xs
xsm
sm
md
lg

เปิดหลักสูตรสอนทหารปลดหนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



อบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ปลดหนี้สู่วิถีพอเพียง” ทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ
ชีวิตของ จ่าสิบตรี บวร พรมแพง นายทหารจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จ. ลพบุรี ไม่ต่างจากใครหลายๆ คนที่เมื่อมีโอกาสให้กู้เงินได้ง่าย ก็จะกู้มาใช้เรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวก็ปรากฏว่ามีหนี้ท่วมหัวแล้ว ตลอดชีวิตการทำงานมีแต่การกู้เงินและสร้างหนี้ เงินเดือนที่ได้มาไม่เคยพอใช้
แต่แล้วชีวิตสามารถพลิกกลับสู่สมดุลได้อีกครั้ง ด้วยการน้อมนำ “ศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” มาใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตประจำวัน
ทางศูนย์สงครามพิเศษ จ. ลพบุรี เล็งเห็นความจำเป็นในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวในกองทัพบก ให้สามารถพึ่งพาตนเอง รู้จักอดออม ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และดำเนินชีวิตอยู่อย่างพอประมาณด้วยปัจจัยขั้นพื้นฐานของการดำเนินชีวิต ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จึงได้จัดโครงการสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของกำลังพลและครอบครัวด้วยศาสตร์พระราชา พร้อมจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ปลดหนี้สู่วิถีพอเพียง” โดยความร่วมมือกับสถาบันเศรษฐกิจพอเพียงและมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ ภายใต้การสนับสนุนของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด พร้อมเปิดศูนย์การเรียนรู้ “เกษตรอินทรีย์วิถีไทย ตามรอยเท้าพ่อ” เพื่อเป็นแบบอย่างด้านการพัฒนาเกษตรอย่างยั่งยืนและต้นแบบการเรียนรู้ศาสตร์พระราชาในหน่วยทหารสำหรับประชาชนทั่วไป
จ่าสิบตรี บวร พรมแพง นายทหารจาก หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ จ. ลพบุรี
ก่อนหน้านี้ จ่าบวรใช้ชีวิตด้วยความขัดสน รายได้ไม่พอรายจ่าย หนี้ก็พอกพูนจากครั้งแรกที่กู้เงินมาแต่งงาน ซื้อรถ และจุนเจือครอบครัวที่บ้านเกิด สุดท้ายจึงต้องกู้เงินเพิ่มอยู่เรื่อยๆ เพื่อนำมาโปะหนี้เก่า เป็นวัฏจักรที่ไม่เคยจบสิ้น
จ่าสิบตรี บวร ศิษย์รุ่นแรกในโครงการอบรมปลดหนี้ เล่าให้ฟังว่า “ผมเคยไปอบรมกสิกรรมธรรมชาติกับอาจารย์ยักษ์ (ดร. วิวัฒน์ ศัลยกำธร) ที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง และได้เรียนรู้เรื่องการออกแบบพื้นที่กสิกรรม ‘โคก หนอง นา โมเดล’ และได้นำความรู้มาปรับใช้กับพื้นที่การเกษตรของพ่อแม่ที่ต่างจังหวัด และเผยแพร่ความรู้ด้านการทำเกษตรรูปแบบใหม่ตามแนวพระราชดำริให้กับครอบครัว ญาติพี่น้อง และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง ภายเวลาเพียง 6 เดือน ผืนดินที่แห้งแล้งของพ่อผมกลับมาอุดมสมบูรณ์และพลิกฟื้นให้พ่อแม่เลี้ยงตัวเองได้อีกครั้ง
ต่อมาเมื่อได้มาเรียนหลักสูตรปลดหนี้ ซึ่งเป็นหลักสูตรต่อยอดมาจากหลักสูตรของ อ. ยักษ์ ผมได้เรียนรู้การออกแบบชีวิตของตัวเอง และทำให้ผมได้รู้ว่าถึงมีเงินน้อย แต่ผมก็สามารถใช้ชีวิตในแต่ละเดือนได้โดยไม่ขัดสน ดังนั้นผมจึงยินดีอย่างยิ่งที่ได้เข้ามาสนับสนุนการจัดอบรมรุ่นที่ 2 ในฐานะครูพี่เลี้ยง เพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ของผมให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมและดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงขององค์ในหลวง”
ศรีนวล ประทาพันธ์ หรือ พี่นิด แม่บ้านทหารผู้เข้ารับการอบรมปลดหนี้รุ่น 2
เช่นเดียวกับ ศรีนวล ประทาพันธ์ หรือ พี่นิด แม่บ้านทหารผู้เข้ารับการอบรมปลดหนี้รุ่น 2 คืออีกหนึ่งตัวอย่างของผู้ที่สามารถนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการบริหารจัดการการเงินของครอบครัว พี่นิดเปิดเผยว่า
