“แพนเค้ก” เผยนาทีโดนฉกกระเป๋าอเมริกา ทำใจประมาทเอง

เดินทางไปร่วมงานเดินแฟชั่นที่อเมริกาก็โดนแจ๊คพ็อตเจอทุบรถโจรขโมยกระเป๋าไปทั้งใบ เอกสารสำคัญและข้าวของหายเกลี้ยง งานนี้ “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” ไม่โทษใคร เพราะชะล่าใจเอง หลายคนเตือนแล้วมาที่นี่ต้องระวังเรื่องโดนขโมยของ ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง โชคดีมีกงสุลไปร่วงานแฟชั่นด้วยก็เลยได้รับ

"แพนไปแฟชั่นโชว์ที่แอลเอฯ ค่ะ วันสุดท้ายก่อนจะเดินทางกลับเราก็ไปแวะสถานที่ท่องเที่ยวของเขา ซึ่งก็จอดรถเอาไว้ในตึกที่จอดรถปกติและใกล้ทางเข้าห้าง เราก็คิดว่าน่าจะโอเคแล้วก็มีแบ่งของลงไปและทิ้งของบางส่วนเอาไว้ ก็ลงไปเดินถ่ายรูปแถวๆ นั้นประมาณชั่วโมงนึง พอเดินกลับเข้ามาเปิดประตูรถน้องสาวแพนก็บอกว่าน้ำหกเหรอ เห็นเป็นเงาๆ ใสๆ พอเข้าไปดูใกล้ๆ ก็กลายเป็นเศษกระจกทั้งบานด้านซ้ายแตกหมดเลย”

“แพนก็ช็อคตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็ตั้งสติกันว่ามันมีอะไรหายไปบ้างหรือเปล่า ของคุณแม่ก็ถูกค้นไป แต่ไม่ได้มีอะไรที่สำคัญมากในนั้น แต่ของแพนกระเป๋าที่มีทุกอย่างก็โดนอุ้มไปทั้งใบเลย ในนั้นมีโทรศัพท์อุปกรณ์แก็ตเจ็คทั้งหลายค่ะ ไอแพด กล้อง เงินสด มีของใช้จำเป็นของเราต่างๆ ก็มีพวกพาสสปอร์ตเอกสารสำคัญของเรา ก็คือรวมอยู่ในกระเป๋าใบนั้นหมดเลยและของพี่สาวแพนก็โดนเอาไปทั้งใบเหมือนกัน ความเสียหายก็พอสมควร จริงๆ มันก็เป็นพวกของใช้งาน พวกแก็ตเจ็ตอะไรต่างๆ ตอนนี้ไม่อยากนึกเลยว่ามีอะไรบ้าง (หัวเราะ) เพราะถ้าคิดมันก็หลายอย่างก็ตัดใจดีกว่า"

ผิดที่ชะล่าใจเอง ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องการขโมยของนักท่องเที่ยว
"จริงๆ รับรู้อยู่ตลอดเวลาค่ะ เวลาไปเขาก็จะเตือนว่าอย่าทิ้งของไว้ในรถ หรือถ้ามีของในรถก็ต้องปิดให้มิดชิด แต่ด้วยความที่เราคิดว่ามันน่าจะโอเคแล้ว ที่จอดรถก็ดูโปร่งไม่ได้เปลี่ยวอะไร แต่เป็นความชะล่าใจของเราเองนี่แหละ และทิ้งเอกสารสำคัญไว้ในรถด้วย ซึ่งควรจะอยู่ติดตัวอันนี้คือสำคัญมาก ก็เลยคิดว่ามันก็สอนตัวเราเองเหมือนกัน ก็มีคนบอกว่าประเทศนี้และอีกหลายๆ ประเทศเขาก็มีชื่อในด้านนี้ มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยอยู่แล้ว และคนไทยก็ประสบเหตุการณ์แบบนี้บ่อยมากในต่างประเทศ ทุกคนก็จะบอกว่าไปถึงที่เขาแล้วล่ะเพราะโดนเต็มๆ (หัวเราะ)"

ตัดใจเรื่องของหายเพราะยังไงก็ไม่ได้คืน แต่ต้องรีบไปทำพาสปอร์ตที่กงสุลอย่างเร่งด่วน เพราะต้องรีบไปขึ้นเครื่อง
"ไม่ทันได้เปิดกล้องเลยเพราะว่าแพนต้องรีบไปขึ้นเครื่องต่อ เวลามันเหลือน้อยมาก เราโทรแจ้งตำรวจเขาบอกอีก 3 ชม.เขาจะมา เราก็บอกว่ามันไม่ทันเพราะเราต้องรีบไปขึ้นเครื่องแล้ว และเราต้องไปทำเอกสารด้วย ซึ่งตอนนั้นเราเลยต้องรีบติดต่อสถานทูตกงสุลใหญ่อธิบดีกรมการกงสุลที่กรุงเทพฯ ว่าเราควรต้องทำยังไง และแพนก็เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของหนังสือเดินทางไทยด้วย เราก็เคยแต่ประชาสัมพันธ์ว่าถ้าเกิดเหตุอะไรก็ติดต่อกงสุลนะคะสถานทูต อันนี้เลยได้ประสบการณ์ตรงเลย ทานอธิบดีกงสุลก็แนะนำว่าติดต่อไปทางกงสุลใหญ่เลยเพราะเราต้องทำเอกสารด้วย เวลาก็น้อยมากกระชั้นชิดมาก"

