รอยเตอร์ - ญี่ปุ่น และประเทศสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) เห็นพ้องกันในวันนี้ (21) ที่จะดำเนินการตามข้อตกลงการค้าของพวกเขาแม้ไร้สหรัฐฯ ในขณะที่นโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” (America First) ของทรัมป์ สร้างความตึงเครียดในที่ประชุมของบรรดาชาติภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ความวุ่นวายสับสนเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระดับโลกเปิดเผยให้เห็นในที่ประชุมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่ไม่สามารถเห็นพ้องร่วมกันในคำแถลงร่วมตามปกติของการประชุม หลังการคัดค้านของสหรัฐฯ ต่อการใช้คำเกี่ยวกับการค้าเสรีและลัทธิคุ้มครองการค้า
การประชุมที่กรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม เป็นการรวมตัวทางการค้าระดับโลกที่ใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการที่จะทบทวนแก้ไขข้อตกลงการค้าเดิมด้วยอ้างว่าข้อตกลงการค้าเสรีแบบพหุภาคีส่งผลกระทบต่องานของชาวอเมริกัน และเขาต้องการที่จะเจรจาข้อตกลงใหม่
ในการประชุมนอกรอบการประชุมเอเชีย-แปซิฟิก สมาชิกที่เหลืออีก 11 ประเทศของข้อตกลง TPP เห็นพ้องกันที่จะสำรวจตรวจสอบวิธีที่พวกเขาจะสามารถขับเคลื่อนข้อตกลง แม้ไม่มีสหรัฐฯ เป็นผู้นำเช่นก่อน แม้จะมีความหวังอยู่บ้างว่าสหรัฐฯ จะทบทวนการถอนตัวอีกครั้ง แต่โรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าคนใหม่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ไม่มีการหวนกลับ และยืนยันว่าการเจรจาทวิภาคีนั้นเป็นสิ่งที่ดีกว่าสำหรับสหรัฐฯ
ทอดด์ แมคเคลย์ รัฐมนตรีพาณิชย์นิวซีแลนด์ กล่าวว่า กลุ่มกำลังให้ความสำคัญต่อวิธีการที่จะขับเคลื่อนข้อตกลงร่วมกับ 11 ประเทศ ขณะที่มาเลเซียซึ่งลงนามในข้อตกลงระบุว่าจะมาเลเซียจำเป็นที่จะต้องทำให้แน่ใจว่าผลประโยชน์ของประเทศยังคงได้รับความคุ้มครอง และผลประโยชน์ที่ได้จากข้อตกลงยังคงมากกว่าความเสียหาย
แมคเคลย์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่จากประเทศในกลุ่ม TPP จะพบหารือกันอีกครั้งที่ญี่ปุ่น ในเดือน ก.ค. และจะนำเสนอข้อเสนอในเดือน พ.ย.