“แพท ณปภา” เผยสถานะ “หยวน” ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นแม้ฝ่ายชายอยากจีบ เปิดทางให้เข้ามาคุยทำความรู้จักกันก่อน แม้ตอนนี้ยังไม่พร้อมเป็นแฟนใครก็ตาม ลั่นฝ่ายชายมีทั้งไลน์ เบอร์โทรศัพท์ ไอจีของตนแล้ว เหลือแค่มาทำความรู้จักกันก่อน แจงแม้ชีวิตจะมีแต่แม่ กับลูก อยู่แต่บ้าน แต่เรื่องหนุ่มๆ ก็มีเข้ามาตลอดทุกเดือนไม่เคยขาด ฉายา 8G ก็แค่มูฟออนเร็วเท่านั้น
หลังจากที่ “หยวน ดราก้อนไฟว์”หรือ “กวินรัฏฐ์ ยศอมรสุนทร” ประกาศออกสื่อว่าชอบ “แพท ณปภา ตันตระกูล” พร้อมบอกถ้าแพทพร้อมก็อยากจะลองคบดูก็ได้ และที่ไม่ทักไปเพราะตนจีบสาวไม่เป็น ล่าสุด แพท ณปภา ก็ตอบเรื่องนี้ที่งานเปิดร้าน Naffy Naffie Beauty Salon ร้านทำเล็บของหลานสาว “นาฟ ฉัฐนันท์ เถาศิริพันธ์”โดยบอกว่าตอนนี้คนอื่นคิดไปไกลแล้วว่าตนกับหยวนคบกันจริง แต่เรื่องจริงคือยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แพท : “นั่นสิ ยังไง หลายคนถามมากันเยอะเลยค่ะ มันเป็นเรื่องที่เรายังไม่ได้พูดคุยกันเลย ก็ยังงงๆ อยู่ เรื่องราวมันเกิดจากที่แพทไปรายการศึก 12 ราศี พี่หยวนเขาก็ไปด้วย แพทโดนแซวก่อนว่าทำไมเวลาที่พี่หยวนตอบคำถามแล้วเรายิ้ม ยิ้มอะไร ทำไม คือเราปลื้มกับคำตอบของเขา ทุกครั้งที่คำทำนายดวงไม่ค่อยดี เขาจะไม่ตอบคนอื่นเลย เขาจะตอบแค่ดวงเขา ราศีเขา เขาเป็นคนคิดบวก ใจเย็น ใจดี สงสัยเราจะยิ้มเยอะไปหน่อย อาจารย์ลิง (สมเกียรติ จันทร์พราหมณ์) ก็ถามทำไมถึงยิ้ม แพทก็ตอบไปว่าปลื้มเขา
เราเคยทำงานร่วมกันมาก่อน ก็ปลื้มทัศนคติเขา พอฟังเขาแล้วรู้สึกว่าเราได้อีกมุมนึงจากเขา ลุคเขาเป็นผู้ชายแข็งแรง กล้ามเป็นมัด เล่นละครก็จะได้บทแบดๆ แต่ชีวิตจริงเขาไม่ใช่เลย ชีวิตจริงเขาเป็นสุภาพบุรุษมาก เราก็เลยปลื้มแค่นั้นแหละเป็นประเด็นใหญ่โต
หลังจากนั้นรายการก็ว่าไหนลองมาคู่กันสิ เราก็เขินเนอะ แต่คนที่เขินหนักกว่าเราและจริงจังคือพี่หยวน หูแดง หน้าแดง จนเราแบบ อุ้ย! ตายแล้ว อะไรกัน พี่หยวนเขาก็ปลื้มเราเหมือนกัน เราก็คิดว่าไม่มีอะไร หลังจากเสร็จงานไป พี่หยวนเขาก็ไม่ได้ขอเบอร์ ขอไลน์เรา ก็คิดว่าคงเป็นการปลื้มกันเหมือนเราปลื้มใครสักคนนึง ในความปลื้มเราไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะอะไรยังไง ตอนแยกย้ายกันก็ไม่ได้มีอะไร วันรุ่งขึ้นก็มีประเด็นนี้เกิดขึ้น พี่ที่รู้จักก็บอกว่าที่มีประเด็นเพราะพี่หยวนมาคอมเมนต์ในไอจีเรา พอมีคำว่าแม่ มีคำว่าพ่อ คนก็คิดว่าเอาแล้ว ต้องคุยกันแน่ๆ จริงๆ อาจจะแอบคุยกันนานแล้วแต่ไม่รู้กัน”
