MGR Onilne - เพื่อต้องการสื่อว่าคนพม่าส่วนหนึ่งต่อต้านรัฐประหารและเข้าใจว่าจีนมีส่วนรู้เห็น "ม็อบรถเสีย" จึงลามจากย่างกุ้งขึ้นไปถึง "หมู่เจ้" ปิดถนนมุ่งสู่ประตูส่งออกสินค้าเข้าจีนที่คลังสินค้าหลักไมล์ 105 แต่ความเคลื่อนไหวนี้คนรับเคราะห์ตัวจริง คือ เกษตรกร
ความเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหารของกองทัพพม่า ซึ่งนำกลยุทธ์ปิดถนนโดยแกล้งทำเป็นรถเสียที่ในพื้นทีสำคัญในกรุงย่างกุ้ง ได้ถูกนำขึ้นไปใช้ที่เมืองหมู่เจ้ เมืองชายแดนรัฐชาน-จีน
ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ (17 ก.พ.) กลุ่มผู้เคลื่อนไหวได้นำรถหลายร้อยคัน ไปจอดปิดเส้นทางสายหมู่เจ้-ศูนย์ขนถ่ายสินค้าหลักไมล์ 105 ซึ่งเป็นประตูส่งออก-นำเข้าสินค้าที่มีการซื้อขายระหว่างจีนกับพม่าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เจ้ การคัดค้านใช้รูปแบบเดียวกับในกรุงย่างกุ้ง โดยทุกคนทำทีว่ารถเสีย แล้วจอดรถทิ้งไว้บนถนน
ความเคลื่อนไหวนี้ส่งผลให้การขนส่งสินค้าที่ศูนย์ฯ หลักไมล์ 105 หยุดชะงักไปเลยตลอดทั้งวัน เนื่องจากรถบรรทุกไม่สามารถขนสินค้าเข้าไปส่งยังศูนย์ได้ เช่นเดียวกับรถบรรทุกที่จะนำสินค้าออกจากศูนย์ฯ เพื่อมากระจายต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ก็ไม่สามารถทำได้เหมือนกัน หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากร บุคลากรที่ทำงานอยู่ตามบริษัทชิปปิ้งภายในศูนย์ฯ ก็ไม่สามารถเดินทางเข้าไปยังสำนักงานได้
มีรายงานว่าวันนี้ เจ้าหน้าที่ของหมู่เจ้และรุ่ยลี่ในฝั่งจีน ซึ่งรับผิดชอบเรื่องการค้าของ 2 ประเทศ จะมีการประชุมหารือเกี่ยวกับสถานการณ์นี้
ทั้งนี้ หมู่เจ้-รุ่ยลี่เป็นประตูการค้าระหว่างพม่า-จีนที่สำคัญและมูลค่าสูงที่สุด สินค้าที่นำเข้าจากจีนและสินค้าส่งออกจากพม่าเข้าไปในจีน เกือบทั้งหมดต้องผ่านประตูนี้ ทั้งพม่าและจีน ต่างสถาปนาหมู่เจ้กับรุ่ยลี่เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่าง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ปีมานี้ การค้าขายระหว่างพม่า-จีน ต้องพบกับอุปสรรคหลากหลายประการ ทำให้มูลค่าการค้าผ่านช่องทางนี้ซึ่งเคยสูงกว่าปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สะดุดลง
ปีงบประมาณ 2559-2560 มูลค่าการค้าผ่านช่องทางหมู่เจ้-รุ่ยลี่ สูงถึง 5,400 ล้านดอลลาร์ และเพิ่มเป็น 5,800 ล้านดอลลาร์ในปี 2560-2561
ปี 2561-2562 มูลค่าการค้าลดมาเหลือ 4,900 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากเดือนสิงหาคม-กันยายน 2562 เกิดเหตุสู้รบอย่างรุนแรงระหว่างกลุ่มพันธมิตรภาคเหนือกับกองทัพพม่า มีการวางระเบิดสะพานก๊กตวินในหุบเขาก๊กเทค ที่อำเภอหนองเขียว จังหวัดจ๊อกแม จนใช้การไม่ได้ ทำให้ทางหลวงหมายเลข 3 (หมู่เจ้-ล่าเสี้ยว-มัณฑะเลย์) ซึ่งเป็นเส้นทางหลักในการขนส่งสินค้าที่ซื้อขายกันระหว่างพม่า-จีน ต้องถูกปิดไปนานกว่า 1 เดือน
ปีถัดมา (2562-2563) มูลค่าการค้ายังลดลงต่อเนื่อง เพราะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ต้องมีการปิดช่องทางและจำกัดเวลาเข้าออกของรถสินค้าระหว่างหมู่เจ้-รุ่ยลี่ โดยกระทรวงพาณิชย์พม่าตั้งเป้ามูลค่าการค้าที่นี่ในปี 2562-2563 ไว้ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ แต่ทำได้จริงแค่ 4,860 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
