“เคอร์บี้” กลมกลิ้งบนสายรุ้งด้วยมือคุณ

---คลิกชมภาพยนตร์ตัวอย่างเกมสดๆได้ที่นี่---

เปิดศักราชใหม่สำหรับการรีวิวเกมบน “นินเทนโด DS” เครื่องเล่นเกมพกพารุ่นใหม่ นับว่าครั้งแรกของเราที่ตัดสินใจรีวิวเกมบน DS ด้วยเหตุที่ว่า DS กำลังมาแรงแซงโค้ง PSP ทั้งทั่วโลกและในบ้านเรา แม้ว่าราคาแผ่นเกมจะมีราคาแพงแผ่นละ 1,400 บาทขึ้นไปก็ตาม แต่หลายเกมกลับสร้างความสนุก ชนิดที่ลืมเกมในแพลทฟอร์มอื่นไปชั่วขณะเลยทีเดียว

สำหรับเกมแรกที่เราขอติชมในครั้งนี้เป็นเกมจากผู้พัฒนาที่ชื่อ “Hal Laboratory” ทีมพัฒนาฝีมือฉมังที่พัฒนาเกมสุดคลาสสิคตระกูล “เคอร์บี้” มาตั้งแต่ปี 1992 บนเกมบอยในชื่อ “Kirby's Dream Land” ต่อจากนั้นก็ผลิตผลงานออกมาเรื่อยๆ ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนเกมด้วยดีเสมอมาเช่นกัน จนล่าสุด“เคอร์บี้”เบนเข็มมาลงใน DS กับเขาด้วย ในชื่อ “Kirby: Canvas Curse” จริงอยู่ที่เกมนี้ออกมาในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่เพิ่งจะมาแปลงภาษาเป็นอังกฤษเมื่อเดือนที่ผ่านมานี่เอง ซึ่งในบ้านเราก็มีวางจำหน่ายแล้วด้วย

มาพูดถึงตัวเกมบน DS กันดีกว่า เจ้า “เคอร์บี้” รูปทรงกลมสีชมพูสุดน่ารักนั้น มาพร้อมกับความสามารถพิเศษในการเคลื่อนตัวบนสายรุ้ง แถมยังกลายร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ที่มีพลังวิเศษได้หลากหลายรูปแบบอีกด้วย หากจัดการเหล่าตัวละครพิเศษที่อยู่กระจายตามฉากต่างๆได้ ด้านเทคนิคการเล่นเกมนี้นั้นไม่ต้องกดปุ่มบังคับให้เมื่อยมืออีกต่อไป เพียงใช้แค่ปากกาสไตลัสก็สนุกได้จนจบเกม หลักในการเล่นเกมอยู่ที่วิธีการลากเส้นสายรุ้งที่มีให้อยู่ในจำนวนจำกัด เพื่อให้ “เคอร์บี้” เคลื่อนตัวกลมๆตามไปยังทิศทางที่ต้องการ ท่ามกลางอุปสรรคนานาชนิดในฉากที่มีอยู่ 8 เลเวลๆละ 3 ด่านย่อย (เลเวลสุดท้ายเจอบอสมีอยู่ด่านเดียว) จอบนจะบอกแผนที่ในเกม เรียกว่าดูแล้วคล้ายๆการผจญภัยตะลุยด่านของ “มาริโอ” ยังไงยังงั้นเลย