เรื่องจริงคือยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำหรับตอนตอนนี้เปิดรับพูดคุยทุกสถานะยกเว้นเปิดตัวคบเป็นแฟน
แพท : “นับตั้งแต่ถ่ายรายการศึก12 ราศีจนถึงวันนี้ ยังไม่เคยได้คุยกันทุกช่องทางเลยนะคะ อาจจะเป็นความปลื้มกันมากกว่า พี่หยวนอาจจะตอบแบบประมาณเกรงใจ ถ้าตอบอย่างอื่นแล้วแพทจะเสียใจหรือเปล่า แกก็เลยตอบว่าปลื้มนะ จนแกไปออกรายการก็เพิ่งรู้ว่าพี่ชมพู่ ก่อนบ่ายให้ไลน์แพทไปด้วย แต่ก็ยังไม่มีการทักมานะคะ น่าจะเก็บเอาไว้ก่อน
แพทมองว่าเรื่องทุกอย่างเป็นเรื่องอนาคต แต่ปัจจุบันตอนนี้แพทยังไม่พร้อมจริงๆ ที่จะมีตัวตนกับใครสักคนนึง เป็นเพื่อน เป็นคนคุยแพทไม่ติดเลย แต่จะให้เปิดตัว เปิดหน้าอันนี้คือแพทติด ตอนนี้งาน ลูก แม่ กินเวลาแพทไปหมด 7 วันแล้วแพทไม่มีเวลาทำอะไรเลย ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามา ก็อยากจะมีเวลาให้เขา แต่ตอนนี้เรายังทำให้ไม่ได้ เราก็ไม่ต้องมี แล้วถ้าจะให้แพทเปิดทุกคนที่คุยมันก็ไม่ใช่”
ได้ดูทุกรายการที่ “หยวน” ไปตอบ บอกอีกฝ่ายสะดวกพูดคุยแต่ยังไม่สะดวกให้จีบ แต่อีกฝ่ายยังไม่เคยทักมาเลย
แพท : “ได้ดูทุกอันเลยค่ะ เขาบอกว่าเห็นน้องแพทบอกว่ายังไม่สะดวกให้เข้ามา ใช่ ยังไม่สะดวกจีบ แต่สะดวกพูดคุยกันก่อน ทักมาคุยได้นะคะ มันต้องเริ่มจากการพูดคุยกันก่อน คือพุ่งเข้ามาแล้วบอกว่าจีบนะ มันก็ตะโกนเกินไป เคสแบบนี้แพทไม่ได้เพิ่งเจอ หลายๆ คนก็ต้องทำความรู้จัก มันง่ายมาก ไม่มีไลน์ ไม่มีเบอร์ ดีเอ็มมาได้ ทักมา นี่ไลน์ นี่ไอจีพี่หยวนนะ แต่ทั้งหมดที่พูดมา มันยังไม่เกิดขึ้นเลย เราต้องมีการทักทายกันก่อน ที่ผ่านมาก่อนจะออกรายการเราก็ไม่เคยคุยกัน ทุกคนเข้าใจไปแล้วว่าเรามีการคุยกัน แต่เรื่องจริงคือไม่มี จริงอยู่ที่แพทไม่สะดวกมีแฟน แต่แพทไม่ปิดที่จะมีพี่ มีเพื่อน
เราโอเคมาก ไม่ติดเลยถ้าเขาจะทักมา เพราะตอนนี้พี่หยวนมีครบหมดแล้วทั้งเบอร์ทั้งไลน์ ไอจี เหลือแค่ทักมา ใช่ค่ะ ทักมาสิคะ จะได้คุยกัน อย่างน้อยก็เป็นพี่น้องในวงการเดียวกัน รู้จักกันไว้ ส่วนฐานะจะขยับหรือไม่ขยับมันเป็นเรื่องของอนาคต เราเห็นแต่ภายนอก เรายังไม่รู้เลยว่าพอคุยกันจริงๆ เราจะเข้ากันได้ไหม พี่หยวนยังไม่เห็นด้านมืดของแพทเลยนะ ตอนนี้พี่หยวนเห็นแต่ด้านสว่างของน้องนะ เจอด้านมืดเข้าไปอาจจะบอกไม่น่าเลยก็ได้”
