยหลายพันคนในเมืองบนเนินเขาทางตะวันตกเฉียงเหนือของพม่าแห่งนี้กำลังซ่อนตัวอยู่ในป่า หมู่บ้าน และหุบเขา หลังหลบหนีการโจมตีของทหาร
ทางการได้ประกาศกฎอัยการศึกในเมืองมินดัทเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนทหารเปิดฉากโจมตีด้วยปืนใหญ่และเฮลิคอปเตอร์ใส่กองกำลังป้องกันชินแลนด์ที่ตั้งขึ้นมาใหม่ กองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นที่อาวุธส่วนใหญ่คือปืนล่าสัตว์กล่าวว่า พวกเขาได้ล่าถอยออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตพลเรือนไม่ให้ติดอยู่ตรงกลางระหว่างการสู้กันของ 2 ฝ่าย
ผู้อยู่อาศัยหลายคนที่รอยเตอร์ติดต่อระบุว่าอาหารเริ่มขาดแคลน และคาดการณ์ว่ามีคนมากถึง 5,000-8,000 คน หลบหนีออกจากเมือง มีการปิดถนนและกองกำลังทหารปรากฏตัวอยู่ตามถนนสายต่างๆ เพื่อขัดขวางไม่ให้พวกเขากลับเข้าไปในเมือง
“เกือบทุกคนออกจากเมือง ส่วนใหญ่กำลังซ่อนตัวอยู่” นักสู้อาสาสมัครรายหนึ่ง กล่าว
ด้านสหรัฐฯ และอังกฤษ ได้เรียกร้องให้กองทัพหลีกเลี่ยงการทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตาย และรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ที่ตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ภักดีต่อซูจีได้เรียกร้องความช่วยเหลือจากนานาชาติ
นักการทูตระบุว่า การลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติในวันอังคาร (18) ต่อร่างมติเรียกร้องให้มีการระงับการจัดหา การขาย หรือการถ่ายโอนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อพม่า ถูกเลื่อนออกไป และยังไม่ทราบว่าการลงคะแนนจะกลับมาดำเนินอีกครั้งเมื่อใด
ร่างมติยังเรียกร้องให้ทหารพม่ายุติการใช้สถานการณ์ฉุกเฉิน ยุติความรุนแรงทุกรูปแบบกับผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสันติและเคารพเจตจำนงของประชาชนที่ได้แสดงอยู่ในผลการเลือกตั้งเดือน พ.ย.