รอยเตอร์ - นางอองซานซูจี ผู้นำพม่าระบุว่า เป็นเรื่องดีที่กองทัพของประเทศรับผิดชอบต่อการกระทำของกองกำลังทหาร หลังกองทัพระบุว่า ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารชาวมุสลิมโรฮิงญาที่ถูกจับกุมตัว 10 คน
กองทัพระบุในคำแถลงที่ออกเมื่อวันพุธว่า ทหาร และชาวบ้านได้สังหารผู้ก่อการร้ายมุสลิม 10 คน ที่หมู่บ้านในตอนเหนือของรัฐยะไข่ ในช่วงต้นเดือน ก.ย. และผู้ที่รับผิดชอบในเหตุการณ์ดังกล่าวจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย
ในการแถลงข่าวร่วมกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซูจี ที่ถูกสอบถามถึงการยอมรับที่หาได้ยากเกี่ยวกับการกระทำความผิดของทหาร ได้กล่าวว่า กองทัพได้ดำเนินการสอบสวนและจะดำเนินการตามจำเป็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
“มันเป็นก้าวใหม่สำหรับประเทศของเรา ฉันมองอย่างนั้นเพราะประเทศจำเป็นต้องรับผิดชอบต่อหลักนิติธรรมในประเทศ และสิ่งนี้เป็นก้าวแรกของการรับผิดชอบ และเป็นสิ่งที่ดี” ซูจี กล่าว
ซูจี ไม่ค่อยพูดคุยกับสื่อ และกล่าวเพียงเล็กน้อยในที่สาธารณะเกี่ยวกับวิกฤตในรัฐยะไข่ กองทัพที่ไม่ได้อยู่ในการควบคุมของรัฐบาลพลเรือน ได้ดำเนินการตอบโต้การโจมตีของกลุ่มติดอาวุธโรฮิงญา เมื่อวันที่ 25 ส.ย. จนนำไปสู่การอพยพของชาวโรฮิงญามากกว่า 650,000 คน ไปบังกลาเทศ
เมื่อถูกถามว่าการเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับการสังหารที่หมู่บ้านอินดิน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ไปทางเหนือราว 50 กิโลเมตร อาจสร้างความวิตกต่อผู้ลี้ภัยที่กำลังถูกขอให้เดินทางกลับหรือไม่นั้น ซูจี ระบุว่า บางคนอาจรู้สึกหวาดกลัว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้
ซูจี กล่าวแถลงข่าวหลังพบหารือกับรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นในกรุงเนปีดอ ที่ได้ขอให้ซูจี รับประกันความปลอดภัย และความสมัครใจในการตั้งถิ่นฐานของผู้ที่ได้หลบหนีไป
รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า โตเกียว ที่เป็นหนึ่งในผู้บริจาคความช่วยเหลือจากต่างชาติรายใหญ่ที่สุดของพม่า วางแผนที่จะให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมประมาณ 20 ล้านดอลลาร์ ต่อผู้ลี้ภัยโรฮิงญา
“ญี่ปุ่นต้องการที่จะสนับสนุนความพยายามของพม่า” สำนักข่าวเกียวโด รายงานอ้างคำกล่าวของรัฐมนตรีต่างประเทศที่กล่าวในการแถลงข่าว
ก่อนหน้าการแถลงข่าวร่วมครั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ประกาศมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวนประมาณ 3 ล้านดอลลาร์ต่อพม่าเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของชาวโรฮิงญา.