เอเอฟพี - รัฐมนตรีพม่าจะเดินทางเยี่ยมค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญาในบังกลาเทศ ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่วันนี้ (4) ถือเป็นการเยือนครั้งแรกนับตั้งแต่กองทัพพม่าขับไล่ชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮิงญาเกือบ 700,000 คน ข้ามพรมแดนไปฝั่งบังกลาเทศ
กระทรวงการต่างประเทศของบังกลาเทศยืนยันว่า วิน มัต เอ รัฐมนตรีกระทรวงสวัสดิการสังคม บรรเทาทุกข์และตั้งถิ่นฐานใหม่ของพม่า จะเดินทางเยือนค่ายผู้ลี้ภัย ที่เป็นบ้านของผู้ลี้ภัยโรฮิงญาเกือบ 1 ล้านคน
“ตารางการเดินทางของเขายังไม่แน่นอน” เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงต่างประเทศบังกลาเทศ กล่าว โดยระบุว่า การเยือนกำหนดไว้สำหรับวันที่ 11 หรือ 12 เม.ย.
สหรัฐฯ และสหประชาชาติ ระบุว่า การปราบปรามของทหารที่เริ่มขึ้นในปลายเดือน ส.ค. เทียบได้กับการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญา
เจ้าหน้าที่บังกลาเทศอีกรายหนึ่ง กล่าวว่า การเยือนครั้งนี้จะเป็นการเยือนค่ายผู้ลี้ภัยครั้งแรกของรัฐมนตรีพม่า
วิน มัต เอ เป็นรองหัวหน้าคณะทำงานภายใต้การนำของนางอองซานซูจีว่าด้วยวิกฤตในรัฐยะไข่ และเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่กำกับดูแลข้อตกลงกับบังกลาเทศในการส่งผู้ลี้ภัยกลับ
พม่าได้อนุมัติรับรองชาวโรฮิงญาหลายร้อยคนจากรายชื่อหลายพันคนที่จะเดินทางกลับ แต่ไม่มีโรฮิงญาแม้เพียงสักคนเดียวที่เดินทางข้ามพรมแดนกลับพม่า ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่พม่าถูกกล่าวหาว่า ปรับพื้นที่หมู่บ้านโรฮิงญาในรัฐยะไข่ และพยายามที่จะลบหลักฐานในพื้นที่ที่กองกำลังถูกกล่าวหากระทำทารุณ
พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว แต่ขณะเดียวกัน ก็ขัดขวางผู้สืบสวนจากการเยือนพื้นที่ที่เชื่อว่ามีโรฮิงญาหลายพันคนถูกสังหาร
แกนนำชุมชนโรฮิงญาในค่ายผู้ลี้ภัยกล่าวว่า พวกเขายินดีต่อโอกาสที่จะได้ยกความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเดินทางกลับรัฐยะไข่กับเจ้าหน้าที่พม่าที่มาเยือน
“เราต้องการที่จะพบกับท่านรัฐมนตรี” แกนนำชุมชนโรฮิงญา กล่าว
ชาวมุสลิมพลัดถิ่นจำนวนมากปฏิเสธที่จะเดินทางกลับ ด้วยหวาดกลัวว่า จะเกิดเหตุทารุณโหดร้ายขึ้นซ้ำอีกที่ทำให้พวกเขาต้องอพยพหลบหนีออกจากที่ดินของตนเอง
ผู้ลี้ภัยเรียกร้องการยอมรับว่าเป็นชนกลุ่มน้อย การเข้าถึงสาธารณสุขและการศึกษา และการรับรองว่าพวกเขาสามารถเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านเดิมของบรรพบุรุษของพวกเขาแทนที่จะถูกส่งไปอยู่ในค่ายพักในรัฐยะไข่.