“สามีพี่เป็นผู้เข้ารับการอบรมรุ่นแรก ทุกวันหลังเสร็จการอบรม เขาจะกลับมาปลูกผัก และทำปุ๋ยน้ำหมักต่างๆ เมื่อศูนย์ฯ เปิดการอบรมรุ่นที่ 2 จึงเข้ารับการอบรมด้วย และพบว่าได้รับความรู้มากกว่าที่คิด เมื่อกลับบ้านมาลองทำสบู่ ยาสระผม และน้ำยาเอนกประสงค์ต่างๆ สำหรับทุกคนในครอบครัว ภายในหนึ่งเดือนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก และยังมีผลิตภัณฑ์เหลือแจกจ่ายให้กับเพื่อนบ้านอีก ส่วนผักสวนครัวที่สามีปลูกไว้ก็ออกผลมากมาย
ทุกวันนี้พี่แทบไม่ต้องไปซื้อผักที่ตลาดอีกต่อไป และภายในไม่กี่เดือนก็สามารถออมเงินได้อย่างที่ไม่เคยทำได้มาก่อน พี่อยากสนับสนุนให้ลูกหลานและเพื่อนบ้านมาอบรมปลดหนี้ด้วย นอกจากนี้ พี่และสามีก็มีแผนที่จะลงมือทำการเกษตรตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ 10 ไร่ หลังจากที่สามีเกษียณอายุราชการในเร็วๆ นี้อีกด้วย”
พลตรี สายัณห์ เมืองศรี ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ
ขณะที่ พลตรี สายัณห์ เมืองศรี ผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษ กล่าวถึง “การอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร ‘ปลดหนี้สู่วิถีพอเพียง’ ว่าเป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้วยศาสตร์พระราชา ที่ศูนย์สงครามพิเศษรับนโยบายมาจากกองทัพบก โดยผู้บัญชาการทหารบกมีแนวทางในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้วยการส่งเสริมให้กำลังพลและครอบครัวมีค่านิยมในการดำรงตนให้อยู่ในหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ชีวิตอย่างรอบคอบ ไม่ฟุ่มเฟือย ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างมีคุณค่า มีเงินออม และที่สำคัญสามารถนำศาสตร์พระราชามาใช้ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างถูกต้องและยั่งยืน”
โครงการอบรมอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “ปลดหนี้สู่วิถีพอเพียง” แบ่งการอบรมออกเป็น 3 รุ่น รุ่นละ 60 คน โดยผู้เข้ารับการอบรมมีทั้งกำลังพลทหาร แม่บ้านทหารบก และบุคคลจากภายนอก
ตลอดระยะเวลา 5 วันของการอบรมโดยวิทยากรจากสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง อ. มาบเอื้อง จ.ชลบุรี ผู้เข้ารับการอบรมได้เรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติ ผ่านกิจกรรมอบรมเชิงวิชาการที่หลากหลาย ครอบคลุมองค์ความรู้ทั้งหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หลักกสิกรรมธรรมชาติ ตลอดจนแนวทางการพึ่งพาตนเองในการลดรายจ่าย/เพิ่มรายได้ การทำบัญชีครัวเรือน การปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 5 อย่าง การทำคันนาทองคำ การออกแบบพื้นที่เพื่อบริหารจัดการน้ำและขุดคลองไส้ไก่ และการฝึกอาชีพเสริมด้วยการทำน้ำยาเอนกประสงค์ โดยใช้พื้นที่ศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดการน้ำตามแนวทางศาสตร์พระราชา “ป่าสักโมเดล” หรือ ห้วยกระแทก ขนาด 600 ไร่ ของหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี เป็นสถานที่ให้ผู้เข้ารับการการอบรมได้ลงมือฝึกปฏิบัติจริง
ไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร  บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด
ด้าน ไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวเสริมว่า “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร ‘ปลดหนี้สู่วิถีพอเพียง’ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ ‘ฟื้นฟูลุ่มน้ำป่าสัก ตามรอยพ่อ’ ระยะที่ 2 ที่เชฟรอนให้การสนับสนุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อการแก้ไขปัญหาการจัดการน้ำของประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยผ่านทางการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่ชุมชนในบริเวณลุ่มน้ำป่าสัก การส่งเสริมการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ตามแนวพระราชดำริ มาประยุกต์ใช้ภายใต้แนวคิด ‘โคก หนอง นา โมเดล’ เพื่อนำมาเป็นเทคนิคด้านการจัดการดิน น้ำ ป่า ร่วมกับภูมิปัญญาท้องถิ่น และการสนับสนุนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ในการขับเคลื่อนองค์ความรู้ของศาสตร์พระราชาลงสู่การลงมือปฏิบัติ”
กำลังโหลดความคิดเห็น