เวียดนามเน็ต - สมาคมอาหารเวียดนาม (VFA) ระบุว่า แม้ประเทศจะเผชิญต่อความยากลำบากในการส่งออกข้าวเนื่องจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง แต่เวียดนามยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งออกข้าวให้ได้มากกว่า 5 ล้านตันในปีนี้
ในการประชุมทบทวนผลการทำงานช่วงปีที่ผ่านมาของสมาคมอาหารเวียดนาม ในนครโฮจิมินห์ เลขาธิการสมาคมระบุว่า เมื่อปีก่อน เวียดนามส่งออกข้าวไปทั้งสิ้น 4.89 ล้านตัน เป็นมูลค่า 2,120 ล้านดอลลาร์ พบว่าปริมาณลดลง 25.5% และมูลค่าลดลง 20.57% เป็นผลสืบเนื่องจากการมีอุปทานส่วนเกินในตลาดทั่วโลก และแนวโน้มที่ประเทศนำเข้ารายใหญ่หันมาเพิ่มการผลิตภายในประเทศเพื่อลดการนำเข้า
เลขาธิการ VFA ระบุว่า การส่งออกข้าวของเวียดนามมีแนวโน้มที่จะเผชิญต่อความยากลำบากต่อไปอีกปี ด้วยอุปทานยังคงมากกว่าอุปสงค์ และการแข่งขันในโลกทวีความรุนแรงขึ้น
กระทรวงเกษตรเวียดนาม ระบุว่า ผลผลิตข้าวโลกในปี 2559-2560 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6% จากปีก่อน เป็น 480 ล้านตัน เนื่องจากการขยายพื้นที่ปลูกข้าวในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย พม่า บราซิล อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลีเหนือ ปากีสถาน ไทย และสหรัฐฯ และการส่งออกโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัน หรือ 2.6% ที่ 40.6 ล้านตัน
ประธานสมาคมอาหารเวียดนาม กล่าวว่า แม้การส่งออกข้าวของประเทศจะมีอุปสรรค แต่ธุรกิจค้าข้าวจะยังคงมุ่งมั่นที่จะส่งออกในปริมาณที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเกษตรกรสามารถขายข้าวได้มากที่สุดเท่าผลิตได้ และในระยะยาว เป้าหมายของภาคส่วนนี้จะอยู่ที่การส่งออกข้าวมูลค่าสูงยังตลาดที่มีกำลังซื้อสูง
สมาคมอาหารเวียดนามยังได้กำชับว่า ผู้ส่งออกข้าวควรควบคุมผลผลิตให้ได้มาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยทางอาหาร และสร้างความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับเกษตรกรเพื่อให้ได้แหล่งข้าวที่มั่นคงรองรับความต้องการของตลาด พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้กระทรวงเกษตรและการพัฒนาชนบท สร้างห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากลขึ้นในนครเกิ่นเธอ เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกตรวจสอบคุณภาพข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันสารพิษตกค้าง แทนการส่งไปตรวจสอบวิเคราะห์ในต่างประเทศ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปลูกข้าวควรแนะนำเกษตรกรเกี่ยวกับการผลิตข้าวให้ได้มาตรฐานความปลอดภัย ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรให้ใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่ได้รับการรับรองและปรับปรุงเทคนิคและระบบการสนับสนุนทางการเงิน ขณะเดียวกัน บริษัทส่งออกข้าวควรมุ่งสร้างแบรนด์ข้าว ไปพร้อมๆ กับการปรับปรุงคุณภาพข้าวด้วย.