รอยเตอร์ - เจ้าหน้าที่รักษาชายแดนบังกลาเทศ กู้ศพผู้หญิง และเด็กชาวโรฮิงญาได้ 20 ศพ ในวันนี้ (31) หลังเรือพลิกคว่ำขณะหลบหนีความรุนแรงในพม่า ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่
ชาวมุสลิมโรฮิงญาราว 18,500 คน ที่หลายคนล้มป่วย และมีบาดแผลจากการถูกยิง ข้ามแดนเข้ามาในเขตบังกลาเทศตั้งแต่วันศุกร์ (25) ตามการระบุขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM)
ชาวโรฮิงญาได้หลบหนีออกมาจากพม่าหลังเกิดเหตุโจมตีหลายจุดโดยผู้ก่อการร้ายโรฮิงญาต่อกองกำลังรักษาความมั่นคงในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ ซึ่งนำไปสู่การปราบปรามทางทหารอย่างหนัก
ทางการพม่า ได้อพยพชาวพุทธยะไข่หลายพันคนออกจากพื้นที่เสี่ยง ที่การต่อสู้ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 117 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ก่อการร้ายโรฮิงญา และเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงอีกจำนวนหนึ่ง ตามการระบุของรัฐบาลพม่า
ในวันนี้ (31) ศพเด็กชาวโรฮิงญา 11 ศพ และผู้หญิง 9 ศพ ถูกกระแสน้ำพัดเกยฝั่งแม่น้ำนาฟ ในฝั่งบังกลาเทศ หลังเรือที่ทั้งหมดโดยสารมาเกิดพลิกคว่ำ
นอกจากนั้น ยังพบศพหญิงโรฮิงญา 2 ศพ และเด็กอีก 2 ศพ เมื่อวันพุธ หลังเรือที่เหยื่อโดยสารถูกตำรวจรักษาชายแดนพม่ายิงใส่
ในเมืองคอกซ์บาซาร์ ที่มีชายแดนติดกับพม่า ค่ายพักชั่วคราวสำหรับผู้พลัดถิ่นที่ตั้งขึ้นตั้งแต่เกิดเหตุความรุนแรงคล้ายกันนี้เมื่อเดือน ต.ค.ปีก่อน ได้ขยายพื้นที่ให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับผู้อพยพที่เดินทางมาใหม่หลายพันคนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
โมฮัมหมัด ราชิด อายุ 45 ปี หนึ่งในผู้ที่หลบหนีมาใหม่มีผ้าพันแผลปิดอยู่ใต้ดวงตา กล่าวว่า เป็นแผลจากเศษกระสุนปืนที่พุ่งเข้าใส่หลังทหารพม่ายิงเข้าใส่กลุ่มโรฮิงญา
“พวกเราซ่อนตัวอยู่ในป่านาน 2 วัน แล้วก็หยุดอยู่ที่ชายแดน แต่เราสามารถผ่านเข้ามาได้ เราได้ยินว่า บ้านหลายหลังในหมู่บ้านของเราถูกเผาราบ” ราชิด กล่าวต่อรอยเตอร์ ที่ค่ายพัก
เจ้าหน้าที่รักษาชายแดนบังกลาเทศ ระบุว่า เมื่อวันพุธ (30) ทางการได้ผลักดันชาวโรฮิงญาที่พยายามจะเข้ามาในประเทศกลับไปฝั่งพม่า 366 คน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาด้วยเรือขนาดเล็ก และมีชาวโรฮิงญาอีกหลายพันคนตั้งค่ายพักชั่วคราวอยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างสองประเทศ.
.
.