เอเอฟพี - ครอบครัวชาวโรฮิงญา 5 คน ได้เดินทางกลับพม่าจากบังกลาเทศ ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าววันนี้ (11) ความคืบหน้าที่หาได้ยากในขณะที่ข้อตกลงการส่งผู้ลี้ภัยเป็นจำนวนมากกลับประเทศนั้นยังคงชะงักงัน
ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญามากกว่า 720,000 คน หลบหนีการปราบปรามอย่างรุนแรงของทหารในเดือน ส.ค.2560 และพักลี้ภัยอยู่ในค่ายแออัดในบังกลาเทศ
ผู้สืบสวนสหประชาชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสของพม่าควรถูกฟ้องดำเนินคดีจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ แต่พม่าปฏิเสธข้อเรียกร้องเหล่านั้น และยืนยันว่าปฏิบัติการของทหารเป็นการป้องกันตนเองจากผู้ก่อการร้าย
พม่าและบังกลาเทศลงนามข้อตกลงที่จะส่งชาวโรฮิงญากลับพม่า แต่ชาวโรฮิงญาจำนวนมากยังหวาดกลัวที่จะเดินทางกลับหากไร้ซึ่งการรับรองสิทธิ เช่น สถานะพลเมือง การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และเสรีภาพในการเคลื่อนไหว
เจ้าหน้าที่ในพม่า กล่าวว่า โรฮิงญาพลัดถิ่นมากกว่า 100 คน เดินทางกลับประเทศในช่วงหลายเดือนมานี้ แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนตั้งคำถามว่าผู้ที่เดินทางกลับนั้นกระทำด้วยความสมัครใจหรือไม่
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานวันนี้ (11) ว่า มีครอบครัวชาวโรฮิงญา 5 คน เดินทางกลับรัฐยะไข่ในเช้าวันพุธ (10)
รัฐบาลพม่ามักป่าวประกาศการเดินทางกลับในแต่ละครั้ง แต่ฝ่ายบังกลาเทศยืนยันว่า กระบวนการการส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้น
โมฮัมหมัด อาบูล คาลัม กรรมาธิการด้านผู้ลี้ภัยของรัฐบาลบังกลาเทศ กล่าวว่า เขาแค่ทราบว่ามีครอบครัวหนึ่งเดินทางออกจากค่าย แต่ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการว่าพวกเขาเดินทางกลับพม่า
“ใครๆ ก็สามารถเดินทางกลับได้หากต้องการ แต่การส่งผู้ลี้ภัยกลับประเทศอย่างเป็นทางการยังไม่เริ่มขึ้น” อาบูล คาลัม กล่าว
อับดูร์ ราฮิม หัวหน้าค่ายพักชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศ กล่าวว่า ครอบครัวดังกล่าวพักอยู่ในค่ายบาลูคาลี ในคอกซ์บาซาร์
“พวกเขาเดินทางกลับไปที่บ้านของพวกเขาใกล้เมืองหม่องดอ ในรัฐยะไข่ เมื่อวานนี้” ราฮิม กล่าว
หน่วยงานสหประชาชาติที่ลงนามข้อตกลงกับรัฐบาลพม่าเพื่อประเมินสภาพในพื้นที่จริงทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ กล่าวว่า พวกเขาดำเนินการสำรวจเบื้องต้นเมื่อเดือน ก.ย. ในหมู่บ้านราว 24 แห่ง
“ความไม่ไว้วางใจ ความหวาดกลัวชุมชนใกล้เคียง และความรู้สึกไม่ปลอดภัย ยังคงปรากฏอยู่ในหลายพื้นที่” เจ้าหน้าที่สหประชาชาติระบุในคำแถลง.