หากผู้เล่นเอาปากกาไปจิ้มตรงตัวเจ้า “เคอร์บี้” มันจะหมุนตัวเองด้วยความรวดเร็วเพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าหรือถอยหลัง และพร้อมจะพุ่งเข้าชนศัตรูที่ขวางหน้า การลากเส้นรุ้งนั้นจะใช้ในการกั้นเพื่อเปลี่ยนทิศทางและใช้ป้องกันอันตรายจากศัตรูหรืออาวุธที่ปล่อยออกมา ส่วนศัตรูนั้นเรายังสกัดจุดให้มันอ่อนกำลังลงได้ด้วยการเอาปากกาไปจิ้มที่ตัวแล้วค่อยนำพาเคอร์บี้กระแซะให้ร่วงได้เช่นกัน ทั้งนี้หากเจอตัวละครลักษณะพิเศษ เวลาเราพุ่งชนมันแล้ว เราก็จะถ่ายทอดพลังพิเศษของมันมาไว้ในตัวเพื่อโจมตีคู่ต่อสู้ได้ โดยจิ้มไปที่กลางตัวเคอร์บี้ อาทิ พลังสายฟ้า ,แส้ไฟ,ลูกไฟ,จรวด,กงจักร,หินผา และบอลลูนพองตัว เป็นต้น

ในเกมหากเราเก็บดาวในฉากให้ได้ 100 ดวง ผู้เล่นจะได้ตัวเพิ่มอีก 1 ตัว เราจะต้องตามหาเหรียญที่ซ่อนอยู่ตามฉากเพื่อมาปลดล็อคสิ่งต่างๆอาทิ เพลง หรือสายรุ้งสีใหม่ๆในช่อง “Medal Swap” ซึ่งแต่ละอันจะมีค่าเหรียญไม่เท่ากัน และแต่ละด่านย่อยจะมีอยู่ 3 เหรียญ (มีบอกที่จอบนของเครื่อง ว่าด่านใดเราหาครบแล้วหรือไม่) ส่วนไอเท็มอื่นๆในด่านจะมีขวดพลังคืนชีวิต ,มะเขือเทศเพิ่มพลังเต็มขีด (เคอร์บี้มีพลังชีวิตอยู่ 4 ขีด โดนชนได้ 4 ครั้ง) และไอเท็ม 1-UP เพิ่มตัว

ตอนจบในแต่ละด่านย่อยจะมีการวัดความสามารถในการพาเคอร์บี้พุ่งไปให้ได้ไกลที่สุด ซึ่งหากทำได้ระยะไกลมากๆก็จะได้รับดาวมาก (100 นิ้ว ต่อดาว 10 ดวง) ทำให้เราได้ตัวป๊อกเพิ่มขึ้นได้อีกทาง วิธีที่จะให้ได้ระยะไกลๆคือการระดมจิ้มปากกาลงไปที่ตัวเคอร์บี้พอถึงปลายรันเวย์ให้ลากเส้นรุ้งให้ยาวที่สุดเพื่อให้เคอร์บี้พุ่งไปได้ไกลยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ฉากที่เราเล่นๆอยู่แบบลอยอยู่บนบกนั้นอาจจะง่าย ที่เราชินกับการลากเส้นขึ้นในด่านแรกๆมาโดยตลอด แต่พอเคอร์บี้ต้องลงน้ำ คุณอาจจะรู้สึกฝืนกับความรู้สึก เพราะต้องเส้นให้โค้งลง เวลาเจอกับบอสใหญ่ “Drawcia” จะต้องสังเกตพฤติกรรมของมันให้ดีว่าเราควรจะโจมตีมันด้วยวิธีใด หลบหลีกอย่างไรจึงจะไม่เสียท่าเอาง่ายๆ รับรองว่าไม่ยากอย่างที่คิด หากเราจบเกมไปแล้ว 1 ครั้งก็จะมีเคอร์บี้ตัวสีส้มมาให้ใช้ แต่เสียดายที่มันคัดลอกความสามารถไม่ได้เหมือนเจ้าเคอร์บี้ตัวชมพูซะนี่

