MGRออนไลน์ -- ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการแขวงจำปาสักทางตอนใต้ของลาว ได้ทำลายเลื่อยสายอีกกว่า 500 ชุด โดยการเผาทิ้ง ทั้งหมดจับยึดจากร้านค้าที่จำหน่าย และจากประชาชนภายในเมืองมูนละปะโมก เพียงแห่งเดียว เนื่องจากมีการครอบครองและใช้ ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งแสดงให้เห็น ความพยายามของรัฐบาลชุดใหม่ ในการหยุดยั้งการตัดไม้ทำลายป่า และ อนุรักษ์ธรรมชาติกับสภาพแวดล้อม ที่ถูกทำลายอย่างกว้างขวาง ในช่วงกว่า 10 ปีมานี้
ตามรายงานของสำนักข่าวทางการ การเผาทำลายเลื่อยยนตร์ (Chainsaw/เลื่อยสาย หรือ เลื่อยโซ่) รวม 510 เครื่อง พร้อมชุดอะไหล่อีก ทั้งหมด 1,400 ชุด จัดขึ้นตอนบ่ายวันศุกร์ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา และ ภาพจำนวนหนึ่งที่นำเสนอ แสดงให้เห็นรถเครน ยกเลื่อยยนตร์จำนวนมากไปกองรวมกัน ก่อนจะมีการจุดไฟเผา ซึ่งได้กลายเป็นการจัดยึดและเผาทำลาย อุปกรณ์สำคัญที่ใช้ในการตัดไม้ทำลายป่า ครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ที่มีการเผาทำลายเลื่อยสาย 447 เครื่องในแขวงคำม่วน ที่จับยึดได้ในแขวงภาคกลางแห่งนี้
เลื่อนยนตร์ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เบ็นซิน เป็นอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็ก สะดวกในการนำพา ใช้ตัดต้นไม้ได้ดี ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่และเล็ก รวมทั้งใช้เลื่อยไม้ท่อน หรือเลื่อยเปิดปีกปีกไม้ได้อีกด้วย เป็นอุปกรณ์หวงห้ามในลาวกับอีกหลายประเทศ รวมทั้งในประเทศไทยที่ไม่อนุญาตให้วางจำหน่ายมาตั้งแต่ปลายปี 2556 ยกเว้นเพียงขนาดเล็ก ที่มีแขนยาวไม่เกิน 12 นิ้วเท่านั้น ขนาดใหญ่กว่านี้ ผู้ประสงค์จะมีไว้ในครอบครอง ต้องขออนุญาตต่อกรมป่าไม้
สื่อของทางการกล่าวว่า การจับยึดและเผาทำลายอุปกรณ์ที่สำคัญนี้ ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นในนโยบาย หยุดการตัดไม้ทำลายป่า หากยัง “แสดงให้เห็นถึงการเอาใจใส่ในการปกปักรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และเป็นการอนุรักษ์สัตว์น้ำสัตว์ป่าหวงห้าม” อีกด้วย
รัฐบาล สปป.ลาวได้ออกคำสั่งฉบับหนึ่งในเดือน พ.ค.2559 ให้หยุดการตัดไม้ทุกชนิดในทันที ในขอบเขตทั่วประเทศ ห้ามการเคลื่อนย้ายไม้ และห้ามส่งออกไม้ทุกชนิด รวมถึงไม้แปรรูป เฟอร์นิเจอร์ และ ต้นไม้เป็นๆ ที่ขุด หรือ หาออกไปจากป่าอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อทำการสำรวจตัวเลขข้อมูลต่างๆ ก่อนรัฐบาลจะพิจารณาอนุญาตให้ดำเนินการใดๆ ต่อไปได้ เป็นรายๆ ไป
.
2
3
สำนักข่าวสารปะเทดลาวรายงานในเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า มาตรการของรัฐบาลทำให้ นายทุนลักลอบตัดไม้หมดหนทาง ทุกอย่างหยุดชะงักอยู่กับที่ และจนประตู แต่ถึงกระนั้นสื่อของทางการร ก็ได้รายงานความพยายามลักลอบขนไม้ข้ามแดน อย่างผิดกฎหมายมาหลายครั้ง ทั้งไม้ท่อน และไม้แปรรูป โดยส่วนใหญ่เป็นไม้ล้ำค่า เช่น ไม้แดง ไม้มะค่า ไม้พะยูง
นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว นายทองลุน สีสุลิด กล่าวเมื่อปีที่แล้วว่า ตัวเลขการจัดเก็บภาษีส่งออกไม้ของรัฐบาล แต่ละปีมีมูลค่าเพียง 15-17 ล้าน
ดอลลาร์เท่านั้น ในขณะที่การส่งออกไม้แปรรูป และเฟอร์นิเจอร์ ของประเทศเพื่อนบ้านปลายทาง ที่ใช้ไม้จากลาว มีมูลค่าสูงปีละ 3-4 พันล้านดอลลาร์
ดร.ทองลุน กล่าวในคราวเดียวกันว่า การตัดไม้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ได้ตัดเพียงในพื้นที่ได้รับอนุญาตเท่านั้่น หากยังตัดไม้ล้ำเข้าไปในเขตป่าสงวน
อีกด้วย การตัดไม้เหนือเขื่อนแห่งต่างๆ ก็เช่นกัน ไม่เพียงแต่ไม้ที่ถูกน้ำท่วมเท่านั้น หากยังตัดลามขึ้นไปบนภูเขา ซึ่งทำให้เกิดเป็นภูหัวโล้นขึ้นมา แห่งแล้วแห่งเล่า.