บอกไม่มีสเปกแล้วสำหรับแฟนคนใหม่ ขอแค่เข้ากันได้พอดี
แพท : “โอ้ย…ไม่มีสเปกแล้วค่ะ แพทไม่ได้คาดหวังอะไรแล้ว หลังจากที่ชีวิตเราผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย ก็เลยรู้สึกว่าเราต้องการคนที่พอดีกับเราแหละ ไปกันได้ในทุกๆ เรื่อง ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป แพทยังคิดว่าพี่หยวนเขาจะใจเย็นไปหรือเปล่า เขาเป็นสายธรรมะไงเราก็คิดไปล่วงหน้าแล้วนะ แต่แพทก็ไม่เที่ยว ไม่กินเหล้า อีกนิดเดียวก็บวชแล้ว ที่ไม่มีแบบนั้นเพราะว่างก็ไปเยี่ยมแม่ พาลูกไปเรียนพิเศษ เอาลูกเข้านอน ชีวิตคือทำงาน กลับบ้าน มีแค่นี้”
แจงแม้ชีวิตจะมีแต่แม่ กับลูก อยู่แต่บ้าน แต่เรื่องหนุ่มๆ ก็มีเข้ามาตลอดทุกเดือนไม่เคยขาด จนได้ฉายาว่า 8G นั้นจริงๆ แล้วก็แค่ไม่ใช่ ก็มูฟออนให้เร็ว
แพท : “เริ่ดไหม (หัวเราะ) ย้อนแย้งไหม มันมีทั้งหามาเอง ทั้งอยู่ๆ ก็มาแบบไม่ได้ไปหา มีแบบอ้าวเหรอคะ มีแบบอ๋อใช่คะ ทุกคนมีความสวยความเริ่ดในตัวเอง เพียงแต่จังหวะมันจะมาเมื่อไหร่ ตอนน้องเงียบ น้องเหงาเลยนะ ตอนเงียบก็เงียบมากๆ พอจะมีมันก็เข้ามาให้ชุ่มชื้นหัวใจ แต่สุดท้ายเราจะรู้เองว่าคนไหนคือคนที่ใช่ (กลัวคนเสพข่าวสับสนในตัวเราบ้างไหม?) เราต้องเสพข่าวอย่างมีสติ แพทเป็นคนตรง ชัดเจน มีอะไรให้ฟังจากปากแพท เวิร์คที่สุด การที่หลายคนว่า อุ้ย ทุกเดือนเลย 8G นะ หรืออะไรก็แล้วแต่ ในความรู้สึกเราเซ้นส์มันบอกว่าน่าจะไม่ใช่ เราก็แค่เร็วที่จะพลิกตัวออกไปแล้ว เพราะสุดท้ายยืดเยื้อกันไปก็จะมีแต่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย”
ไม่กลัวการเริ่มต้นใหม่ อยากเป็นต้นแบบให้ซิงเกิลมัมยุคใหม่ มีลูกแล้วแต่ก็ยังเป็นแรร์ไอเทมของใครบางคนได้
แพท : "ไม่กลัวเลย เราเป็นซิงเกิลมัมยุคใหม่ ต่อให้เรามีลูกแล้ว เราก็ยังเป็นแรร์ไอเทมของใครบางคนได้ แล้วเราจะทำยังไงให้เราเป็นแรร์ไอเทม เราก็ต้องดูแลตัวเอง เราดูแลตัวเองมาขนาดนี้ เราจะนั่งเหงาอยู่บ้านเหรอ มันไม่เชิงบริหารเสน่ห์แต่เราแค่ทำตัวให้มีคุณค่าที่คนเห็นแล้วรู้สึกว่านี่คือแรร์ไอเทมนะ มีลูกก็แล้ว ผ่านชีวิตคู่มาแล้วแต่ก็ยังชอบอยู่
