มันยิ่งกว่ารถไฟเหาะในสวนสนุกยักษ์ที่มีอยู่ในโลกนี้ก็ว่าได้สำหรับการแย่งแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาล 2021 – 2022 ที่เพิ่งปิดฉากไปเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
อุปมาอุปมัยให้การเบียดแย่งแชมป์ของ ‘เรือใบสีฟ้า’ แมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล หน นี้เป็นหนัง ก็จัดได้ว่านี่คือหนังที่ร่ายเวทย์มนต์สะกดคนดูให้เผลอจับพนักอิงจนเหงื่อหยดติ๋งๆ ตั้งแต่หนังเริ่มฉายกระทั่งถึงฉากอาวสาน
ดรามาโคตรๆ, ระทึกขวัญสั่นประสาทสุดๆ, พลิกอารมณ์สุดติ่งแสรดๆ
ไม่มีชื่อว่าใครเขียนบทให้การยื้อแย่งถ้วยใบที่ทุกสโมสรของอังกฤษปรารถนาคว้ามาครอบครอง แต่ต้องปรบมือแล้วลุกขึ้นโค้งคารวะให้อย่างงามๆ
จะมีสักกี่คนคาดคิดว่าเล่นไปได้เพียง 3 นาที วูลฟ์จะขึ้นนำเจ้าบ้านอย่างลิเวอร์พูลที่เรื่องของเรื่องต้องเอาชนะในแมทช์นี้ให้ได้ เหนือยิ่งสิ่งใด ต้องลุ้นให้อีกสนามหนึ่งซึ่งห้ำหั่นกันระหว่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ กับ แอสตัน วิลลา ผลออกมาอย่างน้อยเสมอ หรือดีที่สุดคือเรือใบสีฟ้าพังคาบ้านตัวเอง
เหล่าสาวกหงส์ทั้งในสนามและทั่วโลกมีอะไรให้ต้องลุ้นบ้าง(กับหนังเรื่องนี้)....อย่างแรกคือ ลุ้นให้หงส์แดงตีเสมอ อย่างสองก็เป็นลุ้นให้ทีมโปรดของพวกเขายิงแซง อย่างสามเป็นลุ้นให้สกอร์ที่เอติฮัด เสตเดี้ยมของแมนฯ ซิ สกอร์ยันกันอยู่ที่ 0 – 0 อย่างต่อมา ถ้าเป็นไปได้ขอลูกทีมของสตีเฟ่น เจอร์ราด ‘เด็กเก่า’ ถิ่นแอนฟิลด์ สตาร์ทนำไปเลย
เป็นไงล่ะ...ลุ้นระทึกกี่ขยัก
เช่นเดียวกับแฟนคลับเรือใบที่ต้องลุ้นใจระทึกกับเป้าหมายที่ต้องเป็นไปตามวาดหวังให้ได้ในหลายสเต็ปด้วยกัน
จากนั้นลิเวอร์พูลก็ตามตีเสมอจนได้ ถือว่าเบาใจไปได้หนึ่งเปลาะ
พักเดียวภายในสนามของลิเวอร์พูลก็กระหึ่มไปด้วยความกึกก้องของกองเชียร์ มิใช่เพราะหงส์ออกนำ หากแต่เป็นข่าวจากอีกสนามส่งสัญญาณให้บรรดานักเตะหงส์รู้ว่าวิลลานำเรือใบแล้ว
และ...วิลลานำสองประตูเรียบร้อยแล้ว และลิเวอร์พูลก็แซงสำเร็จ
แชมป์ที่ 3 เห็นๆ
ขณะที่แอนฟิลด์เอ่อท้นไปด้วยความปีติ ลองจินตนาภาพเอาเองละกันว่าผู้เขียนบทใส่อะไรไว้ในถิ่นเรือใบสีฟ้าบ้าง
แต่แค่ 5 นาที หนังเรื่องนี้ก็กระชาก หรือพูดอีกแบบคือถีบคนดูหัวคะมำกับพื้น เพราะแมนเชสเตอร์ซิตี้โกงความตายอย่างสุดมหัศจรรย์จากตามสองเม็ดมาเป็นนำสามเม็ดแล้วปาดหน้าคว้าแชมป์ไปครอง
ภาพในจอทีวีที่ผู้เป็นพ่อปลอบเด็กชายวัยประถมที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นบนอัฒจรรย์แอนฟิลด์ อธิบายหนัง เอ้ย! เรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
นี่จะเป็นอีกเหตุการณ์ที่เล่าขานไม่จบสิ้น และนี่คือมนต์ขลังแห่งฟุตบอลโดยแท้
