“ทริปปลูกปั่น”ตามหาแหล่งที่มาอาหารอินทรีย์ที่สามพราน

ทริป “ปลูกปั่น ปั่นตามวิถีอินทรีย์สุขใจ” เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิสังคมสุขใจและร้านปลูกปั่น พาทีมงานปั่นจักรยานส่งสินค้าประจำร้านปลูกปั่นกว่า 30 ชีวิต ไปปั่นชม ชิม ช้อป ถึงแหล่งผลิตของเกษตรอินทรีย์เครือข่ายสามพรานโมเดลกันแบบครบรสชาติในวันเดียว
บนเส้นทางปั่นวิถีอินทรีย์ กว่า 60 กิโลเมตรในทริปนี้ รวมพลกันที่จุดสตาร์ทตลาดสุขใจแปดโมงเช้า เป้าหมายแรก พุ่งไปที่สวนส้มโออินทรีย์อุบลการะเวก ตำบลทรงคะนอง ผ่านหน้าวัดไร่ขิง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร พอเรียกเหงื่อซึมๆ ก็ถึงจุดหมาย ลุงอุบลเจ้าของสวน ก็ชวนเรียนรู้การทำสวนส้มโออินทรีย์ทันที แกอธิบายเสียละเอียดยิบ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก วิธีดูแลรักษา การใช้ชีวภัณฑ์ชนิดต่างๆ รวมถึงแนะเทคนิคการเลือกซื้อส้มโอ พร้อมพาไปชมบรรยากาศร่มรื่นในสวน ที่ปลูกส้มโอสายพันธุ์ทองดี และขาวน้ำผึ้ง บนพื้นที่ประมาณ 8 ไร่
ขาปั่นทีมงานปลูกปั่นพูดคุยกันอย่างสนุก มีหลายข้อซักถามบอกถึงความตั้งอกตั้งใจของทีมงานนี้ สุดท้ายลุงอุบล สรุปสั้นๆ แต่กินใจซะเหลือเกิน “เกษตรอินทรีย์ ไม่เพียงช่วยแค่สุขภาพดี แต่ช่วยให้เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมดูดีด้วย”



ปั่นกันต่อบนเส้นทางสีเขียวขจีของทุ่งนาข้าวสลับสวนผลไม้ ผ่านชุมชนเก่าแกในอำเภอสามพราน รวมระยะทางยาวๆ ราว36 กิโลเมตร มาถึงจุดแวะพักที่ 2 นั่งให้เหงื่อแห้งสักพัก กับดื่มน้ำฝรั่งอินทรีย์คั้นสดและมะพร้าวน้ำหอมอินทรีย์เรียกคืนความสดชื่น ไกด์คนเก่งพาไปรู้จักกับเจ้าของสวนฝรั่งกินจูอินทรีย์-คุณขวัญเรือน เพ็ชศรีนวล และคุณธรวิกา ปานเจริญ เจ้าของนาข้าวอินทรีย์บ้านศรีเบญจรงค์ ตำบลบางช้าง ซึ่งมีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ติดกัน ทุกคนได้ฟังเรื่องจริงไม่ผ่านจอ ถึงเส้นทางสู่เกษตรกรอินทรีย์ต้นแบบทั้งสอง ซึ่งตอกย้ำให้รู้ว่า การเปลี่ยนชีวิตมาเป็นวิถีอินทรีย์นั้นคุ้มค่าอย่างไรบ้าง
ใกล้เที่ยงวัน ฝนกลับโปรยลงมาให้ชุ่มชื้นตัว ชุ่มฉ่ำใจกันถ้วนหน้า แต่ก็ไม่ได้หยุดปั่นเพราะตกไม่หนักหนา จนมาถึงจุดหมายที่ 3 Patom Organic Farm สวนเกษตรอินทรีย์มาตรฐานสากล ของสามพรานริเวอร์ไซด์ พร้อมพักร่วมรับประทานอาหารกลางวันมื้อพิเศษด้วยกิจกรรมดีๆ ให้ออกแรงกันอีกสักนิดแบบสนุกๆ เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศเก็บพืชผัก เก็บไข่ นำไปปรุงอาหารกันเองด้วยเมนูง่ายๆ ผัดๆ ทอดๆ และล้อมวงกินอาหารแบบไทยๆ ท่ามกลางธรรมชาติกลางทุ่งข้างสวน และศาลาโรงนา โอบล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และนาข้าว ได้ดื่มชาออร์แกนิกหอมๆ และผลไม้ตามฤดูกาลเก็บสดๆ จากต้นมาเสิร์ฟตบท้าย ทั้งมะม่วง ฝรั่ง มะพร้าวน้ำหอม กล้วย
สุดท้ายทีมงานปั่นปลูกปั่นทุกคน พุ่งตรงไปหาของดีของฝากก่อนกลับบ้านที่ตลาดสุขใจ ได้ช้อป ชิมผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์ใหม่ๆ สดๆ โดยตรงจากสวนของเกษตรเครือข่ายสามพราน

