มีปัญหา? โพสต์ “เฟซบุ๊ก” บอกฮุนเซน ทางออกใหม่สำหรับชาวเขมร

รอยเตอร์ - กง จำเรือน อายุ 28 ปี ถูกควบคุมตัวในเรือนจำระหว่างรอการพิจารณาคดีขโมยทรัพย์สินบริษัทมูลค่า 80 ดอลลาร์ อาชญากรรมที่ครอบครัวของกง จำเรือน ระบุว่าเขาไม่ได้เป็นผู้กระทำ

“เราไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่มือเปล่าเท่านั้น” ลอน เจนดา แฟนสาวที่กล่าวหาว่าตำรวจพยายามข่มขู่ จำเรือน เรียกเงิน 2,000 ดอลลาร์ แลกต่อการไม่ตั้งข้อหา

จำเรือน ถูกควบคุมตัวอยู่นาน 10 วัน และไม่มีใครที่จะหันไปขอความช่วยเหลือได้ เจนดา ที่เป็นแฟนสาวตัดสินใจใช้สมาร์ทโฟนของเธอร้องอุทธรณ์โดยตรงไปถึงผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศ คือ นายกรัฐมนตรีฮุนเซน

เจนดา บันทึกวิดีโอความยาว 5 นาที เล่ารายละเอียดถึงข้อกล่าวหาความพยายามขู่กรรโชก และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฮุนเซน เข้าแทรกแซงในคดีนี้ และโพสต์คลิปวิดีโอลงบนหน้าเพจเฟซบุ๊กของฮุนเซน

ในเช้าวันถัดมา จำเรือน ถูกปล่อยตัว และคดีของเขาถูกยกฟ้อง

“เราไม่เคยคาดคิดว่านายกรัฐมนตรีจะช่วยเหลือเรา นี่เป็นปัญหาที่เล็กมากสำหรับนายกรัฐมนตรีที่จะต้องจัดการด้วยตัวเอง และมันถูกแก้ไขได้รวดเร็วมากๆ” เจนดา อายุ 26 ปี กล่าวต่อรอยเตอร์

การปล่อยตัวจำเรือน เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ฮุนเซนกำลังเพลิดเพลินต่อการใช้งานเฟซบุ๊ก ที่ในตอนนี้มีผู้ติดตามหน้าเพจเฟซบุ๊กของผู้นำเขมรมากกว่า 3 ล้านคน

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ฮุนเซนกำลังใช้เฟซบุ๊กเป็นเครื่องมือในการกู้คืนความนิยมที่เสียไปก่อนจะถึงการเลือกตั้งปี 2561 ที่จะเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดของการปกครองนาน 3 ทศวรรษของตัวเอง

ยุทธศาสตร์ของฮุนเซนครั้งนี้ดูเหมือนจะอยู่นอกเหนือคู่มือของพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่เป็นพรรคฝ่ายค้าน

การรณรงค์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของฝ่ายค้านมุ่งเป้าไปที่เยาวชนคนหนุ่มสาวผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเมืองในการเลือกตั้งปี 2556 ที่สร้างความตกตะลึงให้แก่พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของฮุนเซน และทำให้พรรค CPP เสียเสียงข้างมากในสภาไปอย่างมาก

คลิปวิดีโอของเจนดา ที่ร้องอุทธรณ์ต่อฮุนเซนแพร่สะพัดไปในโลกออนไลน์ และนับตั้งแต่นั้น ผู้นำเขมรได้เรียกร้องให้ประชาชนส่งคำร้องเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐบาลมาที่กล่องข้อความเฟซบุ๊กของเขา

ฮุนเซน ยังอ้างถึงคดีของจำเรือน ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อไม่นานนี้ว่า หากไม่มีเฟซบุ๊ก เขาก็คงไม่สามารถทำหน้าที่รับใช้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ผมจำเป็นต้องทำงานให้สำเร็จอย่างรวดเร็ว ปัญหาต่างๆ ที่ประชาชนเผชิญอยู่นั้นไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย อย่าประเมินค่าพวกเขาต่ำ” ฮุนเซน กล่าว
.

.

.
นอกเหนือไปจากคดีของจำเรือน แล้ว อดีตทหารเขมรแดงผู้นี้ยังได้รับคำชื่นชมจากการแก้ปัญหาจำนวนมากที่ปรากฏอยู่บนเฟซบุ๊ก เช่น ปัญหาค่าธรรมเนียมการสอบมหาวิทยาลัย ปัญหาทะเบียนรถจักรยานยนต์ และภาษีมรดก เป็นต้น นอกจากนั้น กระทรวงของกัมพูชา 7 กระทรวงยังได้ตั้งกลุ่มทำงาน ที่มีสมาชิก 64 คน คอยตรวจดูข้อความที่ถูกโพสต์ลงบนเฟซบุ๊กของฮุนเซน เพื่อหาเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนที่สามารถแก้ไขได้

“เราติดตามอ่านความคิดเห็นตลอดเวลาในทุกๆ วัน” เส็ง ลอธ ที่คอยเฝ้าตรวจหน้าเพจสำหรับกระทรวงการผังเมืองและการจัดการที่ดิน กล่าว

“นี่เป็นคำสั่งโดยตรงของนายกรัฐมนตรี ทำให้งานนี้ไม่สามารถละเลยได้” เส็ง ลอธ กล่าว

เซบาสเตียน แสตรนจิโอ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับฮุนเซน กล่าวว่า ความสำเร็จจากการใช้เฟซบุ๊กในการแก้ปัญหาให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งกำลังถูกทำให้กลายเป็น “ของขวัญส่วนตัว” ของฮุนเซนต่อประชาชน และมองข้ามความจำเป็นสำหรับการปฏิรูปโครงสร้างในการแก้ปัญหาการรับสินบน ความอยุติธรรม และระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ

“กลยุทธ์ประชานิยมนี้เป็นเพียงแค่ผลิตซ้ำรูปแบบเดิมที่มีในการเมืองกัมพูชา ที่การปรับปรุงความเป็นอยู่ของประชาชนถูกปฏิบัติราวกับเป็นของขวัญจากผู้มีอำนาจ มากกว่าที่จะเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาประชาคมประชาธิปไตย” แสตรนจิโอ กล่าว.