"ถ้าในทางตำรวจแพนคิดว่าน่าจะไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติม แต่รถเช่าที่เอาไปคืนก็อาจจะมีเรื่องของค่าซ่อมแซม เขาก็ถามอยู่ว่าของที่หายไปมีอะไรบ้าง ให้เราลิสต์เอาไว้ เขาอาจจะโค้ฟเวอร์ได้หรือยังไง ก็อยู่ในกระบวนการต่างๆ แต่จริงๆ ตัดใจแล้วแหละ เพราะมันไปขนาดนั้นก็ไม่รู้ว่าจะกระจัดกระจายไปอยู่แห่งหนไหนแล้ว (หัวเราะ)"

เผยอธิบดีกงสุลบอกว่า คนไทยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อยเกือบ 200 กว่าคน
"ท่านก็บอกว่าขอบคุณมากที่เราก็ได้มีโอกาสบอกต่อจากประสบการณ์ตรงด้วย และเรื่องนี้เป็นเคสที่เกิดขึ้นเยอะมากที่นั่น และมีคนไทยเกือบ 200 กว่าเคสที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้แล้วมาติดต่อที่กงสุลใหญ่ ก็เหมือนเราได้ช่วยกันกระจายข่าว และสายการบินที่เรากลับมาก็ช่วยประสานงานให้ตั้งแต่ที่แอลเอฯ จนถึงกรุงเทพฯ ตม.ประเทศเรา ทำให้ทุกอย่างเรียบร้อย เราก็มาบอกต่อได้ว่าพอเกิดเหตุแบบนี้จะทำยังไงได้บ้าง ก็มีคนที่เคยเจอแบบนี้แล้วเอามาแชร์กับแพนก็เยอะพอสมควร ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆ (หัวเราะ) ก็บอกตัวเองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอค่ะ และเราก็ไม่ควรชะล่าใจ ยิ่งเอกสารหรือของสำคัญยิ่งควรจะอยู่ใกล้ตัว"

กงสุลให้ความช่วยเหลือดีมาก ไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใดๆ แค่โชคดีที่ทางกงสุลใหญ่เป็นส่วนหนึ่งของการจัดงานที่แพนเค้กไปเดินแฟชั่น เจ้าหน้าเลยทำเอกสารให้
"ถ้าเราติดต่อไปที่กงสุลก็ไม่ได้ยุ่งยากนะคะ คือถ้าอยู่ในช่วงเวลาทำการแพนคิดว่าเจ้าหน้าที่ที่กงสุลใหญ่เขาก็เตรียมที่จะประสานงานให้เราอยู่แล้ว เราก็ต้องเตรียยมรูปถ่ายไปแพนก็ต้องแวะถ่ายรูปก่อน เพื่อเตรียมรูปถ่ายไปให้ทางกงสุลใหญ่ประกอบกับเอกสารที่จะทำไป เขาก็จะให้เอกสารเป็น C.I. มา ซึ่งเป็นการเดินทางกลับขาเดียวเท่านั้น ถึงกรุงเทพฯ ปุ๊ปก็ทำอะไรต่อไม่ได้"

"ไม่ได้รับอภิสิทธิ์ใดๆ เลย คือในงานวันนั้นที่แพนไปร่วมเดินแฟชั่นโชว์ ทางกงสุลใหญ่เองก็เป็นส่วนหนึ่งของงาน และเป็นคืนที่เขากำลังมีงานเลี้ยงขอบคุณทางดีไซเนอร์ทางผู้ร่วมงานพอดี ซึ่งเป็นโชคดีช่วงที่เราเกิดเรื่องทุกคนยังอยู่ที่กงสุลใหญ่ พอเราโทรไปทางเจ้าหน้าที่ก็รีบติดต่อทำเอกสารให้ทันที แต่แพนคิดว่าในเคสอื่นๆ ถ้าอยู่ในช่วงของเวลาทำการปกติก็คิดว่าน่าจะสะดวกและรวดเร็วเช่นกันค่ะ ก็คงจะอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงทีที่สุดค่ะ"

ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ในการเดินทาง
"เป็นครั้งแรกค่ะ ก็ที่เราไม่คิดเพราะเราเดินทางเยอะมาก และไปหลายประเทศติดต่อกันและเรารอดมาได้ ที่ไหนที่คนบอกเขาโดนล้วงกระเป๋ากันเยอะ แต่เราไม่โดนแต่พอมาถึงที่นี่ที่เรามาบ่อยและไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องได้ก็โดน ถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ของแพนเราควรจะดูแลของเรา และพอถึงเวลาเราก็ต้องรีบลำดับเหตุการณ์ว่าเราควรทำอะไรก่อนหลัง ตอนนี้จำขึ้นใจเลย กลัวมาก (หัวเราะ) ไม่ได้คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง คิดว่ากระเป๋าก็ไม่ได้ใช้ของราคาสูงมากมาย คือเป็นของใช้งานจริงๆ สีดำ เรียบร้อยปิดมิดชิด"