พอเราเป็นหนึ่งในนั้นเรารู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งที่เราอยากเป็นโมเดลให้กับซิงเกิลมัมหลายๆ คน เหมือนเวลาคนเป็นซิงเกิลมัมจะชอบหาข้อด้อยในตัวเองว่า คงต้องเลี้ยงลูกอยู่กับลูกแล้วแหละ ไม่มีใครอยากได้หรอก เป็นแม่มีลูกติดอีก ต่อให้ไม่มีใครแต่เราก็ต้องรู้สึกดีกับตัวเองให้เยอะๆ เหมือนที่วันนี้แพทเป็นว่าต่อให้วันนี้ไม่มีใครเข้ามาเลย แต่แพทก็จะรู้สึกดีว่า แพทหาเลี้ยงตัวเองได้แพทเลี้ยงลูกไหว แพทก็ยังทำงานมีแรง แล้วยิ่งพอมีคนเข้ามา แพทก็ยิ่งรู้สึกว่า สิ่งที่เราทำมาในที่สุดฉันก็ได้เป็นแรร์ไอเทม"
ของคุณคนยกเป็นไอดอลด้านซิงเกิลมัม เอาแต่ข้อดีของตนไปนะ
แพท : "ขอบคุณมากนะคะ ตอนนี้เวลาแพทไปเจอใครทุกคนจะบอกว่า แม่เป็นไอดอลของหนูเลยนะ แพทเลยบอกว่าเอาแต่สิ่งดีๆ ไปนะลูก ก็ต้องยอมรับว่ามีทั้งบวกและลบในตัวเอง เราคือมนุษย์ แพทเป็นมนุษย์ที่ใช้ชีวิต แพทไม่ใช่นางฟ้าที่มีแต่เรื่องราวดีๆ เรามีบวกและลบก็บอกว่าเลือกใช้เอานะ อะไรที่ไม่ดีเก็บไว้เป็นบทเรียนว่าอย่าทำแบบนี้ แต่อะไรที่มองแล้วดีเก็บไปใช้ แค่อยากให้ทุกคนมีกำลังใจและใช้ชีวิตให้มีความสุข เหมือนเวลาแพทพูดกับนาฟ นาฟเขาเป็นเด็กขี้กังวล เพราะเขาก็เป็นเสาหลักของที่บ้านเหมือนกัน และเขาก็ถอดแบบเราไปซะเกือบทุกอย่างทุกด้าน เราก็เลยบอกว่าพอวันหนึ่งนาฟโตขึ้น นาฟจะเข้าใจเองว่าสิ่งไหนที่นาฟควรเก็บ สิ่งไหนที่นาฟควรปล่อย"
ด้าน “นาฟ” เผยดีลผู้ชายให้ “แพท” ตลอด
แพท : "ตลอดเวลาค่ะ"
นาฟ : "ต้องดูแล้วแต่ช่วง ถ้าช่วงไหนพี่แพทจะทิ้งผู้ชายแล้วกลับบ้านไปนอนก่อน เราก็จะไม่นัด เพราะว่าจะเสียชื่อไง ทำไงดีวะ โอมากาเสะมีตั้งหลายคำ เขาจ่ายเงินให้พี่เราแล้ว กลับก่อนบอกว่าง่วง กลับก่อนเลยจ้า"
แพท : "ล่าสุดเขานัดให้ โห โอมากาเสะคอร์สหมื่นสอง 20 คำ คือเราเป็นฟีลแบบได้ทำความรู้จักกันแล้วไง 5 คำแรกก็รู้จักแล้วว่าเขาชื่ออะไร เป็นมายังไง เราดูเวลาแล้ว สวัสดีค่ะ เดี๋ยวอีก 10 คำ พี่เสิร์ฟคนอื่นได้เลย เขาก็งง"
นาฟ : "เราก็บอกว่าเขาคงรีบกลับบ้านไปนอน เป็นอย่างนี้แหละทำงานเช้าทุกวัน ผู้ชายที่เข้ามาบางทีหนูก็ไปดีลเลย เนี่ย พี่สาวหนูสวยโสด สนใจไหม สนใจทุกคน ขายออกทุกคน (ยิ้ม) เราไม่ได้21รู้สเปกเขา เราก็หาๆมาก่อนชอบไม่ชอบก็แล้วแต่เขา"
แพท : "ตั้งแต่อยู่กันมาเป๊กพี่เป็นยังไง"
นาฟ : "ต้องยอมพี่แพท ต้องอยู่ภายใต้อำนาจ ใช่ไหม ถูกไหม ต้องว่านอนสอนง่าย อยู่ด้วยแล้วกระชุ่มกระชวยหัวใจ"
แพท : "คือมันไม่เชิงว่านอนสอนง่าย แพทว่าคำที่นาฟกำลังจะสื่อคือคำว่าเข้าใจ คำนี้น่าจะดีกว่า คำว่าเข้าใจ เรามีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างชัดเจน"
นาฟ : "เป็นคนติสต์ก็บอกเขาไปพี่แพท (หัวเราะ)"
