เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่อาวุโสของพม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหประชาชาติที่ว่ารัฐบาลพม่าดำเนินการกวาดล้างชาติพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญา
“เรามักได้ยินข้อกล่าวหาต่างๆ ว่าเกิดเหตุกวาดล้างชาติพันธุ์หรือแม้กระทั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในพม่า...มันไม่ใช่นโยบายของรัฐ” ต่อง ตุน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติพม่า กล่าวแถลงข่าว
“เมื่อใดก็ตามที่มีหลักฐานชัดเจน เราจะดำเนินการกับผู้ที่ก่ออาชญากรรมหรือผู้ที่กระทำเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชน” ต่อง ตุน ระบุ
เมื่อวันพุธ (7) เซอิด ราอัด อัล ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ เรียกร้องให้จัดตั้งคณะทำงานเตรียมการร่างคำฟ้องดำเนินคดีกับการกระทำทารุณที่เกิดขึ้นในพม่า และในรายงานประจำปี เซอิดได้ย้ำถึงความวิตกกังวลถึงการกระทำของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่อาจเกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ที่เป็นบ้านเกิดของโรฮิงญา
ชาวโรฮิงญาราว 700,000 คน ได้อพยพหลบหนีออกจากรัฐยะไข่ข้ามฝั่งพรมแดนไปบังกลาเทศตั้งแต่ทหารดำเนินการปราบปรามในเดือนส.ค. ซึ่งทางการพม่ากล่าวโทษกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญาที่โจมตีด่านตำรวจในวันที่ 25 ส.ค. จนทำให้ทหารต้องดำเนินการปราบปรามตอบโต้ แต่สหประชาชาติและสหรัฐฯ ระบุว่า การปราบปรามอย่างรุนแรงของกองกำลังรักษาความมั่นคงพม่านั้นเทียบได้กับการกวาดล้างชาติพันธุ์
ต่อง ตุน กล่าวว่า ชาวมุสลิมส่วนใหญ่ในพื้นที่อื่นๆ ของประเทศยังคงอยู่ในหมู่บ้าน หากมีความพยายามที่จะดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ผู้คนเหล่านั้นคงจะหลบหนีออกจากพม่าไปทั้งหมด
“ข้อเท็จจริงที่ว่าพม่าตั้งใจที่จะรับคนที่ข้ามพรมแดนไปฝั่งบังกลาเทศกลับประเทศนั้นชี้ว่าเราไม่มีแผนการที่จะให้คนเหล่านั้นออกไปจากประเทศ” ต่อง ตุน กล่าว.