ประเมินผล ทริปทัวร์ออแกนิก "ปลูกปั่น"
อรุษ นวราช กรรมการผู้จัดการ สามพราน ริเวอร์ไซด์ และผู้ก่อตั้งสามพรานโมเดล กล่าวว่า ทริปพิเศษครั้งนี้จัดเฉพาะกับร้านปลูกปั่นซึ่งเป็นพันธมิตรคู่ค้าของเรา เป็นรูปแบบของกิจกรรมการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์ หรือ Organic Tourism เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อกันระหว่างผู้ประกอบการกับเกษตรกรซึ่งเป็นผู้ผลิตระบบอินทรีย์ ทั้งด้านซื้อขายผลผลิตร่วมกัน และสื่อสารต่อให้ผู้บริโภคเข้าใจ และเห็นคุณค่าออร์แกนิก ซึ่งไม่ใช่แค่ดีต่อสุขภาพ แต่สามารถสร้างคุณค่าต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพราะทำให้ตลอดห่วงโซ่อาหารเกิดระบบอาหารสมดุลยั่งยืน
“ปลูกปั่น เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารสุขภาพที่เลือกใช้วัตถุดิบอินทรีย์โดยตรงจากเกษตรกร และส่วนหนึ่งซื้อจากเกษตรกรเครือข่ายสามพรานโมเดล เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค
เราจึงอยากให้นักปั่นส่งสินค้าประจำร้านซึ่งเขาได้พบปะกับผู้บริโภคลูกค้าโดยตรง ได้เรียนรู้จากแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากต้นทาง เมื่อเขาเข้าใจวิถีชีวิตเกษตรกรอินทรีย์ตัวจริงเสียงจริง ผมคิดว่าเขาจะนำความรู้กลับไปสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นถึงคุณค่า เป็นการขยายความต้องการให้มีผู้บริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยส่งเสริมเกษตรกรหันมาทำเกษตรวิถีอินทรีย์ที่มากขึ้นด้วย”
ศิริลักษณ์ มหาจันทนาภรณ์ ผู้บริหารร้านปลูกปั่น บอกว่า กิจกรรมนี้ ทำให้ทุกคนได้รับความรู้ เกิดความประทับใจ เมื่อได้สัมผัสจริงๆถึงความมุ่งมั่นของสามพรานโมเดลซึ่งส่งเสริมเกษตรกรในเครือข่ายหันมาทำเกษตรอินทรีย์อย่างมีระบบ และทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพมาตรฐานตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
ทีมงานปั่นของปลูกปั่นได้ศึกษาเรียนรู้และเข้าใจวิถีชีวิตเกษตรกรอินทรีย์ และจะนำกลับไปสื่อสารต่อยอดให้กับสินค้าออร์แกนิกว่าผู้บริโภคควรใส่ใจสุขภาพด้วยผลผลิตออร์แกนิก และจะช่วยลดการเจ็บป่วยเนื่องจากการได้รับสารเคมีตกค้างที่แฝงมากับอาหาร
เรียกว่ากิจกรรมนำร่องชวนเที่ยวแบบวิถีอินทรีย์ครั้งนี้ ผู้ร่วมทริปได้มาสัมผัสวิถีชีวิตของเกษตรกรอินทรีย์ ว่ามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมได้อย่างไร และผลผลิตออร์แกนิกก็ไม่ใช่ดีต่อสุขภาพของคนบริโภคเท่านั้น แต่ก่อเกิดผลดีตลอดห่วงโซ่อาหาร ที่สำคัญตอกย้ำให้ทีมปั่น “ปลูกปั่น” มีความเชื่อมั่นในวิถีอินทรีย์ที่ทำอยู่ด้วย