แพท : "เออ แพทก็คิดอยู่นะว่าใช่หรือเปล่า คือเรามีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างชัดเจนแล้วเราชัดเจน ฉะนั้นคนที่เข้ามาอาจจะต้องเข้าใจเราเยอะหน่อยว่า อ๋อโอเค แพทภาระมันเยอะ ถ้าสมมติว่าอยากจะมีชีวิตด้วยกัน อาจจะต้องมาดูภาระเราด้วย คือหมายถึงอาจจะต้องมาจอยกับเราในหลายอย่าง แพทเป็นคนติดลูก ติดครอบครัว เพราะฉะนั้นมันอาจจะหาคนเข้าใจยากว่า ต้องเอาลูกไปทุกที่เลยเหรอ หรือบางทีจะไปเที่ยวไปไม่ได้เพราะลูกเข้าไม่ได้ แต่เธอจะแว้บมาไม่ได้เลยเหรอ เราก็จะบอกไม่ได้ค่ะ ถ้าอยากไปก็ต้องเลือกร้านที่ลูกเราไปได้ จะต้องเป็นผับแอนด์เรสเตอรอง สมมติกินข้าวกันเสร็จคุณอยากไปผับคุณก็ไป เราแยก แต่ถ้าอันไหนที่ลูกเราเข้าไม่ได้ เราก็จะไม่สะดวกไปแล้ว เห็นมั้ยว่ามันต้องใช้ความเข้าใจเยอะหน่อย น้องก็เริ่มเหนื่อยในการหาให้"
นาฟ : "แต่ก็ยังหาได้อีก"
แพท : "แล้วพอเราเทปุ๊บ คนที่รับภาระก็น้องเรา เพราะผู้ชายก็จะโทร.มาด่าน้องเรา นี่ ดีลยังไงวะ"
ประกาศโสดคู่ เข้ามาเป็นแพ็กคู่กันได้เลย
แพท : "น้องโสดนะคะ เพียบพร้อม อย่างแรกเขามีพี่สาวที่ดีมาก"
นาฟ : "ถ้าตัวเองโสด มีพี่มีเพื่อนที่โสด เอามาแพ็กคู่ได้เลย"
แพท : "ครอบครัวเราน่ารัก หลานสาวเป็นคนเก่ง ไม่ต้องห่วงว่าได้ไปจะมาเป็นภาระหรือเปล่า หาเลี้ยงตัวเองเก่งมาก ใครก็ได้ เขาชอบผู้ชายที่เป็นผู้นำ และเป็นผู้ตามด้วย เขาจะไม่ชอบผู้ชายที่ตามเขาตลอด เขาชอบผู้ชายที่มีแนวคิด มีความคิด มีงานมีการทำแต่ถึงเวลาเรียกก็มา นาฟ รู้ใจๆ"
เล่าอาการคุณแม่ตอนนี้ไม่รับรู้อะไรแล้ว แต่ก็สู้ที่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อมากๆ
แพท : "ตอนนี้ต้องบอกว่าคุณย่าไม่ได้รับรู้อะไรแล้ว เพียงแต่ว่าที่เรากลัวมากที่สุดคือ การกลับมาแล้วแย่ไปกว่าเดิม คือก่อนหน้าที่คุณแม่จะหยุดหายใจไป เขาก็ติดเตียงแล้ว ไม่ได้รับรู้ ไม่ได้ตอบโต้ แต่ว่าเรายังป้อนข้าวกันได้อยู่ แต่ไม่ค่อยขยับและไม่พูดแล้วแหละ แต่พอน็อกไปตอนที่แกหยุดหายใจไปเกือบ 5 นาที เรากลัวมากกลับมาแล้วต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ เจาะคอ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่มันเป็นมากๆ ปรากฎว่าคุณแม่สู้มาก
