xs
xsm
sm
md
lg

บริษัทไทยครองแชมป์ดัชนี DJSI สูงสุดในอาเซียน 5 ปีซ้อน “BTS – SCB”ได้เป็นสมาชิกใหม่ปีนี้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลท.
ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผยบจ.ไทยโดดเด่นด้านความยั่งยืนในระดับโลกจากการประกาศรายชื่อบริษัทที่เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ประจำปี 2561 โดยบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ. ไทย) 5 แห่ง ได้คะแนนเป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม เป็นอันดับสองรองจากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แก่ (1) BANPU ในกลุ่มถ่านหินและเชื้อเพลิง (2) IRPC ในกลุ่มการกลั่นและการตลาดน้ำมันและแก๊ส (3) PTT ในกลุ่มน้ำมันและแก๊สต้นทาง (4) TRUE ในกลุ่มบริการโทรคมนาคม และ (5) TU ในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

ทั้ง 5 บจ. ดังกล่าวอยู่ใน 19 บจ. ไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนี DJSI นอกจากนี้ BTS และ SCB เป็นสองบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเข้าใหม่ในปีนี้ ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นที่หนึ่งในประเทศที่มี บจ.ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้นสูงสุดในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก (DJSI Emerging Markets) ตอกย้ำจุดแข็งของประเทศในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในวันนี้และการสร้างอนาคตของประเทศ สำหรับ 19 บจ.ไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน DJSI ได้แก่ AOT, BANPU, CPALL, CPF, CPN, HMPRO, IRPC, IVL, KBANK, MINT, PTT, PTTEP, PTTGC, SCC, TOP, TRUE, TU, BTS และ SCB

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่ 19 บจ.ไทยได้รับการยอมรับในระดับโลกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืน DJSI ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดในอาเซียนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 นับตั้งแต่ปี 2557 โดยในจำนวนนี้มี 5 บจ.ได้รับคะแนนสูงสุดเป็นที่หนึ่งของโลกด้านความยั่งยืนใน 5 กลุ่มอุตสาหกรรม ทั้งนี้ บจ.ที่มีความโดดเด่นด้านความยั่งยืนส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มพลังงานซึ่งมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เติบโตตลอดช่วง 3 ทศวรรษที่ผ่านมา และกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี (market of well-being) โดยบริษัทเหล่านี้ถือเป็นรากฐานในการสร้างอนาคตของประเทศ และเป็นพลังสำคัญเชิงกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทยตามยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 ให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนการพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ที่รัฐบาลกำลังเร่งผลักดันและมีความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

“ความสำเร็จในการพัฒนาความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเป็นผลจากการร่วมแรงร่วมใจและมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในตลาดทุนอย่างยาวนาน ตอกย้ำคุณภาพของตลาดทุนไทย และแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้ลงทุนทั่วโลกว่า บริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก ดำเนินงานโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environment, Social, Governance: ESG) ตลอดจนมีความพร้อมในการรับกับความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ทั้งนี้ การส่งเสริมให้ บจ.ตระหนักถึงความสำคัญและดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นแกนหลักในทุกกระบวนการถือเป็นภารกิจสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งส่งผลดีต่อบจ.ให้ได้รับการยอมรับในระดับโลก โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนา บจ.ที่มีศักยภาพให้ก้าวสู่ระดับโลกเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในระดับประเทศ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้จัดทำดัชนีความยั่งยืนของ บจ.ไทย (SET Thailand Sustainability Index: SET THSI) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ บจ.ไทยยกระดับความยั่งยืนของการดำเนินธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับและไว้วางใจจากผู้ลงทุน” ดร. ภากรกล่าว

ปัจจุบันตลาดทุนไทยมีศักยภาพและมีการเติบโตที่โดดเด่น พรั่งพร้อมด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลายและมีคุณภาพ บริษัทจดทะเบียนไทยมีความแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดี (market of well-being) และโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้อให้เกิดการเชื่อมโยงและยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีให้กับกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมเป็นศูนย์กลางการลงทุนและระดมทุนระดับภูมิภาค และเป็นตลาดทุนที่ผู้ลงทุนทุกกลุ่มต้องให้น้ำหนักการลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่างยั่งยืนในระยะยาว

ทั้งนี้ การประกาศรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม DJSI ในครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2561 โดยมีการทบทวนและประกาศรายชื่อสมาชิกในกลุ่ม DJSI ในช่วงเดือนกันยายนของทุกปี สำหรับบจ.ไทยที่ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก DJSI ประจำปี 2561 กลุ่มดัชนี DJSI World 8 บจ. ได้แก่ 1) บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) 2) บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) 3) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK)4) บมจ. ปตท. (PTT)5) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 6) บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 7) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) 8) บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)

ส่วนกลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets 19 บจ. ได้แก่ 1) บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT)2)บมจ.บ้านปู (BANPU)3) บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)4) บมจ. ซีพี ออลล์ (CPALL) 5) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)6) บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN)7) บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO)8)บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC)9) บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)10) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) 11) บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)12) บมจ.ปตท. (PTT) 13) บมจ. ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) 14) บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) 15) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)16) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)17) บมจ.ไทยออยล์ (TOP)18) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) 19) บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) นอกจากนี้ ยังมีบริษัทไทยอีก 1 แห่งที่ไม่ได้จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและได้รับการคัดเลือกเข้าดัชนี DJSI คือ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ ซึ่งมีคะแนนสูงสุดในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

วิธีการคัดเลือกสมาชิกดัชนี DJSI ในปี 2561 คัดเลือกจาก 2,521 บริษัทในตลาดทุนทั่วโลก และ 802 บริษัทในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ที่มีขนาดใหญ่และผ่านเกณฑ์เบื้องต้นในการเข้าลงทุนของผู้ลงทุนสถาบัน โดยประเมินผลการดำเนินงานในมิติเศรษฐกิจ บรรษัทภิบาล สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่อคัดเลือกบริษัทที่มีความโดดเด่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อให้กองทุนต่างๆ ทั่วโลกใช้พิจารณาประกอบการลงทุน ทั้งนี้ ณ สิ้นเมษายน 2561 สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการลงทุนอย่างยั่งยืนจากการสำรวจขององค์กรที่สนับสนุนการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบภายใต้การสนับสนุนของสหประชาชาติ (The United Nations-supported Principles for Responsible Investment: UNPRI) มีมูลค่าสูงถึง 82 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยมูลค่าการลงทุนอย่างยั่งยืนในปี 2561 เพิ่มขึ้น 14 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 18% เมื่อเทียบกับปี 2560


กำลังโหลดความคิดเห็น