เอเอฟพี - ผู้ชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารหลายหมื่นคนรวมตัวเดินขบวนประท้วงกันอีกครั้งในวันนี้ (22) แม้จะมีคำขู่อย่างชัดเจนจากรัฐบาลทหารว่าเตรียมที่จะใช้กำลังรุนแรงบดขยี้สิ่งที่รัฐบาลทหารระบุว่าเป็น “อนาธิปไตย”
คำเตือนดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผู้ชุมนุมประท้วง 3 คน ถูกยิงในช่วงสุดสัปดาห์ และการจัดงานศพในวันอาทิตย์ (21) สำหรับหญิงสาวที่เสียชีวิตจากกระสุนในที่ชุมนุมก่อนหน้านี้
การชุมนุมประท้วงบนท้องถนนขนาดใหญ่เกิดขึ้นนับตั้งแต่กองทัพก่อรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. และควบคุมตัวอองซานซูจี ผู้นำพลเรือน ยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตยนาน 10 ปี
การรณรงค์อารยะขัดขืนได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของรัฐบาลหลายอย่าง รวมทั้งธุรกิจและธนาคาร และในคืนวันอาทิตย์ (21) รัฐบาลทหารได้ส่งสัญญาณที่เป็นลางร้ายว่าความอดทนของพวกเขาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว
“ในตอนนี้ผู้ชุมนุมประท้วงกำลังปลุกระดมประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชนและวัยรุ่นที่ชอบใช้อารมณ์ตัดสิน ซึ่งนำไปสู่เส้นทางการเผชิญหน้าที่พวกเขาจะประสบกับการสูญเสียชีวิต” คำแถลงที่เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ MRTV ระบุวานนี้ (21)
คำแถลงยังเตือนผู้ชุมนุมประท้วงให้เลี่ยงการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการจลาจลและอนาธิปไตย
อย่างไรก็ตาม คำเตือนของรัฐบาลทหารไม่สามารถขัดขวางผู้ชุมนุมได้ ประชาชนหลายพันคนรวมตัวในนครย่างกุ้งวันนี้
“เราออกมาวันนี้เพื่อร่วมประท้วง เพื่อต่อสู้จนกว่าเราจะชนะ เรากังวลเรื่องการปราบปราม แต่เราจะเดินหน้าต่อไป” จ่อ จ่อ นักศึกษาอายุ 23 ปี กล่าว
ทางการเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นในย่างกุ้ง มีรถบรรทุกทหารและตำรวจปรากฏบนท้องถนน และติดตั้งแผงกั้นในย่านสถานทูต
ผู้ชุมนุมประท้วงอีกคนหนึ่งแสดงท่าทีต่อต้านเช่นเดียวกัน
“ทหารเข้ายึดอำนาจจากการรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง เราจะสู้จนกว่าเราจะได้รับเสรีภาพ ประชาธิปไตย และความยุติธรรม” ผู้ชุมนุมที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ กล่าว
ประชาชนหลายพันคนยังรวมตัวกันในกรุงเนปีดอ หลายคนขี่รถจักรยานยนต์ และยังมีการประท้วงขนาดใหญ่เกิดขึ้นในเมืองมิตจีนาและทวาย
ธุรกิจหลายแห่งในย่างกุ้งและในเมืองใหญ่อื่นๆ ปิดทำการในวันนี้ หลังมีการเรียกร้องให้หยุดงานครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มโมเมนตัมให้แก่ขบวนการอารยะขัดขืน
นายพลพม่าได้ตอบสนองการลุกฮือของประชาชนด้วยการค่อยๆ เพิ่มการใช้กำลังและเพิ่มการจับกุม กองกำลังทหารและตำรวจใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา รถฉีดน้ำแรงดันสูง และกระสุนจริงบางส่วนกับผู้ชุมนุม
ในช่วงสุดสัปดาห์ มีผู้เสียชีวิต 2 คน หลังกองกำลังความมั่นคงยิงผู้ชุมนุมประท้วงในมัณฑะเลย์ และชายคนที่ 3 ถูกยิงเสียชีวิตในย่างกุ้ง
และก่อนหน้านี้ มีผู้ชุมนุมหญิงถูกยิงเข้าที่ศีรษะที่การชุมนุมประท้วงในกรุงเนปีดอ และใช้เวลาเกือบ 2 สัปดาห์ในการยื้อชีวิต ก่อนสิ้นลมในวันศุกร์ หญิงสาวรายนี้กลายเป็นผู้เสียชีวิตคนแรกของการชุมนุมประท้วง และเธอได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหาร
สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมประชาชนแล้วถึง 640 คน ผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายยังรวมถึงพนักงานการรถไฟ ข้าราชการ และพนักงานธนาคาร ที่เข้าร่วมการผละงานตามการรณรงค์ต่อต้านรัฐประหาร
รัฐบาลทหารยังควบคุมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในเวลากลางคืนต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ตามการระบุของกลุ่มสังเกตการณ์อินเทอร์เน็ต NetBlocks
กระทรวงการต่างประเทศของพม่าได้แสดงความชอบธรรมเกี่ยวกับการใช้กำลังกับผู้ชุมนุมประท้วง และกล่าวหาสหประชาชาติและรัฐบาลประเทศต่างๆ “แทรกแซงอย่างโจ่งแจ้ง” กับกิจการภายในของประเทศ
“แม้จะเผชิญกับการชุมนุมประท้วงอย่างผิดกฎหมาย การยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบและความรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุดด้วยการใช้กำลังขั้นต่ำเพื่อจัดการกับความไม่สงบ” คำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ
สหรัฐฯ แคนาดา และอังกฤษ ได้กำหนดมาตรการคว่ำบาตรกับนายพลพม่า ขณะเดียวกัน วอชิงตันยังเตือนอีกครั้งในวันอาทิตย์ว่าจะเพิ่มแรงกดดันให้มากขึ้น
“สหรัฐฯ จะยังดำเนินการอย่างหนักกับผู้ที่กระทำความรุนแรงต่อประชาชนของพม่า ในขณะที่พวกเขาเรียกร้องการฟื้นฟูรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยของพวกเขาเอง” แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศ สหรัฐฯ ระบุ
รัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปคาดว่าจะพบหารือกันในวันนี้ เพื่ออนุมัติมาตรการคว่ำบาตรของพวกเขาต่อนายพลพม่า.