ปริศนาในเกมเคอร์บี้นั้นไม่ยากเกินกว่าที่เราจะคิด บางฉากมีห้องลับแอบซ่อนอยู่ด้วย ซึ่งภายในนั้นจะมีพวกเหรียญ ดาวและไอเท็มเพิ่มตัว ฉากทำออกมาได้มีสีสันสวยงาม สำหรับฉากบอสใหญ่ “The World of Drawcia” เป็นฉากที่มีลายสีผสมออกมาได้ดูเป็นศิลปะซะจริงๆ แต่ติดตรงที่ไม่รู้จะทำมาเพื่ออะไร เพราะข้างในแทบไม่มีอะไรเป็นอุปสรรคชิ้นโตก่อนเจอบอสเลย ข้อด้อยของเกมนี้แทบจะหาไม่พบ ส่วนเรื่องเสียงประกอบนั้นมีมากมายให้เกิดอารมณ์ร่วม ฟังแล้วคล้ายเล่นเกมพวกมาริโอ แถมยังเอาซาวด์เอฟเฟคและเพลงประกอบมาฟังนอกเกมได้อีกหลายร้อยเสียงเลยทีเดียว

นอกจากเราจะมีเกมหลักให้เล่นแล้วนั้น ยังมีเกมรองและเกมย่อยให้เลือกเล่นอีก 2 โหมดด้วย โดยเกมรองนั้นเราจะต้องผ่านบอสเกมไป 2 เลเวลก่อนจึงจะปลดล็อคให้เล่น ได้แก่ “Rainbow Run” ที่ให้ผู้เล่นเลือกด่านที่เราเล่นไปแล้วทั้ง 8 เลเวล แต่จะเลือกเล่นในแบบเล่นทำเวลาให้เร็วที่สุด กับแบบจำกัดการขีดสายรุ้งให้น้อยที่สุด คิดเป็นมิลลิลิตรเลยทีเดียว หากทำได้ทั้ง 2 เกมเหนือสถิติที่กำหนดคุณก็จะได้รับ 3 เหรียญมาฟรีๆ ส่วนเกมย่อยจะมีอยู่ 3 เกม คือ “Block Attack” ให้เราลากเส้นกั้นให้เคอร์บี้กระแทกศัตรูให้หมดเพื่อปลดที่กั้นฉาก ,”Cart Run” ให้เราพาเคอร์บี้วิ่งแข่งกับ King Dedede ให้เข้าเส้นชัย และ Paint Panic วาดเส้นตามรูปที่กำหนดให้เร็วที่สุด เพื่อให้เคอร์บี้หนีไปข้างหน้าก่อนที่จะมีศัตรูจะมาถึง

แม้ว่าเกมเคอร์บี้จะไม่ได้ถูกทำภาพมาเป็น 3 มิติเหมือนเกมอื่นๆบน DS แต่ทว่าไอเดียการนำปากกามาใช้เล่นเกมบนหน้าจอระบบสัมผัสในการลากเส้นรุ้งนั้นค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างสูง เล่นแล้วเพลินจนเกมจบไปแล้วแบบไม่รู้ตัว แถมคุณสามารถย้อนกลับมาเก็บเหรียญที่หาไม่เจอได้ทุกเวลา สำหรับคนที่เริ่มชำนาญการเล่นอาจจะคิดว่าทำไมเกมมันจบง่ายเกินไปก็ได้ นั้นแหละคือความเพลิดเพลินที่คุณได้รับไปเต็มๆ ถ้าถามว่าคุ้มหรือไม่กับเงิน 1,500 บาทที่เสียให้กับเกมนี้ ต้องบอกว่าคุ้มครับเพื่อแลกกับไอเดียคนพัฒนาเกม

เกมการเล่น	9
กราฟิก	8
เสียง	9
ความคิดสร้างสรรค์	9.5
ความคุ้มค่า	เงินไม่หล่นแน่
ภาพรวม	9

หมายเหตุ - "ผู้จัดการเกม" จะมีการให้รางวัลเกมที่รีวิวกับเกมต่างๆที่ผ่านการรีวิวจากเรา แบ่งเป็น 3 ระดับ ดังนี้
-เหรียญทอง คะแนนภาพรวมมากกว่า 9.0
-เหรียญเงิน คะแนนภาพรวมมากกว่า 8.0
-เหรียญทองแดง คะแนนภาพรวมมากกว่า 7.0

By… FMMAN