ภาพข้าวโพดนับสิบๆ ตันที่ได้ถูกเททิ้งลงแม่น้ำมาว หรือแม่น้ำฉ่วยหลี บางส่วนถูกเทกองไว้ริมถนน ที่บ้านหนองฝาย-กองหนอง กิ่งอำเภอมานเห้ว เมืองหมู่เจ้ ภาคเหนือของรัฐชาน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว (2563) ยังคงติดตาบรรดาเกษตรกรผู้ปลูกผลผลิตส่งเข้าไปขายในจีนอย่างไม่รู้หาย โดยข้าวโพดเหล่านี้ ชาวไร่จากทุ่งมาวเพิ่งบรรทุกใส่รถอีแต๋น เดินทางข้ามวันข้ามคืน เพื่อหวังส่งเข้าไปขายทางฝั่งจีน
เดือนเมษายน 2563 พ่อค้าจีนที่มาติดต่อรับซื้อข้าวโพดต่างให้ราคาดี เพราะข้าวโพดที่ปลูกทางฝั่งโน้นมีไม่เพียงพอ โดยรถอีแต๋น 1 คัน บรรทุกข้าวโพดได้ประมาณตันเศษๆ ราคาขายตกคันละ 3,000-4,000 หยวน ขึ้นอยู่กับคุณภาพของข้าวโพด
ชาวไร่เร่งเก็บเกี่ยวนำข้าวโพดบรรทุกขึ้นรถอีแต๋น เดินทางมาร่วม 50-60 คัน ถึงชายแดนหมู่เจ้ เช้าวันที่ 29 เมษายน แต่เมื่อมาถึงประตูด่านปิด เพราะเกิดการระบาดของโควิด-19
ข้าวโพดเป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของผลผลิตที่เกษตรกรในหลายพื้นที่ของพม่า ไม่เฉพาะจากรัฐชาน ใช้เวลาตลอดทั้งปี เพาะปลูกออกมา เพราะมีตลาดหลักขนาดใหญ่มากอยู่ในจีน
ทั้งแตงโม แตงไท ฟักทอง ข้าวโพด และผลิตผลทางการเกษตรอื่นๆ ที่เกษตรกรนับพันคนในตอนเหนือของภาคมัณฑะเลย์ ภาคสะกาย รัฐชาน เมื่อได้เก็บเกี่ยวเรียบร้อยแล้ว ต้องรีบลำเลียงขึ้นรถบรรทุกไปยังหมู่เจ้ เพื่อส่งให้พ่อค้าจีนที่มาคอยรับซื้อยังศูนย์ขนถ่ายสินค้าหลักไมล์ 105 และช่องทางการค้าชายแดนจุดอื่น
ผลิตผลการเกษตรเหล่านี้อายุไม่ยาว การขนส่ง พิธีการส่งออกแต่ละขั้นตอนจึงต้องรีบทำภายใต้เวลาจำกัด เพราะหากล่าช้าไปแม้เพียงวันเดียว ผลผลิตอาจเน่าเสียไปทั้งหมดเลยก็ได้
วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังเกิดการรัฐประหาร เจ้าหน้าที่ฝั่งรุยลี่ได้สั่งปิดประตูเข้าออกสินค้าที่ศูนย์ขนถ่ายสินค้าหลักไมล์ 105 ส่งผลให้รถบรรทุกแตงโม และแตงไท จากฝั่งพม่าที่เตรียมส่งเข้าไปในจีนกว่า 500 คัน ต้องจอดค้างคาไว้ที่ประตูหน้าด่าน
ก่อนหน้านั้นไม่กี่วัน เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมและแตงไทเหล่านี้กำลังดีใจ เพราะพ่อค้าจีนที่เข้ามาติดต่อซื้อให้ราคาดีถึงตันละ 7,000 หยวน สูงที่สุดในรอบ 7 ปี เนื่องจากแตงโมและแตงไทกำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากเพื่อนำไปใช้เซ่นไหว้ในเทศกาลตรุษจีน
ตามตัวเลขจากสมาคมเกษตรกรผู้เพาะปลูกแตงโมและแตงไท ระบุว่า พม่าส่งแตงโมเข้าจีนปีละ 8 แสนตัน และแตงไทอีกปีละ 1.5 แสนตัน แต่ปีที่แล้ว เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ยอดส่งออกตกวูบลงมาทันที จากเดิมที่ต้องมีรถบรรทุกแตงโม-แตงไท ผ่านประตูหมู้เจ้เข้าไปในจีน วันละ 300 คัน ลดลงมาเหลือเฉลี่ยวันละ 50-60 คัน
เกษตรกรผู้ปลูกแตงโมเพิ่งกลับมาลืมตาอ้าปากได้ไม่กี่วัน ก็ต้องเจอกับอุปสรรคใหม่จากการรัฐประหารและความเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารครั้งนี้.