เอเอฟพี - เวียดนามตกลงที่จะช่วยเหลือหมีมากกว่า 1,000 ตัว จากฟาร์มผิดกฎหมายทั่วประเทศ ความเคลื่อนไหวที่จะยุติการค้ายาแผนโบราณจากน้ำดีของสัตว์
แม้ว่าการทำฟาร์มสกัดน้ำดีจะเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายอยู่แล้วในเวียดนาม แต่ยังมีหมีจำนวนมากถูกจับ และขังกรงในสถานที่ที่ผิดกฎหมาย ที่น้ำดีของพวกมันถูกสกัดออกมาด้วยวิธีที่สร้างความเจ็บปวดให้แก่สัตว์
กรมป่าไม้เวียดนาม และองค์กรพิทักษ์สัตว์ Animal Asia ได้ลงนามข้อตกลงกันในวันนี้ (19) ที่จะช่วยเหลือหมีจากฟาร์มต่างๆ ในความมุ่งมั่นที่จะยุติการค้าดีหมี และปิดสถานที่กักขังสัตว์เหล่านั้นทั้งหมดภายในระยะเวลา 5 ปี
“นี่เป็นวันสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง” จิล โรบินสัน ซีอีโอ Animal Asia กล่าวในพิธีลงนามในกรุงฮานอย และว่าการตัดสินใจดังกล่าวจะนำไปสู่การยุติการทำฟาร์มสกัดดีหมีในเวียดนามอย่างสิ้นเชิง
ฟาร์มสกัดดีหมีเป็นสิ่งผิดกฎหมายในเวียดนามตั้งแต่ปี 2535 แต่ฟาร์มดีหมีหลายแห่งใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเลี้ยงหมีเป็นสัตว์เลี้ยง
ปัจจุบัน เวียดนามมีหมีถูกเลี้ยงอยู่ในกรงราว 1,200 ตัว จากฟาร์มหมี 400 แห่งทั่วประเทศ ลดลงจากที่เคยมีมากกว่า 4,000 ตัว ในปี 2548
Animal Asia ประเมินว่าค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือ และสร้างพื้นที่ดูแลให้เป็นที่อยู่อาศัยของหมีอาจสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์ และเรียกร้องให้ผู้บริจาค บริษัท และรัฐบาลเข้าช่วยเหลือ
“เราไม่สามารถทำสิ่งนี้ได้ด้วยตัวเอง รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเข้าดูแลรับผิดชอบสัตว์ป่าในประเทศ” ต่วน เบนดิกซ์เซ่น ผู้อำนวยการองค์การ Animal Asia ประจำเวียดนาม กล่าว
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ทุนเป็นอุปสรรคสำคัญในการช่วยเหลือหมี และยุติการค้านี้
“เราเผชิญต่อความยากลำบากในการหาทุนเพื่อป้องกัน และหยุดยั้งการล่าและช่วยเหลือสัตว์ป่า” รองผู้อำนวยการกรมป่าไม้เวียดนาม กล่าว
เบนดิกซ์เซ่น เตือนว่า การทำฟาร์มสกัดดีหมีอาจย้ายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว หรือกัมพูชา และเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ปฏิบัติตามอนุสัญญาระหว่างประเทศที่ห้ามค้าหมี และดีหมีข้ามพรมแดน
ข้อตกลงที่มีขึ้นในวันนี้เกิดขึ้นหลังการประกาศในปี 2558 จากสมาคมยาแผนโบราณของเวียดนามว่าจะถอดดีหมีออกจากรายการใบสั่งยาที่ได้รับอนุญาตภายในปี 2563
หมีเหล่านี้มักถูกเลี้ยงไว้ในกรงขนาดเล็ก โดยน้ำดีของพวกมันจะถูกปล่อยให้หยดผ่านรูในถุงน้ำดีหรือผ่านท่อที่สอดเข้าไปในตัวหมี หลายตัวอยู่ในสภาพอดอยาก ขาดน้ำ และได้รับบาดเจ็บ.
.
.
.
.
.