ล่าสุดไม่ต้องเจาะคอ ไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ใส่แค่สายฟรีซอย่างเดียว ฟรีซอาหารเพราะว่าคุณแม่เริ่มลืมเรื่องการกลืนแล้ว เพราะฉะนั้นการป้อนคุณหมอไม่แนะนำแล้วเพราะว่าจะเกิดอาการสำลักได้ เพราะสำลักปุ๊บปอดติดเชื้อคราวนี้ก็จะเรื่องใหญ่อีกครั้งหนึ่ง ก็จะเป็นการฟรีซด้วยสายแล้วตอนนี้สวนท่อปัสสาวะเพราะว่าแกมีแผลกดทับค่อนข้างใหญ่ตรงบริเวณก้น การใส่ผ้าอ้อมนานๆ หรือว่าแฉะนานๆ แล้วเปลี่ยนไม่ทัน คุณหมอเขากลัวว่าจะมีปัญหาว่าแผลมันจะตื้นขึ้นช้า ตอนนี้ใช้คู่กันคือใช้ทั้งผ้าอ้อมด้วยและสอดท่อปัสสาวะด้วย ตอนแรกก็กังวลอีกว่ามันจะมีอาการติดเชื้อทางท่อปัสสาวะ แต่เราก็ต้องยอมแลกกันเพราะว่าไม่งั้นแผลมันก็จะไม่ดีขึ้น”
ย้ายคุณแม่ไปสถานดูแลผู้ป่วย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินอุปกรณ์ที่บ้านไม่เพียงพอช่วยชีวิต
แพท : “ล่าสุดแพทย้ายคุณแม่ออกจากโรงพยาบาลสักพักใหญ่แล้ว ไปอยู่ที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยตรงอิชิ เลียบด่วน เส้นเกษตรนวมินทร์ ซึ่งใกล้กับที่ทำงานด้วย เดินทางสะดวก ตอนแรกลังเลว่าจะเอาคนจากศูนย์มาไว้ที่บ้าน ทางศูนย์ก็บอกว่าถ้าเกิดคุณแม่เกิดตัวร้อนมีภาวะอะไรอีก อุปกรณ์ที่บ้านอาจจะไม่เพียงพอ แล้วกว่าจะนำส่งโรงพยาบาลเดี๋ยวมันจะแย่เป็นเหมือนครั้งแรก ก็เลยตัดสินใจร่วมกันว่างั้นเอาคุณแม่ไปไว้ที่ศูนย์อิชิ
ซึ่งเขาจะรายงานแพททุกสามชั่วโมงยิ่งกว่าเราดูเองอีก แพทจะมีเวลาพอว่างปุ๊บไปนั่งเฝ้านอนเฝ้าใช้ชีวิตอยู่กับแก สิ่งที่ตอนนี้เราแฮปปี้มาก คุณแม่หน้าสดใสมาก รู้เลยว่าแกกินอิ่มนอนหลับ แล้วแผลต่างๆ ที่ตอนแรกมันเหวอะหวะดีขึ้นจนเราขอบคุณมากๆ เลย คุณแม่กลับมานั่งวีลแชร์ได้บ้าง มันก็เป็นผลดีว่าถ้าเกิดเราจะพาแกออกไปข้างนอก เราก็สามารถทำได้แกกลับมานั่งวีลแชร์ได้บ้างแล้ว สามารถทรงตัวได้ เขามีทำกายภาพยืดเส้นก็โอเค ตอนนี้ทรงๆ แค่ไม่ได้ใส่สายเพิ่ม ไม่ต้องเจาะคอ แพทถือว่ามันดีมากๆ"
บอกวันๆ คุยอะไรกับคุณแม่บ้าง
แพท : "เหมือนเดิม แม่เป็นไง ฮัลโหลคุณนาย ฉันมาแล้ว แพทจะคุยกับแม่แบบนี้ตลอด ฮัลโหลคุณนาย มาแล้ววันนี้สวยไหม ก็จะคุยเหมือนเป็นเพื่อนกัน ไม่ได้ทำให้ดูเศร้าโศก ทำตัวดีอนุญาตให้นอน เดี๋ยวปิดไฟให้ วันนี้เราจะฟังบทสวดมนต์ไปด้วยกัน ฟังตั้งนานแล้วท่องได้หรือยังคะ ก็จะคุยแบบนี้ทุกครั้งเหมือนแต่ก่อนที่เราคุยกันค่ะ อย่างน้อยแพทรู้สึกว่าเสียงที่เราพูดคุย แกตอบไม่ได้ แต่แพทว่าแกรับรู้ อยู่ที่ศูนย์สบายใจเลย เพราะเขาเช็กอัปให้แพททุก 3 ชั่วโมง ถ่ายรูปแผลให้ พลิกตะแคงตัว หายใจปกติ อุณหภูมิร่างกาย ตรวจ ATK ทุกวัน สุดยอดค่ะ"


