รอยเตอร์ - นางอองซานซูจี ผู้นำพม่า จะเดินทางเยือนกรุงปักกิ่งในเร็วๆ นี้ ตามการรายงานของสื่อทางการ ในขณะที่พม่าแสดงให้เห็นถึงความใกล้ชิดกับเพื่อนบ้านทางเหนือมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของโลกต่อกรณีการอพยพของผู้ลี้ภัยโรฮิงญา
พม่า ได้รับแรงกดดันจากชาติตะวันตกจากการตอบโต้อย่างรุนแรงของกองกำลังทหารต่อเหตุการณ์โจมตีด่านรักษาความมั่นคงของกลุ่มติดอาวุธมุสลิมโรฮิงญาในรัฐยะไข่
สหรัฐฯ และสหประชาชาติ ได้กล่าวหาพม่าว่า กวาดล้างชาติพันธุ์ และเรียกร้องให้ทหารรับผิดชอบต่อข้อกล่าวหาเรื่องการสังหาร ข่มขืน และวางเพลิง ที่ทำให้ชาวโรฮิงญามากกว่า 620,000 คน ต้องหลบหนีไปบังกลาเทศ
แต่จีนได้ให้การสนับสนุนต่อสิ่งที่เจ้าหน้าที่พม่าเรียกว่าเป็นปฏิบัติการปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบในรัฐยะไข่ และยังป้องกันไม่ให้มีการลงมติเรื่องวิกฤตที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ ของทางการพม่า ระบุว่า นางอองซานซูจี จะเดินทางไปร่วมการประชุมผู้นำการเมืองโลกที่พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนเป็นเจ้าภาพในกรุงปักกิ่ง
ซอ เต โฆษกของนางอองซานซูจี ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางครั้งนี้ แต่ระบุว่า การประชุมจะเริ่มขึ้นในวันพฤหัสฯ และสิ้นสุดลงในวันที่ 3 ธ.ค. ตามการรายงานของสำนักข่าวซินหวาของจีน
พม่า กลายจุดสนใจของประชาคมโลกในสัปดาห์นี้ เมื่อสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส จะเสด็จเยือนพม่าเป็นครั้งแรก ซึ่งก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปา เคยกล่าวถึงการปฏิบัติต่อชนกลุ่มน้อยมุสลิมที่พม่าปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมือง ขณะที่ชาวคริสต์บางส่วนวิตกว่า การเสด็จเยือนพม่าครั้งนี้จะก่อให้เกิดปฏิกิริยาต่อต้าน
ชาวพม่าจำนวนมากปฏิเสธที่จะยอมรับคำว่าโรฮิงญา และเรียกชนกลุ่มน้อยกลุ่มนี้ว่า “เบงกาลี” ด้วยมองว่า ชาวมุสลิมเหล่านี้เป็นผู้อพยพมาจากบังกลาเทศ.