รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ปรับบริษัทที่ส่งออกสินค้าผ่านเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จีนเป็นเจ้าของในกัมพูชาเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีน ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ
เมื่อช่วงต้นเดือน กรมศุลกากรเวียดนามระบุว่า ตรวจพบผู้ส่งออกหลายรายเปลี่ยนฉลากสินค้าจีนอย่างผิดกฎหมายให้กลายเป็น “ผลิตในเวียดนาม” เพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการกำแพงภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เป็นผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง
“กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ตรวจสอบและปรับเงินบริษัทจำนวนหนึ่งจากการหลบเลี่ยงภาษีศุลกากรในสหรัฐฯ ด้วยการกำหนดเส้นทางสินค้าผ่านกัมพูชา” โฆษกสถานทูตสหรัฐฯ กล่าวกับรอยเตอร์
“บริษัทเหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ของกัมพูชา” โฆษกสถานทูตกล่าว แต่ไม่ได้ระบุชื่อบริษัท จำนวนบริษัทที่ถูกปรับจากการเลี่ยงภาษี จำนวนค่าปรับ หรือสินค้าที่บริษัทเหล่านั้นส่งออก
กรมศุลกากรและกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาไม่ได้ตอบสนองต่อคำร้องขอความเห็นจากรอยเตอร์ในเรื่องนี้
จีนเป็นผู้บริจาคความช่วยเหลือและนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของกัมพูชา ที่ทุ่มเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาและสินเชื่อต่างๆ ผ่านโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง ที่มีเป้าหมายส่งเสริมการเชื่อมต่อทางทะเลและทางบกกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกา
เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์ ห่างจากกรุงพนมเปญทางตะวันตกราว 210 กิโลเมตร เป็นการร่วมทุนระหว่างจีนและกัมพูชาในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางที่ผลิตสิ่งทอ เสื้อผ้า กระเป๋า และผลิตภัณฑ์เครื่องหนัง ตามที่ระบุในเว็บไซต์
ภายใต้ข้อตกลงการค้าที่ขยายเวลาในปี 2559 ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) อนุญาตให้กัมพูชาส่งออกสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง เช่น กระเป๋า กระเป๋าเดินทาง และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ไปยังสหรัฐฯ แบบปลอดภาษี
รองเลขาธิการสมาคมผู้ผลิตเสื้อผ้ากัมพูชา (GMAC) ที่เป็นตัวแทนของโรงงานเสื้อผ้า 600 แห่งในกัมพูชา กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องการขนส่งสินค้าดังกล่าว
อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม มูลค่า 7,000 ล้านดอลลาร์ เป็นนายจ้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ เศรษฐกิจกัมพูชาเติบโต 7.5% ในปีที่ผ่านมา นับเป็นอัตราเติบโตสูงสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพิ่มสูงขึ้น ตามการระบุของธนาคารโลกในเดือน เม.ย.